“อัจฉริยะ” เปิดเวทีแฉ ตร.สีเทา รอบ 2

สตช. 13 มี.ค. – “อัจฉริยะ” เปิดเวทีแฉอดีตตำรวจและตำรวจปัจจุบันสีเทารอบ 2 ระบุมี “พล.ต.อ.” เป็นหัวหน้าแก๊งมิยาบิ ควบคุมธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่หวั่นคดีถูก ส.ว.ทรงเอ ฟ้องหมิ่น เนื่องมี ส.ว.พญาไท มือขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ เป็นพยานต่อสู้คดี


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเวทีแฉ ตำรวจสีเทาทั้งในอดีตและปัจจุบัน Ep 2 พร้อมขึ้นป้ายไวนิล หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุข้อความ พล.ต.อ. ส. เป็นหัวหน้าแก๊งมิยาบิ กำกับดูแลธุรกิจสีเทาเป็นระบบ มีตำรวจปัจจุบันเป็นลูกน้อง โดยการเปิดข้อมูลครั้งนี้ของนายอัจฉริยะ ไม่ได้ยื่นหนังสือ เอกสาร หรือหลักฐานใด ๆ ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่แฉเพื่อเปิดข้อมูลเชิงลุกให้สังคม ประชาชน รวมถึงผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับทราบปัญหา และเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรตำรวจให้ดี

ทั้งนี้ ในป้ายไวนิลของนายอัจฉริยะ ยังระบุข้อความว่า พล.ต.อ. หัวหน้าแก๊งมิยาบิ มีเซฟเฮ้าส์สำหรับประชุมลับ เป็นเจ้าของฉายานักสืบ 3 เส้น มีมือขวาเป็นเจ้าของรางวัลจักรดาวที่ถูกสั่งห้ามขึ้นรับรางวัลบนเวทีให้นำรางวัลใส่กล่องกลับบ้าน และมีเครือข่ายเป็นพลตำรวจโท เป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงพลเรือน ฉายาปุ๋ยชลบุรี ก็อยู่ในเครือข่ายด้วย


การแฉของนายอัจริยะ ได้บรรยายพฤติการณ์ของ พล.ต.อ.ส. และเครือข่าย โดยอ้างว่าพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ และฮั้วการประมูลอาคารโรงผลิตกระสุน 10 แห่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า อาคารแห่งนี้ถูกปล่อยร้าง ไม่สามารถผลิตกระสุนหรือจัดเก็บดินปืนหรือวัตถุที่ใช้สำหรับผลิตกระสุนได้ ทั้งที่มีการใช้งบประมาณไปเป็นจำนวนมาก สำหรับการใช้งบจัดซื้อจัดจ้างอาคารนี้ พล.ต.อ.ส. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท. มือซ้าย เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง และมีล็อบบี้ยิสต์ คือ นายโต และ ปุ๋ย ชลบุรี ดำเนินการจัดหาผู้รับเหมา โดยตัวเองเตรียมนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบต่อไป

นอกจากนั้นยังมีการนำภาพลูกชายอดีตนายตำรวจระดับผู้บังคับการภาคตะวันออก ที่เป็นตำรวจ ร.ต.ท. และเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ โดยเปิดเผยว่า นายตำรวจคนนี้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นการร่ำรวยผิดปกติ โดยที่ผ่านมาตัวเองได้ร้องเรียนไปยัง ผบ.ตร. แล้วแต่คดีก็ยังไม่คืบหน้า ซึ่งตัวเองก็จะเดินหน้าเปิดโปงขบวนการเว็บพนันต่อไป

นอกจากนี้นายอัจริยะ ยังได้พา นายวีรโชติ เหยื่อที่ถูกดำเนินคดีข้อหาสมคบยาเสพติดและฟอกเงินปี 2563 และถูกจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพถึง 2 ปี มาเล่าเหตุการณ์ว่า ตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดยาเสพติด แต่กลับถูกดำเนินคดีเนื่องจากมีพยานชี้ตัวผิด ทำให้ถูกจำคุกและต้องต่อสู้คดีในคุก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง จนสามารถออกมาต่อสู้คดีใสชั้นอุทธรณ์


