“อัจฉริยะ” เปิดเวทีแฉ ตร.สีเทา รอบ 2

สตช. 13 มี.ค. – “อัจฉริยะ” เปิดเวทีแฉอดีตตำรวจและตำรวจปัจจุบันสีเทารอบ 2 ระบุมี “พล.ต.อ.” เป็นหัวหน้าแก๊งมิยาบิ ควบคุมธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่หวั่นคดีถูก ส.ว.ทรงเอ ฟ้องหมิ่น เนื่องมี ส.ว.พญาไท มือขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ เป็นพยานต่อสู้คดี


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเวทีแฉ ตำรวจสีเทาทั้งในอดีตและปัจจุบัน Ep 2 พร้อมขึ้นป้ายไวนิล หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุข้อความ พล.ต.อ. ส. เป็นหัวหน้าแก๊งมิยาบิ กำกับดูแลธุรกิจสีเทาเป็นระบบ มีตำรวจปัจจุบันเป็นลูกน้อง โดยการเปิดข้อมูลครั้งนี้ของนายอัจฉริยะ ไม่ได้ยื่นหนังสือ เอกสาร หรือหลักฐานใด ๆ ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่แฉเพื่อเปิดข้อมูลเชิงลุกให้สังคม ประชาชน รวมถึงผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับทราบปัญหา และเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรตำรวจให้ดี

ทั้งนี้ ในป้ายไวนิลของนายอัจฉริยะ ยังระบุข้อความว่า พล.ต.อ. หัวหน้าแก๊งมิยาบิ มีเซฟเฮ้าส์สำหรับประชุมลับ เป็นเจ้าของฉายานักสืบ 3 เส้น มีมือขวาเป็นเจ้าของรางวัลจักรดาวที่ถูกสั่งห้ามขึ้นรับรางวัลบนเวทีให้นำรางวัลใส่กล่องกลับบ้าน และมีเครือข่ายเป็นพลตำรวจโท เป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงพลเรือน ฉายาปุ๋ยชลบุรี ก็อยู่ในเครือข่ายด้วย


การแฉของนายอัจริยะ ได้บรรยายพฤติการณ์ของ พล.ต.อ.ส. และเครือข่าย โดยอ้างว่าพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ และฮั้วการประมูลอาคารโรงผลิตกระสุน 10 แห่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า อาคารแห่งนี้ถูกปล่อยร้าง ไม่สามารถผลิตกระสุนหรือจัดเก็บดินปืนหรือวัตถุที่ใช้สำหรับผลิตกระสุนได้ ทั้งที่มีการใช้งบประมาณไปเป็นจำนวนมาก สำหรับการใช้งบจัดซื้อจัดจ้างอาคารนี้ พล.ต.อ.ส. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท. มือซ้าย เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง และมีล็อบบี้ยิสต์ คือ นายโต และ ปุ๋ย ชลบุรี ดำเนินการจัดหาผู้รับเหมา โดยตัวเองเตรียมนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบต่อไป

นอกจากนั้นยังมีการนำภาพลูกชายอดีตนายตำรวจระดับผู้บังคับการภาคตะวันออก ที่เป็นตำรวจ ร.ต.ท. และเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ โดยเปิดเผยว่า นายตำรวจคนนี้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นการร่ำรวยผิดปกติ โดยที่ผ่านมาตัวเองได้ร้องเรียนไปยัง ผบ.ตร. แล้วแต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า ซึ่งตัวเองก็จะเดินหน้าเปิดโปงขบวนการเว็บพนันต่อไป

นอกจากนี้นายอัจริยะ ยังได้พา นายวีรโชติ เหยื่อที่ถูกดำเนินคดีข้อหาสมคบยาเสพติดและฟอกเงินปี 2563 และถูกจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพถึง 2 ปี มาเล่าเหตุการณ์ว่า ตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดยาเสพติด แต่กลับถูกดำเนินคดีเนื่องจากมีพยานชี้ตัวผิด ทำให้ถูกจำคุกและต้องต่อสู้คดีในคุก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง จนสามารถออกมาต่อสู้คดีใสชั้นอุทธรณ์


จึงมองว่ากรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำในการทำคดีของตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 มองว่า เป็นการทำคดี 2 มาตรฐาน โดยเฉพาะคดี ส.ว.ทรงเอ ที่อัยการสูงสุดสั่งให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 ออกหมายเรียก ซึ่งเป็นการดำเนินการในข้อหาเดียวกันแต่ก็ยังไม่ถูกดำเนินการใดๆ อีกทั้งตำรวจชุดที่จับกุม “ทุนมินลัต” กลับถูกกองบัญชาการตำรวจนครบาล โยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม

นายอัจริยะ ระบุว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะมีการนำรายชื่อตำรวจ ทหาร และบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่ไปเล่นการพนันบ่อนของ อัลลัวร์ กรุ๊ป มาเปิดเผย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรอบที่ 3 หรือ ep3 ต่อไป

ส่วนคดีที่ตัวเองถูก ส.ว.ทรงเอ ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่ยื่นเลขาฯ ป.ป.ส. ระบุว่า ส.ว.ทรงเอ เกี่ยวข้องกับการการฟอกเงินคดียาเสพติด นายทุนมินลัด โดยถูกเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท คดีนี้ตัวเองจะสู้คดีเต็มที่พร้อมกับ ให้ พ.ต.ท.มานะพงศ์ และพวกทีมขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ มาเป็นพยานในคดี ส่วนกรณี ส.ว.ทรงเอ อ้างพยานในคดีลำดับที่ 6 คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เรื่องนี้ตัวเองสอบถามไปยังคนใกล้ชิดอดีต ผบ.ตร.แล้ว ได้รับการชี้แจงว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไม่ทราบเรื่อง ส่วนตัวเชื่อว่ากรณีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ มาเป็นพยาน ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เนื่องจากตัวเองและพล.ต.อ.สุวัฒน์ เคยทำงานร่วมกันในหลายๆ คดี ในสมัยที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ย้ำว่าตัวเองรู้ว่า นายตำรวจใหญ่ใน ตร. ที่โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.ท.มานะพงศ์ มือขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ ต่อศาลอาญา และเป็นเจ้าของเอกสารชี้แจงขั้นตอนการถอนหมายจับ 7 แผ่น เพื่อสอบถามเหตุผลการขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ ว่า ผู้บังคับบัญชาคนดังกล่าวคือใคร รวมถึงอดีตผู้บังคับบัญชาอีกคน ที่โทรหา พ.ต.ท.มานะพงษ์ พร้อมตำหนิการขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ ว่าอดีตนายตำรวจคนดังกล่าวคือใคร แต่ข้อมูลชุดนี้ อยากให้รอนายโรม รังสิมันต์ เป็นผู้เปิดเผยจะดีกว่า. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]