10 พ.ย. – คดีเด็กหญิง 13 ปี ถูกมอมยาข่มขืนในรถตู้ ส่อโอละพ่อ เพราะพยานซึ่งเป็นผู้โดยสารในรถตู้ให้ข้อมูลว่าตนเองเป็นคนสุดท้ายที่ลงรถตู้ ไม่ใช่เด็กหญิง 13 ปี ยืนยันคนขับรถตู้ไม่ได้ทำอะไรเด็กหญิง 13 ปี
พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้โดยสารที่นั่งไปในรถพร้อมเด็กหญิงวัย 13 ปี ครบแล้ว ยืนยันว่านั่งรถตู้ป้ายเหลืองของนายเดช คนขับรถตู้ ไปกรุงเทพฯ จริง และทุกคนไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงขอยืนยันว่าตำรวจจะทำงานให้รอบคอบและชัดเจน คลายข้อข้องใจของญาติพี่น้องเด็กหญิง 13 ปี และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์พูดคุยกับผู้โดยสารหญิงชาว อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ที่นั่งไปในรถตู้คันเดียวกับเด็กหญิงวัย 13 ปี ในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เล่าว่า ระหว่างเดินทางนั้นมีผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง ตนหลับตลอดทางจนใกล้ถึงที่หมายก็รู้สึกตัว และขณะนั่งในรถเห็นเด็กหญิงวัย 13 ปี นั่งเล่นโทรศัพท์ตามปกติ โดยไม่ได้มีอาการแปลกแต่อย่างใด หลังจากส่งตนเองลงที่ซอยสามเสน 6 แล้วได้ส่งเด็กหญิงต่อ ซึ่งห่างจากจุดที่ตนเองลงประมาณ 7.1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ซึ่งลงรถตนเองไม่รู้อะไรหลังจากนั้น
ขณะเดียวกันได้โทรศัพท์สอบถามผู้โดยสารอีกคน ซึ่งลงรถเป็นคนสุดท้าย ยืนยันว่าลงรถบริเวณพุทธมณฑลสาย 2 โดยรถตู้ส่งผู้โดยสารคนแรกไปแล้ว คนขับรถตู้ได้ขับมาส่งเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่หน้าบ้าน โดยถึงหน้าบ้านประมาณ 09.30 น. ซึ่งที่หน้าบ้านของเด็กนั้นมีพ่อออกมารอรับ หลังจากลงรถไปเด็กหญิงและพ่อได้ทักทายกันตามประสาพ่อลูก โดยคนพ่อถามลูกว่าบนรถมีกระเป๋าอะไรอีกมั้ย ตนเองยืนยันว่ารถตู้ไม่ได้ถึงที่หมายในการส่งเด็กช่วงก่อนเที่ยง และยังยืนยันว่าระหว่างทางมีการซ่อมถนนจริง โดยเส้นทางที่คนขับรถขับนั้นเป็นเส้นทางปกติ และเด็กไม่ได้เป็นคนลงรถเป็นคนสุดท้าย ซึ่งไม่ตรงกับการให้สัมภาษณ์ของย่าของเด็กหญิงที่บอกว่ามาถึงบ้านช่วงก่อนเที่ยงของวันที่ 2 ต.ค.
ในส่วนของเด็กหญิง 13 ปี จากการรายงานของแพทย์ทราบว่าอาการดีขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้าไปพบและพูดคุย หากสอบสวนได้จะสอบสวนหาข้อเท็จจริง และมีรายงานว่าวันนี้ (10 พ.ย.) เวลา 13.00 น. จะมีการแถลงที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดขอนแก่น .-สำนักข่าวไทย