การท่าเรือฯ ฉลองครบรอบ 74 ปี โชว์กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 7 พันล้านบาท

กรุงเทพ 16 พ.ค. – การท่าเรือแห่งประเทศไทย ฉลองวาระครบรอบ 74 ปี แห่งการก่อตั้ง โชว์กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 7,648 ล้านบาท ตั้งเป้าบริหารจัดการพื้นที่ท่าเรือให้มีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิด 3 Smart เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานควบคู่การพัฒนาเมือง-เทคโนโลยี-คุณภาพชีวิตประชาชน มุ่งสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
 
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 74 ปี ภายในงาน นอกจากจะมีพิธีสงฆ์แล้ว ยังมีการมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศล รวมทั้งสิ้น 1,834,482 บาท ให้แก่สภากาชาดไทย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ จ.เชียงราย วัดคลองเตยในพร้อมมอบรางวัลให้แก่พนักงานเพื่อแทนคำขอบคุณและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงาน


นางมนพร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 74 ปีที่ผ่านมา การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้พัฒนาท่าเรือในกำกับดูแลทั้ง 5 ท่า เพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย สอดคล้องกับนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ที่มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมในภูมิภาค ในส่วนมิติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม กทท. ก็ได้ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับชุมชนโดยรอบท่าเรืออย่างยั่งยืน โดยดำเนินโครงการต่างๆ ตามแนวทาง ESG ดังนั้นบทบาทของ กทท. จึงไม่เพียงแค่การบริหารจัดการท่าเรือเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับประเทศและภูมิภาคเชื่อมโยงไทยกับเศรษฐกิจโลก

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เปิดเผยว่า พิธีวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 74 ปีนี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “PORTrait of the future : Sailing to a Greener Tomorrow” สะท้อนภาพท่าเรือในอนาคตที่มีศักยภาพเทียบเท่าท่าเรือระดับโลก ทั้งยังสามารถอยู่คู่กับสังคมเมือง ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาองค์กรทั้งในด้านโลจิสติกส์ เมือง ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ผ่านหลัก “3 Smart” หรือ “3S” ประกอบด้วย Smart Port มุ่งยกระดับการให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย Smart Commercial การพัฒนาพื้นที่หลังท่าเพื่อรองรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพิ่มศักยภาพด้านการลงทุน ยกระดับพื้นที่ให้เป็นย่านเศรษฐกิจใหม่ใจกลางเมือง Smart Community พัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวสูง สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี มีมาตรฐาน และสร้างความสุขให้คนในชุมชนเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาท่าเรือ


ในส่วนของผลประกอบการในปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา กทท. มีรายได้สูงสุดรวม 17,224ล้านบาท ถือเป็น New Record ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน โดยในปีงบประมาณ 2565 มีกำไรสุทธิ 6,276 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2566 มีกำไรสุทธิ 6,666 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2567 มีกำไรสุทธิ 7,648 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้ง ด้านผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568) มีกำไรสุทธิ 3,500 ล้านบาท มีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง รวม 7,371เที่ยว เพิ่มขึ้น 1.95% สินค้าผ่านท่า 61.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.10% และตู้สินค้าผ่านท่า 5.56 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 5.35%

สำหรับท่าเรือระนองมีสินค้านำเข้า – ส่งออกเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวโดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ เนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกับประเทศเมียนมา ส่งผลให้ปริมาณเรือ ตู้สินค้า และสินค้าผ่านท่าเพิ่มสูงขึ้นโดยผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568) มีเรือเทียบท่าทั้งสิ้น 131 เที่ยว เพิ่มขึ้น 49% ตู้สินค้าผ่านท่า 3,170ตู้ เพิ่มขึ้น 371% สินค้าผ่านท่า 79,810 ตัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในส่วนของความคืบหน้าโครงการสัตว์ส่งออกมีชีวิตของท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรในพื้นที่นั้น มีผลการดำเนินการส่งออกสัตว์ (สุกร) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบฯ อยู่ที่ 1,964 ตัว ส่งผลให้มีผลประกอบการในภาพรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม กทท. ยังมีโครงการที่ยังต้องสานต่ออีกหลายโครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มีความคืบหน้า ณ เดือนพฤษภาคม 2568 ในส่วนที่ 1 งานก่อสร้างงานทางทะเลอยู่ที่ 68.30% ส่วนที่ 2 งานก่อสร้างอาคาร ท่าเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค กทท. ได้ส่งมอบพื้นที่และออกหนังสืออนุญาตเริ่มงานก่อสร้าง (NTP) เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงาน ส่วนที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟ และ ส่วนที่ 4 งานจัดหาและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ขนย้ายสินค้าอยู่ระหว่างจัดทำร่างขอบเขตของงาน (TOR) และว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทบทวนเอกสารประกวดราคา ซึ่งการดำเนินงานทั้ง 4 ส่วนงานต้องสอดคล้องต่อเนื่องกัน


สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port)ได้พิจารณาตามผลการศึกษาแผนแม่บทของ สนข. โดยในจังหวัดขอนแก่นเป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากมีความชัดเจนในตำแหน่งที่ตั้งและประชาชนในพื้นที่ก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุนเพิ่มเติมที่เหมาะสมที่จะนำมาพัฒนาโครงการในพื้นที่ สำหรับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและนครสวรรค์อยู่ระหว่างการวางแผนการศึกษาเพื่อขยายโครงการในอนาคตทั้งนี้ยังมีแผนการศึกษาการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในพื้นที่แนวเส้นทางรถไฟในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สถานีภาชี) และจังหวัดราชบุรี (สถานีหนองปลาดุก) เป็นต้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาท่าเรือบกของ กทท. โดยเร็วต่อไป

นอกจากนี้ กทท. ยังตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ความสามารถของเยาวชน สร้างการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน อาทิ การเปิดหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมร่วมกับมูลนิธิกาญจนบารมีการมอบทุนการศึกษา สนับสนุนด้านการแข่งขันกีฬาและดนตรี ฯลฯ ในด้านสิ่งแวดล้อม กทท. แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเพื่อก้าวสู่ท่าเรือสีเขียวผ่านยุทธศาสตร์ 2D – DigitalizationและDecarbonization เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)

กทท. มุ่งยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมพัฒนาองค์กรให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยยึดถือและปฏิบัติตามค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร (SMART-PAT) ควบคู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี คุณภาพชีวิตชุมชน และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]