จึงมองว่ากรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำในการทำคดีของตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 มองว่า เป็นการทำคดี 2 มาตรฐาน โดยเฉพาะคดี ส.ว.ทรงเอ ที่อัยการสูงสุดสั่งให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 ออกหมายเรียก ซึ่งเป็นการดำเนินการในข้อหาเดียวกันแต่ก็ยังไม่ถูกดำเนินการใดๆ อีกทั้งตำรวจชุดที่จับกุม “ทุนมินลัต” กลับถูกกองบัญชาการตำรวจนครบาล โยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม

นายอัจริยะ ระบุว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะมีการนำรายชื่อตำรวจ ทหาร และบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่ไปเล่นการพนันบ่อนของ อัลลัวร์ กรุ๊ป มาเปิดเผย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรอบที่ 3 หรือ ep3 ต่อไป

ส่วนคดีที่ตัวเองถูก ส.ว.ทรงเอ ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่ยื่นเลขาฯ ป.ป.ส. ระบุว่า ส.ว.ทรงเอ เกี่ยวข้องกับการการฟอกเงินคดียาเสพติด นายทุนมินลัด โดยถูกเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท คดีนี้ตัวเองจะสู้คดีเต็มที่พร้อมกับ ให้ พ.ต.ท.มานะพงศ์ และพวกทีมขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ มาเป็นพยานในคดี ส่วนกรณี ส.ว.ทรงเอ อ้างพยานในคดีลำดับที่ 6 คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เรื่องนี้ตัวเองสอบถามไปยังคนใกล้ชิดอดีต ผบ.ตร.แล้ว ได้รับการชี้แจงว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไม่ทราบเรื่อง ส่วนตัวเชื่อว่ากรณีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ มาเป็นพยาน ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เนื่องจากตัวเองและพล.ต.อ.สุวัฒน์ เคยทำงานร่วมกันในหลายๆ คดี ในสมัยที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ย้ำว่าตัวเองรู้ว่า นายตำรวจใหญ่ใน ตร. ที่โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.ท.มานะพงศ์ มือขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ ต่อศาลอาญา และเป็นเจ้าของเอกสารชี้แจงขั้นตอนการถอนหมายจับ 7 แผ่น เพื่อสอบถามเหตุผลการขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ ว่า ผู้บังคับบัญชาคนดังกล่าวคือใคร รวมถึงอดีตผู้บังคับบัญชาอีกคน ที่โทรหา พ.ต.ท.มานะพงษ์ พร้อมตำหนิการขอหมายจับ ส.ว.ทรงเอ ว่าอดีตนายตำรวจคนดังกล่าวคือใคร แต่ข้อมูลชุดนี้ อยากให้รอนายโรม รังสิมันต์ เป็นผู้เปิดเผยจะดีกว่า. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]

ฝนตกหนักบางแห่ง กลางตอนล่าง-ตะวันออก-ใต้

กทม. 7 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย […]

รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ย้ำจุดยืน 4 ข้อ ชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 7 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ย้ำจุดยืน 4 ข้อ ชายแดนไทย-กัมพูชา ไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย พร้อมหนุนกองทัพทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง ยืนยันให้การประชุม JBC เป็นเวทีหาทางออกโดยสันติวิธี และขอให้ทั้งสองฝ่ายปรับกำลังกลับสู่ที่ตั้งเดิม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ ระบุเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ผมได้หารือร่วมกับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ณ พื้นที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ภายหลังจากการหารือ มีข้อมูลบางประการที่เผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนจากเนื้อหาที่ได้หารือกันในที่ประชุม เป็นที่น่าเสียดายที่ข้อเสนอที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การลดการเผชิญหน้าและสันติภาพถูกปฏิเสธ ยิ่งไปกว่านั้น กลับมีการเพิ่มกำลังทางการทหารที่ยิ่งเพิ่มความตึงเครียด ทั้งนี้ ทางเราเองจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการและเสริมกำลังด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผมขอเน้นย้ำจุดยืน ตามที่ได้หารือกับท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.ไทยจะไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น และพร้อมปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างสุดกำลัง 2.ผมขอยืนยันสนับสนุนกองทัพให้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลัง และให้กำลังใจแก่กำลังพลทุกนาย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย ขอย้ำว่า ทุกการดำเนินการของฝ่ายไทยจะคำนึงถึงชีวิต ความปลอดภัย ความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน […]

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]