เร่งหาหลักฐานเพิ่มคดี “แอม ไซยาไนด์”

28 เม.ย. – คดี “แอม ไซยาไนด์” มีตัวละครเพิ่มมาเรื่อยๆ ขณะที่ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานนำมาเชื่อมโยงกัน ตอนนี้พบเหยื่อ 2 ราย มีปริมาณไซยาไนด์ในร่างกายทำให้เสียชีวิตได้


วันนี้ (28 เม.ย.66) มีการประชุมชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” โดย “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีนี้ ซึ่งแม้เจ้าตัวจะติดภารกิจต่างประเทศ แต่ได้นัดประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ถือเป็นการประชุมชุดใหญ่ครั้งแรก หลังได้รับมอบหมายให้แต่ละท้องที่ ทั้งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 และ ภาค 4 ไปเก็บหลักฐาน และนำข้อมูลมาเชื่อมโยงกันในวันนี้ เพื่อดูว่าจะอนุมัติหมายจับ แอม หรือคนใกล้ชิดเพิ่มได้หรือไม่

หลังประชุม พลตำรวจตรี นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการกองบังคับการศูนย์ฝึกอบรม บช.น. หนึ่งในหัวหน้าชุดทำคดี บอกว่า วันนี้ได้เรียกตำรวจแต่ละท้องที่เกิดเหตุรวบรวมหลักฐานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประกอบสำนวนในคดี ยืนยัน ณ ตอนนี้ยังพบผู้เสียชีวิตจากคดีนี้ 13 คน รอดชีวิต 1 คน และยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น จึงยังไม่ได้ออกหมายจับเพิ่มเติม ส่วนการสอบสวนอดีตสามีแอมที่เป็นตำรวจ ก็ยังไม่พบหลักฐานความเกี่ยวข้องทางคดี และยังรอผลการตรวจหลักฐานภายในรถ


ด้านพลตำรวจตรีเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม บอกว่า จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตที่พบผลการตรวจไซยาไนด์ในร่างกาย มีปริมาณทำให้เสียชีวิตได้ มี 2 ศพ คือ การเสียชีวิตของก้อย ที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และการเสียชีวิตของสารวัตรปู ที่ จ.นครปฐม ส่วนปริมาณเท่าใดนััน ไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ในสำนวน ส่วนพฤติการณ์การใช้ไซยาไนด์ ว่าเป็นลักษณะการใช้รูปแบบใด ไม่สามารถบ่งชี้ได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างผู้ตายกับผู้ต้องหาเท่านั้น แต่มีระยะเวลาการเสียชีวิต มีขั้นตอนตรวจสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และจะนำข้อมูลไปประกอบสำนวน ซึ่งการจะดำเนินคดีผู้ต้องได้ อาจไม่ใช่เรื่องพบสารพิษในร่างกายอย่างเดียว มีหลายองค์ประกอบในการรวบรวมหลักฐาน

ส่วนอาการของแอม หลังถูกคุมขังในเรือนจำวันที่ 2 สามารถปรับตัวได้ดีขึ้น มีการพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่น ทำให้อาการเครียดลดน้อยลง แต่ยังมีความวิตกกังวล แต่ก็ไม่เหมือนวันแรก ส่วนเด็กในครรภ์ของแอม เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) สูตินารีแพทย์ได้เข้ามาดูแล พบว่า อาการและสัญญาณชีพเด็กปกติ ไม่มีความน่ากังวลใดๆ โดยระหว่างที่แอมอยู่ในห้องกักโรค ไม่มีญาติขอเข้าเยี่ยม มีเพียงนางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม ติดต่อเข้ามาเพียงคนเดียว

ครอบครัวเหยื่อที่ราชบุรีร้องตำรวจขอรื้อคดี


มีความเคลื่อนไหวที่ จ.ราชบุรี วันนี้ สามีและลูกสาว ของ น.ส.กะณิกา หรือ เอ๊ะ ที่คาดว่าเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกแอมวางยาจนเสียชีวิต ได้นำหลักฐานเพิ่มเติมไปมอบให้ตำรวจ สภ.โพธาราม หลังทางตำรวจยืนยันจะมีการรื้อคดีขึ้นมาทำใหม่

