รพ.ตำรวจ 7 พ.ย. – อดีต สส. “เต้ มงคลกิตติ์” ขอเป็นตัวแทนประชาชน หิ้วส้มตำไก่ย่าง บุก รพ.ตำรวจ ขอเยี่ยม “ทักษิณ” บนชั้น 14 แต่เจ้าหน้าที่แจ้งตามระเบียบ ไม่สามารถรับอาหาร หรือให้บุคคลนอกรายชื่อที่อนุญาต เข้าเยี่ยมได้
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.และอดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยได้นำส้มตำไก่ย่างจากร้านของนายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐ และผันตัวไปเปิดร้านอาหารอีสาน มาเยี่ยมไข้นายทักษิณ ที่นอนพักรักษาตัวที่ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า เดิมตั้งใจมากัน 3 คน กับนายสิระ เจนจาคะ และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐ แต่วันนี้ “ปารีณา” แจ้งว่าไม่สบาย ส่วน “สิระ” ติดงาน แต่ได้เตรียมอาหารจากที่ร้านไว้ให้ เมื่อเช้าตนไปถึงร้านไก่ยังไม่สุก เลยได้ปิ้งไก่เอง และตำส้มตำเองด้วย โดยเมนูที่นำมาเยี่ยมนายทักษิณวันนี้ ประกอบด้วยไก่ย่างปิ้งเอง 1 ตัว ราคา 220 บาท, ส้มตำไทยปู พริก 6 เม็ด ราคา 80 บาท, ข้าวเหนียว 4 ห่อ ราคา 60 บาท, ปลาขาวกรอบ 5 ห่อ ราคา 400 บาท รวม 760 บาท โดยยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำอาหารเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ หากไม่ได้ ก็ให้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่าจะนำอาหารทั้งหมดไปให้บุคคลใดแทนหรือไม่ แต่ตนถือว่าได้แสดงน้ำใจแล้ว และยังบอกว่าวันนี้ตนมาเป็นตัวแทนหมู่บ้านและประชาชนก็ฝากตนมาสอบถามถึงอาการของนายทักษิณ เพราะโรงพยาบาลก็ไม่เคยชี้แจงอาการเลย
แม้ว่าวันนี้จะไม่ได้ลงทะเบียนเยี่ยมนายทักษิณ แต่ตนเองมองว่าบุคคลภายนอกสามารถเข้าเยี่ยมได้ หากตัวผู้ต้องขังอนุญาต ซึ่งตนเองก็จะใช้สิทธิ์ตรงนี้ ส่วนคาดหวังว่าจะได้เข้าเยี่ยมหรือไม่นั้น ให้เป็นดุลพินิจของนายทักษิณ และให้เหตุผลว่าหากนายทักษิณ ทานไก่ย่างเขาสวนกวางได้ แปลว่าไม่ป่วยหนัก ก็อาจจะส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ราชทัณฑ์
ทั้งนี้การเดินทางมาที่โรงพยาบาลตำรวจวันนี้ ยังคาดหวังจะได้พบนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสอบถามอาการป่วยของนายทักษิณ หลังเข้ารับการรักษาตัวมานานกว่า 70 วัน ที่เอาอาหารมาให้ก็กลัวว่ากินแต่ข้าวต้มที่โรงพยาบาลจะเบื่อ ขณะที่นักทัณฑวิทยาปฏิบัติการที่ประจำที่ รพ.ตำรวจ ได้มาแจ้งว่าตามระเบียบไม่สามารถรับอาหารภายนอก หรืออนุญาตให้คนที่อยู่นอกรายชื่อที่อนุญาตไว้ได้
จากนั้นตัวแทนแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ได้มาชี้แจง กับนายมงคลกิตติ์ และบอกว่า รพ.เปิดเผยข้อมูลรายงานการรักษาได้ โดยทาง รพ.ได้ส่งรายงานการรักษาให้ทางเรือนจำอยู่แล้ว หากต้องการทราบให้ทำหนังสือถึง ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งยอมรับว่าก็เป็นสิทธิผู้ป่วย ที่อาจจะไม่อยากเปิดเผย แต่ตนก็จะไปทำเรื่องขอเยี่ยมและสอบถามอาการกับทางเรือนจำใน 1-2 วันนี้ ยืนยันว่าที่มาวันนี้เพื่อเป็นตัวแทนจากประชาชน เพราะหลายคนรู้สึกว่าได้รับความยุติธรรมไม่เท่าเทียมกัน. -สำนักข่าวไทย