เร่งหาหลักฐานเพิ่มคดี “แอม ไซยาไนด์”

28 เม.ย. – คดี “แอม ไซยาไนด์” มีตัวละครเพิ่มมาเรื่อยๆ ขณะที่ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานนำมาเชื่อมโยงกัน ตอนนี้พบเหยื่อ 2 ราย มีปริมาณไซยาไนด์ในร่างกายทำให้เสียชีวิตได้


วันนี้ (28 เม.ย.66) มีการประชุมชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” โดย “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีนี้ ซึ่งแม้เจ้าตัวจะติดภารกิจต่างประเทศ แต่ได้นัดประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ถือเป็นการประชุมชุดใหญ่ครั้งแรก หลังได้รับมอบหมายให้แต่ละท้องที่ ทั้งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 และ ภาค 4 ไปเก็บหลักฐาน และนำข้อมูลมาเชื่อมโยงกันในวันนี้ เพื่อดูว่าจะอนุมัติหมายจับ แอม หรือคนใกล้ชิดเพิ่มได้หรือไม่

หลังประชุม พลตำรวจตรี นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการกองบังคับการศูนย์ฝึกอบรม บช.น. หนึ่งในหัวหน้าชุดทำคดี บอกว่า วันนี้ได้เรียกตำรวจแต่ละท้องที่เกิดเหตุรวบรวมหลักฐานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประกอบสำนวนในคดี ยืนยัน ณ ตอนนี้ยังพบผู้เสียชีวิตจากคดีนี้ 13 คน รอดชีวิต 1 คน และยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น จึงยังไม่ได้ออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนการสอบสวนอดีตสามีแอมที่เป็นตำรวจ ก็ยังไม่พบหลักฐานความเกี่ยวข้องทางคดี และยังรอผลการตรวจหลักฐานภายในรถ


ด้านพลตำรวจตรีเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม บอกว่า จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตที่พบผลการตรวจไซยาไนด์ในร่างกาย มีปริมาณทำให้เสียชีวิตได้ มี 2 ศพ คือ การเสียชีวิตของก้อย ที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และการเสียชีวิตของสารวัตรปู ที่ จ.นครปฐม ส่วนปริมาณเท่าใดนััน ไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ในสำนวน ส่วนพฤติการณ์การใช้ไซยาไนด์ ว่าเป็นลักษณะการใช้รูปแบบใด ไม่สามารถบ่งชี้ได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างผู้ตายกับผู้ต้องหาเท่านั้น แต่มีระยะเวลาการเสียชีวิต มีขั้นตอนตรวจสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และจะนำข้อมูลไปประกอบสำนวน ซึ่งการจะดำเนินคดีผู้ต้องได้ อาจไม่ใช่เรื่องพบสารพิษในร่างกายอย่างเดียว มีหลายองค์ประกอบในการรวบรวมหลักฐาน

ส่วนอาการของแอม หลังถูกคุมขังในเรือนจำวันที่ 2 สามารถปรับตัวได้ดีขึ้น มีการพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่น ทำให้อาการเครียดลดน้อยลง แต่ยังมีความวิตกกังวล แต่ก็ไม่เหมือนวันแรก ส่วนเด็กในครรภ์ของแอม เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) สูตินารีแพทย์ได้เข้ามาดูแล พบว่า อาการและสัญญาณชีพเด็กปกติ ไม่มีความน่ากังวลใดๆ โดยระหว่างที่แอมอยู่ในห้องกักโรค ไม่มีญาติขอเข้าเยี่ยม มีเพียงนางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม ติดต่อเข้ามาเพียงคนเดียว

ครอบครัวเหยื่อที่ราชบุรีร้องตำรวจขอรื้อคดี


มีความเคลื่อนไหวที่ จ.ราชบุรี วันนี้ สามีและลูกสาว ของ น.ส.กะณิกา หรือ เอ๊ะ ที่คาดว่าเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกแอมวางยาจนเสียชีวิต ได้นำหลักฐานเพิ่มเติมไปมอบให้ตำรวจ สภ.โพธาราม หลังทางตำรวจยืนยันจะมีการรื้อคดีขึ้นมาทำใหม่

สามี บอกว่า ช่วงก่อนที่ภรรยาจะเสียชีวิต มีการโทรศัพท์พูดคุยกับแอมทุกวัน ซึ่งวันเกิดเหตุภรรยาขับรถออกไปคนเดียว และนัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนจะนั่งรถของแอมไป โดยภรรยาไม่ได้บอกว่าไปไหน มารู้ว่าอยู่ด้วยกันก็ตอนที่ลูกสาวโทรหา แล้วแอมเป็นคนรับสาย บอกว่าภรรยาเป็นลมล้มวูบ ให้รีบมาที่โรงพยาบาล ตอนนั้นตกใจและเอะใจเพราะภรรยาไม่เคยมีอาการป่วย สุขภาพดีมาโดยตลอด จากนั้น แอมก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ส่วนเงินที่หายไปนั้น ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่เป็นยอดที่เยอะอยู่

