12 ม.ค. – นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงเปิดโปงการเรียกรับสินบนจํานวน 50 ล้านบาท ในคดีสมคบยาเสพติดและฟอกเงินเครือข่ายหลงจู้ มูลค่า 2 พันล้านบาท ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่เป็นฝ่ายการเมืองที่เข้ามาควบคุมด้วยตัวเอง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่เป็นขบวนการทุจริตอยู่ประมาณ 25 คน ในการเรียกรับสินบนจากผู้ต้องหาหลายคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเปิดเผยหลักฐานการโอนเงินให้กับนายพลท่านหนึ่ง ในการอนุญาตเปิดบ่อนการพนันของเครือข่ายหลงจู้ ซึ่งนายพลดังกล่าวยังรับราชการอยู่และไม่ถูกดําเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังมี “พ.ต.อ.” ท่านหนึ่งที่ได้รับเงินจากเครือข่ายหลงจู้ จํานวนกว่า 8 แสนบาท และปัจจุบันได้เลื่อนขั้นเป็นถึงรองผู้บังคับการตํารวจตะเวนชายแดน
สําหรับ ร.ต.ท.ณัฐศักดิธัช หนึ่งในเครือข่ายหลงจู้ เคยต้องโทษในคดีถูกจับเรื่องตู้ม้า ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อและเข้ารับราชการตํารวจ ยศ ร.ต.ท. ซึ่งนายอัจฉริยะตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดถึงเข้ามารับราชการได้ทั้งที่มีคดีอาญาและประวัติอาชญากรรมติดตัว ภายหลังถูกดีเอสไอเรียกสอบปมเงินจํานวน 2,000 ล้านบาท และมีการเรียกรับสินบนจํานวน 50 ล้านบาท แต่มีนายพล ศ. ช่วยไกล่เกลี่ยจนสุดท้ายจ่ายไปที่ 10 ล้านบาท
โดยขบวนการเรียกรับสินบนในคดีพิเศษนี้ มีนายพล จ. กับลูกชาย 2 คน ที่รับสินบนในคดีสมคบยาเสพติด โดยคดีดังกล่าวมีเหยื่อถูกเรียกเงินมากกว่า 200 ล้านบาท โดยมีฝ่ายการเมืองของกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้สั่งการ ซึ่งมีผู้บริหาร ม. เป็นคนรับคําสั่งตรงจากฝ่ายการเมือง และมีคู่หูเป็นสํานักงานกฎหมาย ด. ในการช่วยเจรจาต่อรองการเรียกรับเงินสินบนต่างๆ อีกทั้งมือขวาของ ม. คือ ผู้บริหารระดับสูง ว. ที่คอยช่วยดูเรื่องของเส้นทางการเงิน และปัจจุบันรับหน้าที่ในการเรียกรับสินบนแทน ม. เนื่องจากเกษียณอายุราชการ
ทั้งนี้นายอัจฉริยะ เผยว่าจะนําเรื่องไปยื่นต่อ ป.ป.ช. และ ปปง. ให้เอาผิดและยึดอายัดทรัพย์สินของ ร.ต.ท.ณัฐศักดิธัช เครือข่ายหลงจู้ ฐานรํ่ารวยผิดปกติ. -สำนักข่าวไทย