นายกฯ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่

นครสวรรค์ 21 มี.ค.-นายกฯ บินนครสวรรค์ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 20 ล้านเม็ด เร่งรัดเครื่องเอกซเรย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่นปราบยาเสพติดเข้มข้นครบวงจร ขอให้มั่นใจไม่มีวนของกลาง พร้อมพิจารณางบสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน


เวลา 13.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะออกเดินทางจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินนครสวรรค์ ตำบลนครสวรรค์ ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์ โดยมีนางสาวชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และ ทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สส. นครสวรรค์พรรคเพื่อไทย รอต้อนรับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปที่ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีพลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการจับกุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และนำชมของกลางที่สามารถจับกุมได้ 7 คดีใหญ่ รวมของกลางทั้งหมดแบ่งเป็น ยาบ้า 20,800,000 เม็ด ไอซ์ 700 กิโลกรัม คีตามีน 199 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 20 คนรถยนต์ 14 คัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเทตัวอย่างยาบ้า ที่จับกุมมาได้ให้นายกรัฐมนตรีดู ซึ่งมีทั้งสีส้ม สีเขียว


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้รับฟังแถลงผลการทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมดูวิดิทัศน์การจับกุมของแต่ละคดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามว่าการจับกุมดังกล่างสามารถจับต้นตอได้หรือไม่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่า ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว

ต่อมานายกรัฐมนตรีได้ดูรถของกลางที่มีการดัดแปลงเพื่อซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติดทั้งรถเก๋ง รถบรรทุก รถขนน้ำมัน ก่อนที่จะดูการเอกซเรย์รถ ลดเวลาในการค้นพบยาเสพติด ไม่เสียเวลา ในการเข้าจับกุม ลดการเสียหายของทรัพย์สินที่จับกุม จากนั้นนายกได้ดูวิธีการสาธิตการเอกซเรย์ รถ ต้องสงสัย และดูสถานี ควบคุมคอนโทรล การตรวจรถ ต้องสงสัย ซุกซ่อน ยาเสพติด พร้อมกับสอบถามว่า ลักษณะรูปแบบของแพคเกจสิ่งเสพติด มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือไม่ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าแม้จะมีการเปลี่ยนรูปแบบแต่ด้วยความเชี่ยวชาญและชำนาญของเจ้าหน้าที่ สามารถยืนยันว่า เป็นสิ่งเสพติด พร้อมสอบถามถึงความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นห่วงระหว่างการจับกุมผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ายอาจจะพกพาอาวุธมาตรงนี้ได้มีการตรวจที่ตัวของ ผู้ต้องหาด้วยใช่หรือไม่

จากนั้นนายกแถลงถึงผลปฏิบัติการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ว่า วันนี้มาที่นครสวรรค์ดูเรื่องการจับยาเสพติดซึ่งมีทั้งยาบ้ายาไอซ์และยาเคอย่างที่เห็นยาบ้าจับได้ทั้งหมด 20 ล้านเม็ดตัวเล็กกลมๆทั้งหมดมี 7 คดียาไอซ์ 700 กิโลกรัม ถือว่าเป็นรถที่ใหญ่มาก และเริ่มจับอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงวันที่ 1 มีนาคมปีนี้ถือเป็นส่วนที่จับได้ซึ่งจริงๆแล้ว ที่ยังไม่เรียบร้อย ทางตำรวจได้มีการจับเพิ่มได้อีกด้วยและจะมีรายงานเคสต่อเคสเป็นระยะวันนี้ต้องชื่นชมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างบูรณาการคงจะจับเคสใหญ่ๆแบบนี้ไม่ได้วันนี้จับได้ทั้งรายเล็ก รายย่อยคนส่ง สาวไปถึงตัวการได้ อันไหนที่อยู่ต่างประเทศเราก็ขอความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย เป็นสิ่งที่ทำจนจบครบและตอนนี้เห็นได้ว่าจากการรายงาน รถที่ส่งยาเสพติดค่าจ้างเริ่มแพงขึ้นแปลว่าอะไรแปลว่าเจ้าหน้าที่ของเราทำงานได้อย่างเข้มข้นมากขึ้นการขนส่งยาเสพติดเป็นไปได้ยากขึ้น ฉะนั้นค่าจ้างสูงขึ้นและก่อนที่จะมา ขณะที่ราคายาบ้าเมื่อก่อนถูกมากราคาแพงขึ้น หาได้ยากขึ้น ต้องขอบคุณและชื่นชมจากใจจริง นโยบายที่รัฐบาลออกมากวาดล้างยาเสพติดคงไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อรัฐบาลให้ความมั่นใจ ว่าจะปราบปรามอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ก็มีกำลังใจ ซึ่งเราคำนึงถึง ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย และต้องเห็นใจคนทำงานหน้างานด้วย จึงต้องมีมาตรการดูแล เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแล้วเข้าเนื้อตัวเอง เมื่อร่วมมือกันแบบนี้จึงเห็นผลในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนที่มีเบาะแส สามารถที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ประเทศของเราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงขึ้น จากนี้จะขอความร่วมมือจากกระทรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบำบัด ให้ผู้เสพกลับคืนสู่สังคม ตนพูดเสมอว่าคนติดยา อย่าไปมองว่าเขาเป็นคนไม่ดีเพราะบางครั้งอาจผิดพลาดเพราะมีปัญหาในชีวิต ดังนั้น้ราต้องช่วยกันในการบำบัดให้กลับเข้าสู่สังคมอันนี้คือสิ่งสำคัญ รัฐบาลจะทำในเรื่องการฝึกอาชีพ ซึ่งเริ่มแล้ว โดยศูนย์บำบัด เป้าหมายอยากให้ประชาชนมีอาชีพ ต่อไปจะได้ไม่หันกลับเข้าไปยาเสพติดอีก และไม่ส่งผลให้คน เสพยาเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบวงจรและเข้มข้นขึ้น ในทุกภาคส่วน