ญาติมั่นใจการเสียชีวิตของ “หนิม” เกี่ยวข้อง “แอม”

ส่วนเคสล่าสุดที่มีการเปิดเผยจาก “บิ๊กโจ๊ก” เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) เป็นภรรยาตำรวจ ตม.ที่มุกดาหาร ชื่อ “หนิม” ซึ่งพบข้อมูลว่าแอมติดหนี้ หนิม เป็นเงินหลักแสน และลักษณะการเสียชีวิตของหนิม ก็คล้ายกับรายอื่นๆ ที่เป็นข่าว โดยวันนี้ ทีมข่าวไปที่บ้านของหนิม ได้พบกับเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นคนที่มาเจอหนิมนอนหมดสติในบ้านก่อนที่จะเสียชีวิต

เพื่อนบ้าน เล่าว่า วันเกิดเหตุ 25 พ.ย. 2563 ตัวเองได้รับโทรศัพท์จากญาติของหนิม ให้ช่วยไปดูว่าทำไมหนิมไม่รับโทรศัพท์ เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นหนิม นอนตะแคงอยู่บนที่นอน และมีปัสสาวะ อุจจาระ เรี่ยราด ตนเองได้ประคองและพยายามเขย่าตัวของหนิม แต่ไม่มีการตอบสนอง จึงเรียกเจ้าหน้ากู้ชีพมาช่วยปฐมพยาบาลแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้

“อ.อ๊อด” เชื่อ “แอม” มีความรู้ทางเคมีหลังพบสั่งซื้อยาแก้พิษ

สำหรับประเด็นเรื่องของไซยาไนด์ วันนี้ อาจารย์อ๊อด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม หลังตรวจสอบวัตถุพยานชิ้นล่าสุดที่เพิ่งได้รับจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเมื่อคืนวานนี้ เป็นกล่องพัสดุที่มีการสั่งซื้อ ส่งมาให้แอม ภายในบรรจุผลึกสีขาวใส จากการตรวจสอบ พบว่า สารสีขาวที่ว่านี้ คือ โซเดียมไทโอซัลเฟต (Sodium thiosulfate) ซึ่งจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ สารชนิดนี้ คือ ยาแก้พิษ “ไซยาไนด์” อาจารย์อ๊อดเลยมองว่า แอมมีความรู้ทางเคมี เพราะมีการสั่งซื้อสารดังกล่าว ซึ่งเป็นยาแก้พิษ อาจารย์อ๊อด ยังระบุว่า จากการตรวจสอบช่องทางออนไลน์ที่ก่อนหน้านี้ มีการโพสต์ขายไซยาไนด์กันแพร่หลาย แต่วันนี้หายไปเกือบหมดแล้ว

ส่วนที่มีการพูดกันว่าเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องหรือไม่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต อธิบายว่า คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ผู้กระทำมีทั้งป่วยและไม่ป่วย ส่วนใหญ่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน หรือ ความต้องการทางเพศ โดย 80% ของผู้ก่อเหตุมักเป็นผู้ชายและใช้วิธีรุนแรง ส่วนผู้หญิงมักประสงค์ทรัพย์ ใช้วิธีไม่รุนแรง โดยเฉพาะใช้ยาพิษ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฤทธิ์พายุหนองฟ้าทำหลายจังหวัดอ่วม ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

31 ส.ค. – พายุหนองฟ้าทำพิษ สุโขทัยเจอน้ำท่วมไหลเชี่ยวกรากหลายอำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าหลากท่วมหลายจุด ต้นพะยอม 100 ปี โค่นขวางถนนกลางเมือง ส่วน จ.สกลนคร พายุกระหน่ำกระทบงานไหว้สาพญาเต่างอย พายุหนองฟ้าทำพิษ จ.สุโขทัย น้ำท่วมหลายอำเภอ โดยพื้นที่ที่กระทบหนักคือ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง อ.กงไกรลาศ อ.บ้านด่านลานหอย และ อ.คีรีมาศ ซึ่งเช้าวันนี้ ปภ.แจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนให้รับมือ นอกจากนี้พบว่าพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมือง มวลน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำยม ไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรุนแรงและเชี่ยวกราก บ้านเรือนได้รับผลกระทบเกือบ 100 หลัง น้ำป่าเข้าท่วมหลายจุดในพิษณุโลกที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ลงสู่ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรเสียหาย โดยถนนทางหลวงช่วงบ้านกกไม้แดง ต.ดินทอง […]

ปชป.ยังไม่มีมติร่วมรัฐบาล กก.บห.มอบหัวหน้าพรรคตัดสินใจ

ปชป. 31 ส.ค. – “เฉลิมชัย” บอก​ ปชป. ยังไม่มีมติเข้าร่วมรัฐบาล ที่ประชุม กก.บห. มอบอำนาจหัวหน้าพรรคตัดสินใจ แจง​จับมือแถลงร่วมเพื่อไทย​ เป็นมารยาท​ เหตุยังร่วม ครม.​ ลั่นสถานการณ์​ปัจจุบัน​ยังไม่มีใครตัดสินใจได้​ ต้องรอฝุ่นจางจะเห็นภาพชัด​ ถ้าด่วนตัดสินใจอาจพลาด​ ย้ำทุกอย่างต้องผ่านมติพรรค ไม่เช่นนั้นเป็นของเถื่อน​ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยใช้เวลากว่า​ 1 ชั่วโมง​ ว่า ต้องบอกว่าวันนี้การเมืองยังไม่มีข้อยุติ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพูดคุยสถานการณ์การเมืองทั้งหมด และกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนตามข้อบังคับพรรค ซึ่งเมื่อ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เท่ากับว่ารัฐบาลได้หมดสิ้นไป การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค เพื่อให้สามารถบริหารงานได้ทันการ ซึ่งที่ประชุมมีมติ ใช้ข้อบังคับ 1 3 และ 4 ยกเว้นการใช้ข้อบังคับพรรค โดยใช้เสียงไม่เกิน 3 ใน 5 ของกรรมการบริหารพรรคที่เข้าร่วมประชุม […]

“ภูมิธรรม” ลาประชุม ก.ตร. มอบ “บิ๊กต่าย” ปธ.เคาะโผนายพล

31 ส.ค.- ก.ตร. ประชุมครั้งที่ 8/2568 จับตาแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ ขณะที่ “ภูมิธรรม” ติดภารกิจ มอบ ผบ.ตร. นั่งประธานแทน วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จัดประชุมครั้งที่ 8 ประจำปี 2568 โดยมีวาระสำคัญว่าด้วยการบริหารงานบุคคลและการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการประชุมใหญ่ที่ถูกจับตามองจากทุกฝ่าย ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 7/2568 มีมติเลื่อนการพิจารณามายังวันนี้ เนื่องจากมีหนังสือร้องเรียนหลายประเด็น รวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธาน ก.ตร. ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจสำคัญเร่งด่วน จึงมีหนังสือถึงที่ประชุมให้ดำเนินการตามข้อบังคับ ก.ตร. ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ตร. และคณะอนุกรรมการ […]

พรรคร่วมรัฐบาลตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอเคาะ

พรรคประชาชน 31 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เผย พรรคร่วมรัฐบาล ตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอพรรคประชาชนตัดสินใจ ลั่นทำเร็ว ยุบสภาได้ก่อน 4 เดือน ขณะม็อบหนุน พท. โผล่ให้กำลังใจ “เพื่อไทยสู้ๆ” ภายหลังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าหารือกับแกนนำพรรคประชาชนประมาณ 1 ชั่วโมง นายภูมิธรรม ได้นำแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมา แถลงข่าวด้านล่างพรรคประชาชน ขาดเพียงนายเดชอิศม์ ขาวทอง และนายชัยชนะ เดชเดโช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่ารีบไปประชุม กรรมการบริหารพรรค จึงไม่ได้ร่วมวงสัมภาษณ์ได้ โดยนายภูมิธรรม ระบุว่า ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน ซึ่งตัวแทนที่มาวันนี้ (31 ส.ค.) ก็ครบทุกพรรค ส่วนตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สบาย แต่เขาพร้อม หากไม่สบายใจหรือมีข้อสงสัยก็พร้อมจะซูมเข้ามา ซึ่งข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เนื่องจากเห็นว่าการเมืองขณะนี้เป็นช่วงวิกฤต เป็นเรื่องที่ควรจะหาทางออกร่วมกัน ดังนั้นหลังจากที่พูดคุยกันแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจึงได้มาพูดคุยกับพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคประชาชนเป็นพรรคที่เสนอว่า หากใครรับข้อเสนอของพรรคประชาชนได้ ก็จะนำมาตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้(31 […]