กรุงเทพฯ 26 ม.ค. – “มงคลกิตติ์” ให้ปากคำเพิ่ม ปปป. กรณีร้องสอบโครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์การรถไฟฯ 33 ล้านบาท
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กรณีให้ตรวจสอบกรณีโครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย กว่า 33 ล้านบาท
นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนนัดมาให้เขียนคำให้การเพิ่มเติมเกี่ยวกับป้ายสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่คนมายื่นร้องดำเนินคดีกับผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยและคณะที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด หรือผู้ได้รับมอบหมาย จากหน่วยงานของรัฐผู้ใด โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท หรือไม่
นายมงคลกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อำนาจการสืบสวนสอบสวนจะเริ่มนับแต่วันนี้ ได้แจ้งพนักงานสอบสวนไปแล้วว่าก่อนครบกำหนด 30 วันที่จะต้องส่งให้ ป.ป.ช.จะต้องขอรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างของการรถไฟฯ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งในการวินิจฉัยให้ใช้วิธิเฉพาะเจาะจง ว่ามีใครวินิจฉัยให้ใช้แบบ 2(4) บ้าง อันอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่ อย่างไร และต้องดูว่าคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ตรวจรับมีใครบ้าง ซึ่งตรวจรับน่าจะยังไม่มี เพราะชะลอไปก่อนแล้ว ทางการรถไฟฯ ได้ออกมายืนยันว่าทำถูกต้อง รอดูพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะได้เอกสารจากการรถไฟฯ ภายใน 30 วันหรือไม่ จากนั้นก็ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเองหรืออาจตะส่งกลับมาให้ พงส.บก.ปปป.สอบสวนเพิ่มเติมก็ได้ การที่มายื่นร้องที่ บก.ปปป. เพราะพนักงานสอบสวนจะต้องรับคดี ถ้าไปยื่น ป.ป.ช.เลยอาจจะไม่รับก็ได้ ส่วนจะถูกหรือผิดก็ว่ากันไป ไม่ว่าจะเรื่องราคากลางตัวอักษร ค่ารื้อถอน ค่าติดตั้งใหม่ รวมแล้ว 33 ล้านบาทหรือไม่
ถามจากเพื่อนที่เป็นผู้รับเหมา ตัวอักษรประเมินไว้ที่ 4 ล้านบาท ค่าติดตั้งและถอดถอนอีกประมาณ 8 ล้านบาท รวมแวตแล้วไม่เกิน 15 ล้านบาท ราคานี้มีกำไร 15% ส่วนการรถไฟฯ จ้างราคา 33 ล้านไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไรบ้าง การใช้เจ้าเดิมทำแบบนี้มองแล้วเอากำไรเยอะเกินไป แค่ครึ่งเดียว 15 ล้านบาทก็มีกำไรแล้ว.-สำนักข่าวไทย