กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- ดีเอสไอจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีร่วมกันปลอมเอกสารเพื่อขอสินเชื่อจากธนาคาร และหลอกลวงให้ธนาคารโอนเงินไปต่างประเทศ
ชุดปฏิบัติการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีพิเศษที่ 18/2563 กรณี ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) (ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ในขณะนั้น) ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญากับ บริษัท เอพีเอส คล็อด ซีสเต็มส์ จำกัด โดยนางสาวพรธิกา กับพวกรวม 13 บริษัท มีพฤติการณ์ขอสินเชื่อจากธนาคาร โดยยื่นเอกสารปลอมประกอบการเบิกใช้สินเชื่อ และหลอกลวงให้ธนาคารโอนเงินไปต่างประเทศ ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหาย โดยชุดปฏิบัติการสืบสวนสะกดรอยได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า นายสมจินต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 12/2566 ลงวันที่ 5 มกราคม 2566 ในคดีพิเศษนี้ หลบซ่อนตัวอยู่ที่หมู่บ้านย่านพระราม 2 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จึงวางแผนสะกดรอย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 ได้พบตัวนายสมจินต์ ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและแสดงหมายจับ ซึ่งนายสมจินต์ ให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบตามกฎหมาย พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า การกระทำของผู้ถูกจับเป็นความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ใช้เอกสารปลอม นำปัจจัยชำระเงินต่างประเทศโดยได้รับอนุญาตไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือผิดเงื่อนไขในการได้ไปซึ่งปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ และความผิดฐานร่วมกันส่งเงินตราต่างประเทศอันเป็นของต้องจำกัดออกไป อันเป็นความผิดตามมาตรา 264, 265, 268, 83 และ 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526, มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560, พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 มาตรา 8, 8 ทวิ พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2527 มาตรา 3 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244, 252, 253, พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 และควบคุมตัวนายสมจินต์ ส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย