แจ้ง ปปป.เอาผิดอดีตผู้ว่าฯ โคราช ปมเอื้อประโยชน์เอกชน

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.- ทนายความ พร้อมชาวบ้าน แจ้งความตำรวจ ปปป.เอาผิดอดีตผู้ว่าฯ โคราช ปมทำหลักฐานเท็จ เอื้อประโยชน์เอกชนใช้ที่ดินหลวง-ลำน้ำสาธารณะ


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ พร้อมนายสมบุญ เต๊งผักแว่น ตัวแทนชาวบ้าน ต.นากลาง จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป.แจ้งความให้ดำเนินคดีกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กับพวกรวม 4 คน ในข้อหา มาตรา 157 โดยมีการทำหลักฐานการตรวจสอบสภาพภายในโครงการนิคมอุตสาหกรรมใน อ.สูงเนิน อันเป็นเท็จและบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อเอื้อประโยชน์แก่โครงการสามารถยึดที่ดินหลวงไปกว่า 10 ไร่ และลำน้ำสาธารณะไปใช้ประโยชน์แก่โครงการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

นายกฤษฎา เผยว่า ตนมาแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ 4 คน ประกอบด้วย 1.ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา (ในขณะนั้น) 2.นายอำเภอ 3.นายก อบต.และ 4.กำนัน ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำรายงานการสอบข้อเท็จจริงของ จ.นครราชสีมา ฉบับลงวันที่ 15 สิงหาคม 2565 อันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรบอกให้แจ้งโดยมีเจตนาพิเศษหรือมีมูลเหตุจูงใจในการกระทำความผิดเพื่อต้องการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษทางอาญา


ประเด็นแรก เรื่องลำน้ำสาธารณะกุดปืน ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยระบุว่า “จากการตรวจสอบพื้นที่จุดร้องเรียนเห็นชัดเจนโดยสภาพว่าสภาพลำน้ำสาธารณะยังคงมีสภาพเช่นเดิม มีลักษณะเป็นคลองน้ำ และไม่มีการก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆไปทับที่ดินสาธารณะหรือลำน้ำสาธารณะที่จะเป็นเหตุให้ลำน้ำสาธารณะมีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไปในการสิ้นไร้ประโยชน์ และประชาชนก็สามารถเข้าใช้ประโยชน์ได้ โดยบริษัทนิคมอุตสาหกรรมมิได้หวงห้ามแต่อย่างใด ลำน้ำสาธารณประโยชน์ดังกล่าวประชาชนพลเมืองยังใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อยู่จนถึงปัจจุบัน”

ข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จทั้งสิ้น โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน กระทำไปเพื่อต้องการให้ผู้กระทำผิดต้องหลุดพ้นจากความผิดไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย ถือเป็นการร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชาติและประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เนื่องจากมีพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร ปี พ.ศ.2517 แสดงให้เห็นเส้นทางของลำน้ำกุดปืนเป็นเส้นตรงทอดยาวไปตลอด แต่ต่อมาประมาณปี 2547-2548 บริษัทเสนอทำโครงการเขตประกอบอุตสาหกรรม เนื้อที่ประมาณ 1,567 ไร่ 25.8 ตร.ว.จนกระทั่งโครงการดังกล่าวได้รับอนุญาตตามแผนที่ท้ายประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2548 เมื่อพิจารณาจากแผนที่แนบท้ายดังกล่าวเห็นได้ว่า สภาพลำน้ำกุดปีนถูกเบี่ยงเบนเส้นทางน้ำให้มีลักษณะโค้งไปโค้งมา เพื่อประโยชน์แก่พื้นที่โครงการ และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำเห็นได้จากในฤดูน้ำหลาก ก็จะปล่อยน้ำออกจากลำน้ำกุดปืนมาท่วมบ้านเรือนประชาชน แต่ภายในโครงการน้ำกลับไม่ท่วม ส่วนในฤดูแล้ง ก็จะกักเก็บน้ำไว้ในบ่อภายในโครงการจำนวนหลายบ่อ แต่ประชาชนไม่สามารถเข้าไปเอาน้ำในลำน้ำกุดปืนได้ เพราะบริษัทไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในโครงการ เนื่องจากเป็นนิคมปิด

