สำนวนคดี “เสี่ยเเป้ง” ส่งด่วนถึงอธิบดีอัยการวิชาการวิเคราะห์วันนี้

27 พ.ย. – สำนวนคดี “เสี่ยเเป้ง” จากอัยการภาค 9 ส่งด่วนถึงอธิบดีอัยการวิชาการวิเคราะห์วันนี้ ย้ายอัยการ บ. หรือไม่ ต้องรอผลสอบ ยังไม่เรียกใครมาสอบเพิ่ม รอสำนวนถึงก่อน


นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด อัดคลิปเผยแพร่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีและพาดพิง เคยตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับอัยการ บ. แต่ตัวเองถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียวนั้น ว่า จากกรณีดังกล่าวมีอัยการ 2 คน ถูกพาดพิง ซึ่งเดิมสำนวนคดีนี้มีอยู่ 2 ส่วน ส่วนเเรกเป็นส่วนที่สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาซึ่งในส่วนนี้มีอัยการที่ชื่อ บ. ถูกพาดพิง อยู่ในกลุ่ม 1 ใน 6 ผู้ต้องหา มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องคดีจริง คดีเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 มีนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง เป็นผู้ต้องหาที่ 1 และอัยการ บ. เป็นผู้ต้องหาที่ 2 ถูกตั้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ, ข่มขืนใจผู้อื่นฯ, มีอาวุธฯ, พาอาวุธไปที่สาธารณะฯ ซึ่งอธิบดีอัยการภาค 9 ในปี 2563 มีคำสั่งไม่ฟ้อง เเละคำสั่งส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้พิจารณาเเล้วเห็นพ้องกันไม่ได้โต้เเย้งถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด

ส่วนอีกคำสั่งคือคำสั่งที่ได้ฟ้องเสี่ยเเป้ง จนศาลพัทลุงมีคำพิพากษาจำคุกเเละมีข่าวว่าเสี่ยเเป้งหลบหนีจนมาออกอัดคลิปวีดีโอพาดพิงถึงอัยการ เรื่องนี้ทางอธิบดีอัยการภาค 9 ได้รายงานผลการตรวจสอบมายังอัยการสูงสุดเเล้ว


สำหรับอัยการคนที่ 2 ที่ถูกพาดพิงที่มีบัตรสนเท่ห์มีการกล่าวถึงอัยการอีกคนหนึ่งซึ่งมีตำเเหน่งเป็นอัยการจังหวัดคดีศาลเเขวงจังหวัดสงขลา ซึ่งทางอธิบดีอัยการภาค 9 ตรวจสอบเเล้วพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เนื่องจากขณะเกิดเหตุรับราชการอยู่ที่สำนักงานอัยการอาญามีนบุรี รวมทั้งไม่รู้จักกับอัยการ บ. เเละเสี่ยเเป้ง เเละคลิปที่ 2 ของเสี่ยเเป้งก็ระบุว่าไม่รู้จักอัยการคนที่โดนบัตรสนเท่ห์ด้วยประเด็นนี้จึงยุติไปแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อมีข่าวเรื่องคลิปออกไป ทางนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด สั่งให้ตรวจสอบเรื่องนี้ทันที ล่าสุดช่วงเช้านี้ อธิบดีอัยการภาค 9 ส่งสำนวนคดีในส่วนคำสั่งไม่ฟ้องอัยการบอยกับพวกรวม 6 คน เเละสำนวนที่มีการฟ้องเสี่ยเเป้ง มาด่วนทาง EMS ให้สำนักงานวิชาการ เพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์ ว่าสั่งฟ้องชอบหรือไม่ ส่วนระยะเวลาในการตรวจสอบจะเร่งรัดให้เร็วที่สุด ส่วนจะต้องมีการย้ายอัยการบอยออกจากพื้นที่หรือไม่ เพื่อรอการตรวจสอบนั้น ขอให้รอผลการตรวจสอบก่อน ซึ่งเชื่อว่าทางอธิบดีอัยการภาค 9 ต้องรวบรวมส่งสำนักงานอัยการวิชาการทั้งหมด

พร้อมย้ำกระบวนการสั่งไม่ฟ้องอัยการ บ. และสั่งฟ้องเสี่ยแป้ง โดยอธิบดีภาค 9 เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายกำหนดทุกประการ แต่หากมีปรากฏข้อเท็จจริง พยานหลักฐานใหม่ขึ้นมา และสามารถนำสืบพิสูจน์ให้ศาลลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้ ตามกฎหมายอาญา ม.147 ก็อาจรื้อฟื้นคดีใหม่ได้ ส่วนที่มีการกล่าวหา การไม่สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อาจมีการสมยอมทำสั่งนวนอ่อนหรือไม่นั้น ว่า การทำงานของอัยการจะดูว่าหลักฐานพอฟ้องหรือไม่ ถ้าไม่พอฟ้องแต่ไปฟ้องจะทำให้คดีเสียหาย สุดท้ายศาลยกฟ้อง หากมีพยานหลัฐานใหม่ในอายุความก็จะไม่สามารถรื้อคดีอีกได้ จะเป็นการฟ้องซ้ำ ยืนยันขณะนี้ทางสำนักงานวิชาการยังไม่ได้เรียกใครมาสอบเพิ่มเติม ต้องรอผลสอบก่อน. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”