นายกฯ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่

นครสวรรค์ 21 มี.ค.-นายกฯ บินนครสวรรค์ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 20 ล้านเม็ด เร่งรัดเครื่องเอกซเรย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่นปราบยาเสพติดเข้มข้นครบวงจร ขอให้มั่นใจไม่มีวนของกลาง พร้อมพิจารณางบสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน


เวลา 13.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะออกเดินทางจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินนครสวรรค์ ตำบลนครสวรรค์ ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์ โดยมีนางสาวชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และ ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สส. นครสวรรค์พรรคเพื่อไทย รอต้อนรับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปที่ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีพลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการจับกุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และนำชมของกลางที่สามารถจับกุมได้ 7 คดีใหญ่ รวมของกลางทั้งหมดแบ่งเป็น ยาบ้า 20,800,000 เม็ด ไอซ์ 700 กิโลกรัม คีตามีน 199 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 20 คนรถยนต์ 14 คัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเทตัวอย่างยาบ้า ที่จับกุมมาได้ให้นายกรัฐมนตรีดู ซึ่งมีทั้งสีส้ม สีเขียว


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้รับฟังแถลงผลการทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมดูวิดิทัศน์การจับกุมของแต่ละคดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามว่าการจับกุมดังกล่างสามารถจับต้นตอได้หรือไม่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่า ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว

ต่อมานายกรัฐมนตรีได้ดูรถของกลางที่มีการดัดแปลงเพื่อซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติดทั้งรถเก๋ง รถบรรทุก รถขนน้ำมัน ก่อนที่จะดูการเอกซเรย์รถ ลดเวลาในการค้นพบยาเสพติด ไม่เสียเวลา ในการเข้าจับกุม ลดการเสียหายของทรัพย์สินที่จับกุม จากนั้นนายกได้ดูวิธีการสาธิตการเอกซเรย์ รถ ต้องสงสัย และดูสถานี ควบคุมคอนโทรล การตรวจรถ ต้องสงสัย ซุกซ่อน ยาเสพติด พร้อมกับสอบถามว่า ลักษณะรูปแบบของแพคเกจสิ่งเสพติด มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือไม่ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าแม้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบแต่ด้วยความเชี่ยวชาญและชำนาญของเจ้าหน้าที่ สามารถยืนยันว่า เป็นสิ่งเสพติด พร้อมสอบถามถึงความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นห่วงระหว่างการจับกุมผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ายอาจจะพกพาอาวุธมาตรงนี้ได้มีการตรวจที่ตัวของ ผู้ต้องหาด้วยใช่หรือไม่

จากนั้นนายกแถลงถึงผลปฏิบัติการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ว่า วันนี้มาที่นครสวรรค์ดูเรื่องการจับยาเสพติดซึ่งมีทั้งยาบ้ายาไอซ์และยาเคอย่างที่เห็นยาบ้าจับได้ทั้งหมด 20 ล้านเม็ดตัวเล็กกลมๆทั้งหมดมี 7 คดียาไอซ์ 700 กิโลกรัม ถือว่าเป็นรถที่ใหญ่มาก และเริ่มจับอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงวันที่ 1 มีนาคมปีนี้ถือเป็นส่วนที่จับได้ซึ่งจริงๆแล้ว ที่ยังไม่เรียบร้อย ทางตำรวจได้มีการจับเพิ่มได้อีกด้วยและจะมีรายงานเคสต่อเคสเป็นระยะวันนี้ต้องชื่นชมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างบูรณาการคงจะจับเคสใหญ่ๆแบบนี้ไม่ได้วันนี้จับได้ทั้งรายเล็ก รายย่อยคนส่ง สาวไปถึงตัวการได้ อันไหนที่อยู่ต่างประเทศเราก็ขอความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย เป็นสิ่งที่ทำจนจบครบและตอนนี้เห็นได้ว่าจากการรายงาน รถที่ส่งยาเสพติดค่าจ้างเริ่มแพงขึ้นแปลว่าอะไรแปลว่าเจ้าหน้าที่ของเราทำงานได้อย่างเข้มข้นมากขึ้นการขนส่งยาเสพติดเป็นไปได้ยากขึ้น ฉะนั้นค่าจ้างสูงขึ้นและก่อนที่จะมา ขณะที่ราคายาบ้าเมื่อก่อนถูกมากราคาแพงขึ้น หาได้ยากขึ้น ต้องขอบคุณและชื่นชมจากใจจริง นโยบายที่รัฐบาลออกมากวาดล้างยาเสพติดคงไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อรัฐบาลให้ความมั่นใจ ว่าจะปราบปรามอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ก็มีกำลังใจ ซึ่งเราคำนึงถึง ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย และต้องเห็นใจคนทำงานหน้างานด้วย จึงต้องมีมาตรการดูแล เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแล้วเข้าเนื้อตัวเอง เมื่อร่วมมือกันแบบนี้จึงเห็นผลในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนที่มีเบาะแส สามารถที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ประเทศของเราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงขึ้น จากนี้จะขอความร่วมมือจากกระทรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบำบัด ให้ผู้เสพกลับคืนสู่สังคม ตนพูดเสมอว่าคนติดยา อย่าไปมองว่าเขาเป็นคนไม่ดีเพราะบางครั้งอาจผิดพลาดเพราะมีปัญหาในชีวิต ดังนั้น้ราต้องช่วยกันในการบำบัดให้กลับเข้าสู่สังคมอันนี้คือสิ่งสำคัญ รัฐบาลจะทำในเรื่องการฝึกอาชีพ ซึ่งเริ่มแล้ว โดยศูนย์บำบัด เป้าหมายอยากให้ประชาชนมีอาชีพ ต่อไปจะได้ไม่หันกลับเข้าไปยาเสพติดอีก และไม่ส่งผลให้คน เสพยาเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบวงจรและเข้มข้นขึ้น ในทุกภาคส่วน


