พนักงานท่าเรือ แจ้งความ ปปป.เอาผิดอดีตผู้บริหารการท่าเรือ ม.157

บช.ก. 3 เม.ย. – อดีตพนักงานการท่าเรือกว่า 100 คน ที่ถูกกระทำและอาจติดคุกในคดีพิเศษพร้อมด้วยนายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ กิจงาม สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปปป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหาร และอดีตผู้บริหารการท่าเรือ 8 คน ข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157


นายกฤษฎา กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 57 ผู้บริหารการท่าเรือได้เข้าร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเรื่องการฟ้องคดีค่าล่วงเวลาของขบวนการค้าความทำให้รัฐเสียหายหลายพันล้านบาทขอให้ ดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบการทุจริต ต่อมาต้นปี 57 ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษหลังจากนั้นสรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา แต่ ป.ป.ช.ส่งสำนวนกลับไปให้ ดีเอสไอดำเนินคดี ต่อมาเดือนมิถุนายน 2560 ดีเอสไอ แจ้งให้การท่าเรือแห่ง
ประเทศไทยเข้ามาเป็นผู้กล่าวหา การท่าเรือจึงแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานและอดีตพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 560 คน ว่ามีการทุจริตเบิกค่าล่วงเวลา ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริงทำให้รัฐเสียหายประมาณ 3,300 ล้านบาท ดีเอสไอ ใช้เวลาสอบสวนและสรุปสำนวนประมาณ 6 ปี จึงมีคำสั่งฟ้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เพียง 34 คน จาก 560 คน และมีมูลค่าความเสียหายไม่เกิน 3 ล้านบาท ดีเอสไอได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 34 คน ส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ดังนั้นคดีพิเศษนี้เมื่อได้ทำการสอบสวนมาถึง 6 ปีแล้วข้อเท็จจริงจึงเป็นที่ยุติว่าพนักงานกว่า 500 คน เป็นผู้บริสุทธิ์แต่กลับถูกผู้บริหารการท่าเรือกลั่นแกล้งแจ้งความดำเนินคดีอาญาร้ายแรง วันนี้จึงต้องมาแจ้งความที่ บก.ปปป.เพื่อดำเนินคดีกับผู้บริหารและอดีตผู้บริหารการท่าเรือตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ให้ถึงที่สุด

นายฉัตรชัย อดีตพนักงานการท่าเรือ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า พวกตนกว่า 500 คน ไม่ได้รับความเป็นธรรม นำคนที่ทุจริตโกงเบิกเงินล่วงเวลา มาเป็นพยานฟ้องคนสุจริต ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน น่าจะมีที่การท่าเรือที่เดียว มากล่าวหาพวกตนว่าทุจริตจนพวกตนจะโดนคดีอาญา รู้สึกเสียใจมาก ที่ผ่านมาพวกตนทำงานตามจริงมาตลอด หลังดีเอสไอรับคดีแล้วทำให้คดีที่พวกตนฟ้องศาลแรงงานถูกยกฟ้อง ทำให้เราขาดโอกาส วันนี้ก็ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ บก.ปปป.เอาผิด เจ้าหน้าที่ อดีตเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 8 คน ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้ง สอบปากคำและรวบรวมหลักฐานพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น