เมื่อถามถึงเครื่องเอกซเรย์ยาเสพติดที่มีไม่เพียงพอ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่มีไม่เพียงพอ โดยมีงบประมาณตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะต้องให้มีเครื่องเอกซเรย์ยาเสพติดมากขึ้นเพื่อจะได้ครบทั้งหมดทั่วประเทศในเดือนกันยายน ปีนี้ แต่ว่าที่มีการพูดคุยในกระบวนการ ตนอยากขอให้เร่งว่าถ้าเครื่องไหนเสร็จก่อนก็ขอให้เริ่มนำมาใช้งานได้เลย จากที่ตนได้เข้าไปดูการตรวจเครื่องมาพบว่าไม่พลาด พอเห็นการเอกซเรย์สามารถจับได้เลย โดยการมีผู้วิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก

ส่วนเรื่องการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องยึดทรัพย์เราเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนของกลางที่ยึดมามีการกำหนดวันการทำลาย โดยยืนยัน มีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มข้น ซึ่งเรื่องยาเสพติดนั้นคนที่คนเข้ามาต้องตระหนักรู้ว่าทำลายประเทศชาติอย่างมาก ฉะนั้น การยึดทรัพย์เป็นเรื่องที่สามารถทำได้เลย

เมื่อถามต่อว่าประชาชนจะสามารถมั่นใจได้อย่างไรว่ายาเสพติดที่จับกุมารได้จะไม่มีการนำมาวนในกระบวนการอีก นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีค่ะ การวนต่อไม่มี ตนได้คุยและได้เห็นเองแล้ว ซึ่งตั้งแต่มีการสั่งการไปทางเจ้าหน้าที่ทุกคนก็กลัวว่าของกลางจะหาย โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้า มีตัวเลขและจำนวนที่ชัดเจน เพื่อรอการทำลายโดยมีหลายทีมรับผิดชอบฉะนั้นอยากให้ประชาชนไว้ใจได้ และสบายใจเรื่องนี้ได้ โดยยาเสพติดที่ถูกจับแล้วณตอนนี้ และตั้งแต่ที่ตนสั่งการไปไม่มีการวนกลับไปในระบบอย่างแน่นอน

เมื่อถามต่อว่า 7 คดีที่แถลงข่าววันนี้ (21 มี.ค.68) จะสามารถสาวถึงตัวการใหญ่ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาวได้แน่ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันมา และบางกรณีที่อยู่ในต่างประเทศก็มีการออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งมีทั้งระดับผู้สั่งการ รายใหญ่ รายเล็ก และเจ้าของการผลิต พร้อมยืนยันว่า ใน 7 คดีนี้ยังไม่มีคนมีสี เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งตนก็ได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่แล้วถ้าหากมีคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน มากกว่าอยู่แล้วแต่ก็มีเจ้าหน้าที่ ที่ทำดีมากกว่าอยู่แล้ว เขาก็อยากพิสูจน์ตัวเองว่าทำตรงนี้ประชาชนไว้ใจได้ ขอให้ประชาชนเข้าใจตรงนี้

ส่วนมิติการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อันนี้เป็นสิ่งที่คิดตลอดและหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าเจ้าหน้าที่จะได้อะไรบ้างจากการจับกุม เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานเสี่ยงชีวิต และไม่รู้ว่าคนที่ขนยาเสพติดมีอาวุธหรือไม่ เจ้าหน้าที่ควรได้รับค่าตอบแทนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ และทุกภาคส่วน

ส่วนคนที่ถูกออกหมายจับหนีไปต่างประเทศ ในระดับรัฐบาลจะทำอย่างไรได้บ้าง นายกต่อว่า รัฐบาลพร้อมช่วยคุยหากได้รับการประสานมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกประเทศที่นายกรัฐมนตรีไปเจอสามารถขอความช่วยเหลือได้อยู่แล้ว ทั้งเรื่องน้ำท่วม และcall center เรื่องนี้ก็เช่นกัน การส่งคนร้ายหรือช่วยกันจับ เป็นไปได้แน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่คุยกันในทุกระดับ

สำหรับภารกิจครั้งนี้นายกรัฐมนตรีใช้รถ Lexus ทะเบียน 5ขส 45 กรุงเทพมหานคร.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]