เมื่อถามถึงเครื่องเอกซเรย์ยาเสพติดที่มีไม่เพียงพอ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่มีไม่เพียงพอ โดยมีงบประมาณตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะต้องให้มีเครื่องเอกซเรย์ยาเสพติดมากขึ้นเพื่อจะได้ครบทั้งหมดทั่วประเทศในเดือนกันยายน ปีนี้ แต่ว่าที่มีการพูดคุยในกระบวนการ ตนอยากขอให้เร่งว่าถ้าเครื่องไหนเสร็จก่อนก็ขอให้เริ่มนำมาใช้งานได้เลย จากที่ตนได้เข้าไปดูการตรวจเครื่องมาพบว่าไม่พลาด พอเห็นการเอกซเรย์สามารถจับได้เลย โดยการมีผู้วิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก

ส่วนเรื่องการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องยึดทรัพย์เราเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนของกลางที่ยึดมามีการกำหนดวันการทำลาย โดยยืนยัน มีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มข้น ซึ่งเรื่องยาเสพติดนั้นคนที่คนเข้ามาต้องตระหนักรู้ว่าทำลายประเทศชาติอย่างมาก ฉะนั้น การยึดทรัพย์เป็นเรื่องที่สามารถทำได้เลย

เมื่อถามต่อว่าประชาชนจะสามารถมั่นใจได้อย่างไรว่ายาเสพติดที่จับกุมารได้จะไม่มีการนำมาวนในกระบวนการอีก นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีค่ะ การวนต่อไม่มี ตนได้คุยและได้เห็นเองแล้ว ซึ่งตั้งแต่มีการสั่งการไปทางเจ้าหน้าที่ทุกคนก็กลัวว่าของกลางจะหาย โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้า มีตัวเลขและจำนวนที่ชัดเจน เพื่อรอการทำลายโดยมีหลายทีมรับผิดชอบฉะนั้นอยากให้ประชาชนไว้ใจได้ และสบายใจเรื่องนี้ได้ โดยยาเสพติดที่ถูกจับแล้วณตอนนี้ และตั้งแต่ที่ตนสั่งการไปไม่มีการวนกลับไปในระบบอย่างแน่นอน

เมื่อถามต่อว่า 7 คดีที่แถลงข่าววันนี้ (21 มี.ค.68) จะสามารถสาวถึงตัวการใหญ่ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาวได้แน่ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันมา และบางกรณีที่อยู่ในต่างประเทศก็มีการออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งมีทั้งระดับผู้สั่งการ รายใหญ่ รายเล็ก และเจ้าของการผลิต พร้อมยืนยันว่า ใน 7 คดีนี้ยังไม่มีคนมีสี เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งตนก็ได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่แล้วถ้าหากมีคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน มากกว่าอยู่แล้วแต่ก็มีเจ้าหน้าที่ ที่ทำดีมากกว่าอยู่แล้ว เขาก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าทำตรงนี้ประชาชนไว้ใจได้ ขอให้ประชาชนเข้าใจตรงนี้

ส่วนมิติการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อันนี้เป็นสิ่งที่คิดตลอดและหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าเจ้าหน้าที่จะได้อะไรบ้างจากการจับกุม เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานเสี่ยงชีวิต และไม่รู้ว่าคนที่ขนยาเสพติดมีอาวุธหรือไม่ เจ้าหน้าที่ควรได้รับค่าตอบแทนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ และทุกภาคส่วน

ส่วนคนที่ถูกออกหมายจับหนีไปต่างประเทศ ในระดับรัฐบาลจะทำอย่างไรได้บ้าง นายกต่อว่า รัฐบาลพร้อมช่วยคุยหากได้รับการประสานมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกประเทศที่นายกรัฐมนตรีไปเจอสามารถขอความช่วยเหลือได้อยู่แล้ว ทั้งเรื่องน้ำท่วม และcall center เรื่องนี้ก็เช่นกัน การส่งคนร้ายหรือช่วยกันจับ เป็นไปได้แน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่คุยกันในทุกระดับ

สำหรับภารกิจครั้งนี้นายกรัฐมนตรีใช้รถ Lexus ทะเบียน 5ขส 45 กรุงเทพมหานคร.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]