รวบ “จ๊อก เอมิริ” แก๊งลัก จยย. ย่านบึงพระราม 9

กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – สืบนครบาลรวบ “จ๊อก เอมิริ” แก๊งลักรถจักรยานยนต์ ย่านบึงพระราม 9 รับสารภาพสิ้น ก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง อ้างวิ่งหนีเพราะตำรวจหล่อเกิน


ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือเพจสืบนครบาล IDMB ว่า รถจักรยานยนต์ที่ใช้ทำมาหากินสูญหายบ่อย สืบสวนพบวีรกรรมสุดแสบของแก๊งบึงพระราม 9 ตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม ช่วงเวลา 23.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. จากนั้นเมื่อพบรถจักรยานยนต์ที่จอดโดยไม่ล็อกคอรถ หรือจอดโดยไม่ระวัง ผู้ต้องหาจะทำการหักคอรถแล้วลักไปขาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุด “หมาล่าเนื้อ” สืบนครบาล พร้อมลูกศิษย์ นักเรียนสืบสวน 110 ลงพื้นที่ตามเบาะแสปิดล้อมหัวหน้าแก๊งบึงพระราม 9 ย่านปทุมธานี ที่กบดาน แต่ผู้ต้องหาไหวตัววิ่งหลบหนี ก็ไม่รอดจมูกหมาของ “สืบนครบาล+สืบ 110” เจ้าตัวอ้างหน้าตาเฉยว่า ตำรวจสืบนครบาล 110 หล่อเกินกว่าเชื่อว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ


เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สัญญลักษณ์ สังขะภักดี สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 1 และ 2 และนักเรียนสืบสวนรุ่น 110 ร่วมกันจับกุมตัว นายธีระพงษ์ หรือ จ๊อก เอมิริ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1941/2566 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งเเต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร”

สถานที่จับกุมบริเวณหลังบ้านพัก ในพื้นที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

พฤติการณ์การจับกุม วันที่ 31 ก.ค.66 เวลาประมาณ 15.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับนายธีระพงษ์ (ทราบชื่อภายหลังและเป็นบุคคลตามหมายจับ) อยู่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เมื่อนายธีระพงษ์ ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงตกใจวิ่งหลบหนีออกทางประตูหลังบ้านและเข้าไปในป่าหญ้าหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และสามารถควบคุมตัวไว้ได้ทัน จากการวิ่งหลบหนี ทำให้นายธีระพงษ์ได้รับบาดเจ็บจากการถูกหนามในป่าข่วนทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจให้บุคคลดังกล่าวตรวจดูจนเป็นที่พอใจ และได้แสดงหมายจับให้นายธีระพงษ์ ตรวจสอบดู จากการสอบถามบุคคลดังกล่าวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน โดยผู้ต้องหาอ้างว่าที่วิ่งหลบหนี ไม่คิดว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เนื่องจากรูปหล่อมาก และได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาทำการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจัดทำบันทึกจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


จากการสอบถามนายธีระพงษ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป แต่ให้การปฏิเสธในข้อหารับของโจร และให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อประมาณต้นปี 2566 ได้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานขับรถส่งสินค้า และพักอาศัยอยู่ที่บ้านพัก ในพื้นที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้มีเพื่อนชื่อ นายดิ๊ก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ชักชวนให้ไปลักรถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้ แล้วจะให้เงิน 3,000-4,000 บาท ต่อรถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยให้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave 110i สีเทา-ดำ ทะเบียน กทม. (ขณะก่อเหตุได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าวออก) คันที่ก่อเหตุมายังจุดนัดหมาย โดยมีนายดิ๊กเป็นคนขี่ แล้วก็แยกกลับไปก่อน

โดยครั้งแรกได้ลักรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave110 สีแดง จำหมายเลขทะเบียนและวันก่อเหตุไม่ได้ จากบริเวณซอยพัฒนาการ และได้รับเงินจากการลักรถจักรยานยนต์คันแรก เป็นเงินสด 3,000 บาท จากนายดิ๊ก ที่ได้ร่วมกันลักทรัพย์ และแยกย้ายกันไป

ก่อเหตุครั้งที่ 2 บริเวณอ่อนนุช ได้ไปลักรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave110 สีน้ำเงิน จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ และได้เงินจากการลักรถครั้งนี้ 4,000 บาท

ก่อเหตุครั้งที่ 3 บริเวณอ่อนนุชเช่นเดิม เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave110 สีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ และได้เงินจากการลักรถครั้งนี้ 3,000 บาท  

ก่อเหตุครั้งที่ 4 นายดิ๊ก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไปแล้ว จึงได้ร่วมกันกับนายเอ็ม (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ลักทรัพย์บริเวณมักกะสัน เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave125 สีดำ-แดง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ และไม่ได้เงินตอบแทนในครั้งนี้ เนื่องจากนายเอ็มถูกจับกุมได้ขณะก่อเหตุ ส่วนตนเองหลบหนีมาได้

ก่อเหตุครั้งที่ 5 ได้ร่วมกันกับนายเกรท (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ไปลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave110 สีแดง บริเวณเขตคลองตัน และได้รับเงินจำนวน 4,000 บาท ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนีไป

ต่อมาวันนี้ (31 ก.ค.66) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในที่สุด

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “การก่อเหตุของกลุ่มบึงพระราม 9 สร้างความเดือดร้อนกับประชาชนเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ใช้ประกอบอาชีพสุจริต โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงขอประชาสัมพันธ์ผู้ใดมีเบาะแสอาชญากรรม โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]