นครสวรรค์ 19 ม.ค. – ปปป.บุกรวบเจ้าหน้าที่การเงิน อบต.ลาดยาว ยักยอกเงินกองคลัง 15 ล้านบาท สารภาพติดหนี้พนันออนไลน์ หาเงินใช้หนี้แอปฯ เงินกู้ที่ยืมมา ด้าน ป.ป.ท. เตรียมขยายผลตรวจสอบ อบต.ทั่วประเทศ หลังพบเงินรั่วไหลรวมกว่า 200 ล้านบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. นำกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปง. จับกุม น.ส.พัชรา อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีชำนาญงาน เทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยจับกุมได้ภายในห้องทำงาน สำนักงานเทศบาลตำบลลาดยาว สืบเนื่องจาก น.ส.พัชรา ได้เบิกเงินของกองคลังเทศบาลตำบลลาดยาว ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2566 จำนวน 215 ครั้ง รวมเป็นเงิน 15,867,275.49 บาท ไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยใช้ช่องโหว่จากการที่เป็นคนถือรหัสพิน สามารถเบิกถอนเงินออกจากธนาคารได้
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายกเทศมนตรีตำบลลาดยาว เป็นผู้กล่าวหา ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังพบความผิดปกติของเงินกองคลังเทศบาลตำบลลาดยาว ว่ามีเงินรั่วไหลจากการเบิกถอนเงินในบัญชีธนาคารเทศบาล โดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2566 จำนวน 215 ครั้ง รวมเป็นเงิน 15,867,275.49 บาท จึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ จนทราบว่า น.ส.พัชรา เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีชำนาญงาน เทศบาลตำบลลาดยาว เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการเบิกถอนเงินงบประมาณและเงินต่างๆ ของเทศบาล ยักยอกเงินทั้งหมดไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยใช้ช่องโหว่จากการที่เป็นคนถือรหัสพิน เบิกถอนเงินออกจากธนาคารได้ ซึ่งจากการกระทำดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจนำกำลังเข้าจับกุมตัวดังกล่าว พร้อมกับเชิญตัวพยานบุคคลอีก 3 ราย มาสอบปากคำในฐานะพยาน รวมถึงเข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.พัชรา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
เบื้องต้น น.ส.พัชรา ให้การรับสารภาพว่า นำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้ที่กู้มาจากแอปฯ เงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีหลายเจ้า จึงทำให้หมุนเงินไม่ทัน ประกอบกับมีการส่งภาพคลิปวิดีโอข่มขู่ฆ่า จนเกิดความหวาดกลัว จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว เพื่อเร่งนำเงินไปใช้หนี้ พร้อมยอมรับว่า ทำเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวกับสามี หรือหัวหน้าหน่วยงานคนอื่นๆ ส่วนสาเหตุที่ต้องกู้เงินจากแอปฯ เงินกู้ออนไลน์ เนื่องจากตนเองติดพนันออนไลน์อย่างหนัก
ทั้งนี้ น.ส.พัชรา จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 ส่วนสามี แม้ว่า น.ส.พัชรา ระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีของสามี น.ส.พัชรา ด้วย จึงยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังพบมียอดเงินโอนหลักหมื่นเข้าบัญชีทุกวัน ตั้งแต่ปี 2558 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เงินดังกล่าวมีที่มาอย่างไร นอกจากนี้ ระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำอยู่นั้น มีเบอร์โทรศัพท์ปริศนาที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเบอร์ของแอปฯ เงินกู้นอกระบบ โทรเข้ามาเพื่อทวงหนี้ น.ส.พัชรา จำนวนหลายสายอีกด้วย
ด้าน พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. เปิดเผยว่า การทุจริตของผู้ต้องหา แม้จะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รายเล็ก แต่สร้างความเสียหายแก่ภาครัฐอย่างมาก ภายในปีเดียวทุจริตเงินรัฐได้มากถึง 15 ล้านบาท และใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือน ยักยอกเงิน 13 ล้านบาท โดยใช้วิธีการทุจริตผ่านระบบ KTB Corporate Online ซึ่งเคสนี้เป็นเคสพิเศษ เป็นเคสแรกที่จับกุมได้ หลังจากนี้จะใช้เคสนี้เป็นโมเดลในการปราบปรามการทุจริตลักษณะเดียวกันขององค์กรส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 7,000 แห่ง ซึ่งกรณี น.ส.พัชรา เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลการเงินหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ พบมีเงินรั่วไหลออกจากระบบโดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ รวมกว่า 200 ล้านบาท เชื่อว่าเป็นการยักยอกเงินในลักษณะเดียวกัน ส่วนเรื่องเว็บพนันออนไลน์ และแอปฯ เงินกู้นั้น เบื้องต้นได้รายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบแล้ว และจะมีการขยายผลต่อเนื่อง โดยประสาน ปปง. เข้ามาช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ. – สำนักข่าวไทย