สามี บอกว่า ช่วงก่อนที่ภรรยาจะเสียชีวิต มีการโทรศัพท์พูดคุยกับแอมทุกวัน ซึ่งวันเกิดเหตุภรรยาขับรถออกไปคนเดียว และนัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนจะนั่งรถของแอมไป โดยภรรยาไม่ได้บอกว่าไปไหน มารู้ว่าอยู่ด้วยกันก็ตอนที่ลูกสาวโทรหา แล้วแอมเป็นคนรับสาย บอกว่าภรรยาเป็นลมล้มวูบ ให้รีบมาที่โรงพยาบาล ตอนนั้นตกใจและเอะใจเพราะภรรยาไม่เคยมีอาการป่วย สุขภาพดีมาโดยตลอด จากนั้น แอมก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ส่วนเงินที่หายไปนั้น ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่เป็นยอดที่เยอะอยู่

ญาติมั่นใจการเสียชีวิตของ “หนิม” เกี่ยวข้อง “แอม”

ส่วนเคสล่าสุดที่มีการเปิดเผยจาก “บิ๊กโจ๊ก” เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) เป็นภรรยาตำรวจ ตม.ที่มุกดาหาร ชื่อ “หนิม” ซึ่งพบข้อมูลว่าแอมติดหนี้ หนิม เป็นเงินหลักแสน และลักษณะการเสียชีวิตของหนิม ก็คล้ายกับรายอื่นๆ ที่เป็นข่าว โดยวันนี้ ทีมข่าวไปที่บ้านของหนิม ได้พบกับเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นคนที่มาเจอหนิมนอนหมดสติในบ้านก่อนที่จะเสียชีวิต

เพื่อนบ้าน เล่าว่า วันเกิดเหตุ 25 พ.ย. 2563 ตัวเองได้รับโทรศัพท์จากญาติของหนิม ให้ช่วยไปดูว่าทำไมหนิมไม่รับโทรศัพท์ เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นหนิม นอนตะแคงอยู่บนที่นอน และมีปัสสาวะ อุจจาระ เรี่ยราด ตนเองได้ประคองและพยายามเขย่าตัวของหนิม แต่ไม่มีการตอบสนอง จึงเรียกเจ้าหน้ากู้ชีพมาช่วยปฐมพยาบาลแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้

“อ.อ๊อด” เชื่อ “แอม” มีความรู้ทางเคมีหลังพบสั่งซื้อยาแก้พิษ

สำหรับประเด็นเรื่องของไซยาไนด์ วันนี้ อาจารย์อ๊อด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม หลังตรวจสอบวัตถุพยานชิ้นล่าสุดที่เพิ่งได้รับจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเมื่อคืนวานนี้ เป็นกล่องพัสดุที่มีการสั่งซื้อ ส่งมาให้แอม ภายในบรรจุผลึกสีขาวใส จากการตรวจสอบ พบว่า สารสีขาวที่ว่านี้ คือ โซเดียมไทโอซัลเฟต (Sodium thiosulfate) ซึ่งจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ สารชนิดนี้ คือ ยาแก้พิษ “ไซยาไนด์” อาจารย์อ๊อดเลยมองว่า แอมมีความรู้ทางเคมี เพราะมีการสั่งซื้อสารดังกล่าว ซึ่งเป็นยาแก้พิษ อาจารย์อ๊อด ยังระบุว่า จากการตรวจสอบช่องทางออนไลน์ที่ก่อนหน้านี้ มีการโพสต์ขายไซยาไนด์กันแพร่หลาย แต่วันนี้หายไปเกือบหมดแล้ว

ส่วนที่มีการพูดกันว่าเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องหรือไม่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต อธิบายว่า คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ผู้กระทำมีทั้งป่วยและไม่ป่วย ส่วนใหญ่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน หรือ ความต้องการทางเพศ โดย 80% ของผู้ก่อเหตุมักเป็นผู้ชายและใช้วิธีรุนแรง ส่วนผู้หญิงมักประสงค์ทรัพย์ ใช้วิธีไม่รุนแรง โดยเฉพาะใช้ยาพิษ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.

อุตุฯ เผยอีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า-กทม.อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน ส่วนภาคกลาง รวม กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศร้อนในตอนกลางวัน

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก เสียชีวิต 2 ราย

เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่วัดไทยในเขตบรองซ์ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ ช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพระไทยที่จำพรรษาในวัด