ประเด็นที่สอง เรื่องที่ดินสาธารณะประโยชน์ภายในโครงการ ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า “เดิมทำเลกุดปืนมีเนื้อที่ดิน 6 ไร่ 2 งาน 97 ตร.ว. แต่มีการเลิกใช้ประโยชน์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เมื่อนิคมอุตสาหกรรมมาซื้อที่ดินใกล้บริเวณดังกล่าว มีที่ดินสาธารณประโยชน์อยู่กลางที่เอกชนไม่มีการใช้ประโยชน์นาน จึงมีสภาพตื้นเขิน บริษัทนิคมอุตสาหกรรม โดยความยินยอมของประชาชนในสมัยนั้น ยินยอมให้พัฒนาเป็นคูคลองสวยงามสะอาดตาและมีสภาพคลองสาธารณประโยชน์ ไม่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม” ข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จทั้งสิ้น โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คนกระทำไปเพื่อต้องการให้ผู้กระทำผิดหลุดพ้นจากความผิดไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย ถือเป็นการร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชาติและประชาชนหรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เนื่องจากที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าวแต่เดิมสมัยปู่ ย่า ตา ยาย หลายชั่วอายุคนแล้ว ใช้ที่ดินเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่เป็นทำเลเลี้ยงสัตว์ และในบริเวณดังกล่าวก็มีลำน้ำสาธารณะกุดปืนทอดยาวตลอด ที่ดินบริเวณนี้จึงเหมาะสำหรับเป็นที่เลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านในตำบลนากลางมาโดยตลอด


ตามกฎหมายถือว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ผู้ใดจะเข้ายึดถือครอบครองเพื่อประโยชน์แต่เฉพาะตนนั้นไม่ได้ แต่บริษัท นิคมอุตสาหกรรมมีการแสดงแผนที่แนวเขตเบี่ยงเบนเส้นทางลำน้ำกุดปืนให้อ้อมไปด้านหลังที่ดินหลวง โดยมีเจตนาพิเศษต้องการครอบครองที่ดินหลวงกว่า 10 ไร่นี้ไปเป็นประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง เห็นได้จากแผนที่แนบท้ายลำน้ำกุดปืนถูกเบี่ยงเบนลำน้ำ โดยมีลักษณะโค้งไปโค้งมาและอ้อมไปด้านหลังแปลงที่ดินสาธารณประโยชน์ ส่วนด้านหน้ามีการถมลำน้ำเพื่อให้มีสภาพที่ดินเป็นผืนเดียวกัน ขัดแย้งกับภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร ปี พ.ศ.2517 อย่างสิ้นเชิง

เพราะตามแผนที่ทหารมีที่ดินสาธารณประโยชน์และเส้นทางของลำน้ำกุดปืนเป็นเส้นตรงผ่านแปลงที่ดินสาธารณประโยชน์ แต่การที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน อ้างว่าที่ดินสาธารณประโยชน์มีการเลิกใช้ประโยซน์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เมื่อนิคมอุตสาหกรรมมาซื้อที่ดินใกล้บริเวณดังกล่าว มีที่ดินสาธารณประโยชน์อยู่กลางที่เอกชนไม่มีการใช้ประโยชน์นานจึงมีสภาพตื้นเขิน บริษัท นิคมอุตสาหกรรม นวนคร จำกัด และบริษัท แคนนอน จำกัด โดยความยินยอมของประชาชนในสมัยนั้น ยินยอมให้พัฒนาเป็นคูคลองสวยงามสะอาดตาและมีสภาพคลองสาธารณประโยชน์ ไม่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนั้น หากข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติตามที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน รายงานมาเช่นนี้ เหตุใดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน จึงไม่ดำเนินคดีกับทั้งสองบริษัท ในข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์หรือครอบครองที่ดินสาธารณะประโยชน์ไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องในทันที

เพราะที่ดินดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ตั้งแต่สมัยปู ย่า ตา ยาย สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ผู้ใดจะยึดถือครอบครองเพื่อประโยชน์แต่เฉพาะตนนั้นไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามที่ระเบียบและกฎหมายกำหนดไว้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดและได้รับโทษตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายอื่นที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้วว่าเมื่อประมาณต้นปี 2565 ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ภายในโครงการดังกล่าวแล้วเห็นว่ามีการนำที่ดินสาธารณประโยชน์ไปใช้โดยมิชอบ

ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คนย่อมมีหน้าที่ในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในทันที แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต จึงไม่ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามหน้าที่และอำนาจของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน และเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยทำรายงานการตรวจสอบพื้นที่อันเป็นเท็จ การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]