ตรวจสอบสนามยิงปืน ปล่อยเด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าไปยิง

6 ต.ค. – ตำรวจเร่งขยายผลจับกุมพ่อค้าขายปืนเถื่อนทางออนไลน์ หลังจับผู้ต้องหา 3 คน ที่ขายปืนและเครื่องกระสุนให้เยาวชนอายุ 14 ปีได้แล้ว แม้เบื้องต้นผู้ต้องหาจะปฏิเสธ แต่ตำรวจยันหลักฐานมัดแน่น พร้อมตรวจสอบสนามยิงปืนปล่อยเด็กอายุไม่ถึงเกณท์เข้าไปยิงปืน


พล.ต.ต.นพศิลป์ พลูสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยผลการสอบสวน 3 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ให้กับเด็กอายุ 14 ปี โดยพบว่าผู้ก่อเหตุได้ติดต่อซื้อปืนผ่านไลน์ของนายอัครวิชญ์ และโอนเงินซื้อขายผ่านไปยังบัญชีของนายสุวรรณหงษ์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นพ่อลูกกัน ส่วนนายปิยะบุตร เป็นผู้ขายเครื่องกระสุนปืนให้กับผู้ก่อเหตุ แต่ทั้ง 3 คน ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน

สำหรับนายอัครวิชญ์ ผู้ต้องหาที่ขายปืนให้กับผู้ก่อเหตุ มีความรู้ทางด้านช่าง ลักลอบขายปืนมาประมาณ 1-2 ปี โดยผู้ก่อเหตุพยายามติดต่อซื้อปืนกับนายอัครวิชญ์ ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม จากหลักฐานการแชทไลน์


ตรวจสอบสนามยิงปืน ปล่อยเด็กอายุไม่ถึงเข้าไปยิง
ส่วนกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ขณะผู้ก่อเหตุซ้อมยิงปืนภายในสนามยิงปืน และมีผู้ปกครองอยู่ด้วยนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนว่าผู้ปกครองได้พาผู้ก่อเหตุไปยิงปืนจริงหรือไม่ รวมทั้ง จะต้องตรวจสอบสนามยิงปืนว่าปล่อยให้เด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าไปยิงปืนได้อย่างไร

นอกจากนี้ยังต้องขยายผลไปยังกลุ่มที่มาซื้อปืนกับผู้ต้องหาเพื่อดำเนินดคีกับบุคคลอื่นเพิ่มเติม เบื้องต้น 3 คนนี้ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยทั้ง 3 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เร่งขยายผลกวาดล้างผู้ผลิตอาวุธปืนส่งขายออนไลน์
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ผ่ายรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ เช้าวันนี้ว่า ตำรวจจะยังคงเร่งขยายผลกวาดล้างจับกุมผู้ร่วมผลิตอาวุธปืนส่งขายออนไลน์ รายอื่นๆ รวมไปถึง อาวุธที่มีการขายให้กับผู้อื่นไปแล้วว่าขายให้ใครและมีการนำไปก่อเหตุอื่นหรือไม่ โดยเมื่อวานนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมตำรวจสืบสวนทั่วประเทศ เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน


ลุยค้นบ้านเครือข่ายผลิตปืน โยงแก๊งขายปืนเด็ก 14
ส่วนการขยายผลนำหมายเข้าตรวจค้นบ้านพัก พร้อมจับกุมนายวีระยุทธ์ นทีธร หรือ “โอ ยี่เรือ” ที่รับจ้างผลิตแบลงค์กันขายผ่านออนไลน์ ในซอยประชาอุทิศ 65 ทุ่งครุ ผลการตรวจค้นพบชุดกันเสียง อุปกรณ์ไลฟ์สด และกล่องทดสอบการยิงปืนจำนวนมาก

ข้อมูลสำคัญทำให้ตามจับได้คือ การติดต่อสื่อสารที่เชื่อมโยงกัน ประกอบกับช่วงเกิดเหตุการณ์ที่พารากอน มีการดีดตัวออกจากกลุ่ม รวมถึงยังมีชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เชื่อมโยง 2 พ่อลูกจาก จ.ยะลา ปกติพวกนี้ไม่รู้จักกันจะคุยผ่านโซเชียล แต่ทิ้งร่องรอยให้ จนท.สืบสวน

ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน บชน. ยังยอมรับด้วยว่า ปัจจุบันการซื้อขายปืน และปืนดัดแปลงผ่านออนไลน์ทำได้ง่ายมาก เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืนยังล้าสมัย การขายสิ่งเทียมอาวุธปืน ยังไม่มีกฎหมายควบคุม ซึ่งผู้เกี่ยวข้องต้องมาทบทวนเพื่อยกระดับ

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ สน.ปทุมวันเช้าวันนี้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เปิดเผยว่าเมื่อคืนพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนานหลายชั่งโมง โดยนายสุวรรณหงษ์ พ่อ และนายอัครวิชญ์ ลูก ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา และวันนี้จะสอบสวนเพิ่ม แต่ยืนยันพนักงานสอบสวนมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดได้อย่างแน่ชัดโดยเฉพาะหลักฐานการโอนเงิน ซึ่งเป็นโอนเงินในเวลาที่สอดคล้องกับการซื้อ-ขายปืนให้กับผู้ต้องหา อายุ 14 ปี ไปใช้ก่อเหตุ

“โอ ยี่เรือ” รับสารภาพดัดแปลงปืน ขายผ่านออนไลน์จริง
สำหรับนายปิยะบุตร ผู้ต้องหาขายกระสุนปืน ในชั้นจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวน นำตัวนายปิยะบุตร ขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เจ้าตัวยังไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชน คาดว่าจะเป็นการสอบปากคำ เพื่อขยายผลการจับกุม เพราะก่อนหน้านี้นายปิยะบุตร ได้ขายเครื่องกระสุนปืนให้กับลูกค้าคนอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการหาความเชื่อมโยงว่าลูกค้าคนอื่นๆ ของนายปิยะบุตร ได้นำเครื่องกระสุนปืนไปก่อเหตุร้ายแรงอย่างอื่นหรือไม่

ขณะที่วันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งฝากขังต่อศาล พร้อมคัดค้านประกันตัว

มีรายการว่า จากกรณีดังกล่าวชุดสืบสวนตำรวจนครบาล จะขยายผลใน 2 แนวทาง คือขยายผลจากกรณีผู้ต้องหายิงกลางพารากอน ว่ามีการซื้อ-ขายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม จากที่จับกุมตัวได้แล้ว 3 คน และจะขยายผลจากการขายอาวุธปืน – ลูกกระสุนปืนทางออนไลน์ของผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทั้ง 3 คน ไปยังบุคคลอื่น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]