ค้นห้องพักพ่อใจโหดฆ่าโบกปูนลูก

กรุงเทพฯ 20 ก.ย. – ตำรวจ พฐ. ค้นห้องพักพ่อใจโหดฆ่าฝังดินโบกปูนลูกสาววัย 2 ขวบ พบอาวุธมีด 3 เล่ม มีร่องรอยไหม้ รวมถึงจดหมายของ น.ส.เจษฎา ภรรยา เขียนระบายความในใจถูกสามีบังคับต่างๆ


เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน ร่วมกับตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ชุดสืบสวนตำรวจนครบาล ตำรวจ สน.บางเขน และนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องพักเลขที่ 205 อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ที่นายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าฝังดินโบกปูนลูกสาววัย 2 ขวบ พักอาศัย

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ได้ประสานตำรวจ พฐ. เข้าเก็บพยานหลักฐานในห้องพักของ น.ส.เจษฎา ภรรยา คนที่ 2 (มีลูก 5 คน) ของผู้ต้องหาในจุดแรก เนื่องจากเป็นสถานที่ใช้ทำร้ายร่างกายเด็ก 12 ปี ที่ช่วยเหลือได้ก่อนหน้านี้ จึงต้องค้นหาว่ามีอุปกรณ์และหลักฐานใดอยู่หรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบพยานหลักฐานในห้องพักหลายอย่าง เช่น ไฟแช็ก อาวุธมีด 3 เล่ม ที่มีร่องรอยไหม้ สอดคล้องกับคำให้การของ น.ส.เจษฎา รวมถึงจดหมายของ น.ส.เจษฎา ที่เขียนระบายความในใจถูกสามีบังคับต่างๆ


ส่วนจุดที่ทำร้ายลูก 2 ขวบ แล้วไปฝังโบกปูนที่ จ.กำแพงเพชร พบเป็นอีกอพาร์ตเมนต์ ที่ปัจจุบันพบ มีผู้เช่าอื่นมาอยู่แล้ว พร้อมขอประชาสัมพันธ์ชาวบ้าน เนื่องจากเด็ก 2 คนที่ยังไม่เจอศพ เพราะหายไปตั้งแต่ปี 59 และ 61 ใครพบให้ช่วยแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ เพราะไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลภูมิพลยังไม่พบข้อมูลของเด็กทั้ง 2 คนนี้

ส่วนเมื่อช่วงเช้าเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐานอย่างรอบคอบรัดกุมในทุกมิติ ขณะนี้ดำเนินคดีกับนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา และนางสุนัน ภรรยา แล้ว ส่วน น.ส.เจษฎา ภรรยาอีกคนที่มีลูก 5 คน และพบว่าเสียชีวิตไป 4 คน ให้การรับสารภาพว่าเด็ก 4 คนเสียชีวิตแล้ว ตนจึงต้องหาที่มาว่าเป็นอย่างไร โดยจะสอบย้อนหลังถึงปี 59 ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ขยายผลว่านอกจากสามีภรรยาคู่นี้ ยังมีใครช่วยอำพรางศพหรือไม่

ส่วนนางสุนันให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี แต่นายส่องศักดิ์ให้การภาคเสธ ยอมรับบางเรื่องเท่านั้น โดยไม่พูดถึงสาเหตุการฆ่าลูก พบประวัติการรับยาจากแพทย์จริงเมื่อปี 59 สำหรับนายส่องศักดิ์เองยังไม่พบประวัติถูกดำเนินคดีใด แต่จะเช็กย้อนหลัง 15 ปี และสืบหาข้อมูลที่พักอาศัยว่าเคยพักอยู่ที่ใดบ้าง


รอง ผบช.น. กล่าวว่า นอกจากนี้ตำรวจยังต้องสอบปากคำแพทย์ว่าร่องรอยบาดแผลบนศพของเด็กที่เสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่จากคำรับสารภาพของผู้ต้องหาสอดคล้องกับภาพและข่าวในโลกออนไลน์ โดย พฐ. ได้เก็บดีเอ็นเอผู้ต้องหาไปตรวจสอบและเทียบกับฐานข้อมูล คาดว่าจะรู้ผลภายใน 2 วัน

อย่างไรก็ตาม นับแต่เกิดเรื่อง น.ส.เจษฎา ภรรยาอีกคน ไม่เคยแจ้งความ เพียงแต่รับสารภาพว่ามีเด็กเสียชีวิตจริง และพร้อมเจ้าหน้าที่ชี้จุดที่นำศพใส่ถุงดำไปทิ้งแถวศาลพระภูมิ ซอยพหลโยธิน 50

ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาป่วยทางจิตเวช เนื่องจากพิจารณาจากพฤติกรรมก่อเหตุมีการวางแผนเอาศพลูกไปจากกรุงเทพฯ ไปทิ้งได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ยังอาศัยอยู่ในบ้านที่ จ.กำแพงเพชร ต่อได้อีก 3 วัน ซึ่งมองว่าเป็นพฤติกรรมที่เหี้ยมโหดเกินมนุษย์ และหากไม่จำนนต่อหลักฐานก็ไม่ยอมรับสารภาพ และคำให้การที่สำนึกผิดที่ผู้ต้องหาบอกในตอนนี้ยังไม่เชื่อ เพราะลูกเสียชีวิตไปเป็นปีๆ เสียชีวิตไปถึง 5 คน หากรู้สึกผิดสำนึกจริงๆ ต้องรู้สึกสำนึกมานานแล้ว

ต่อมาเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดสืบสวนนครบาล และตำรวจ สน.บางเขน นำกำลังเข้าตรวจค้นบริเวณพื้นที่ว่างช่วงกิโลเมตรที่ 25 อยู่ระหว่างปั๊มน้ำมัน ปตท. และปั๊มน้ำมันเอสโซ่ พื้นที่รับผิดชอบ สน.สายไหม ซึ่งเป็นจุด ที่ น.ส.เจษฎา และนายเอ็ม ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่ามีการนำศพลูก 2 คน ซึ่งยังอยู่ในวัยทารก มาทิ้งเมื่อปี 59/61 ซึ่งจำได้ว่านำมาทิ้งข้างศาลพระภูมิ ใกล้เพิงขายของ มีคลอง แต่ปัจจุบันพบว่าสภาพพื้นที่เปลี่ยนไปจากเดิม มีการถมพื้นที่แล้ว

เบื้องต้น พฐ. จะเดินค้นหาก่อน แต่หากยังไม่เจอจะประสานเจ้าของที่ดินนำรถแบ็กโฮเล็กมาเปิด หน้าดินค้นหาอีกครั้ง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือชาวบ้านในช่วงปี 59-61 หากพบเบาะแสให้มาให้ข้อมูล โดยจะพยายามถึงที่สุด แต่หากไม่พบก็ไม่หนักใจ เพราะมีพยานหลักฐานอื่นๆ ที่จะเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