สมุทรปราการ 21 ธ.ค.- สืบนครบาลรวบ “หมูฟ้า” หลอกลวงหลายรูปแบบ ล่าสุดลวงเอารหัส แฮกเฟซบุ๊กผู้สูงอายุ ไปหลอกยืมเงินคนอื่น พบบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 10 บัญชี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วม 1 ล้านบาท เจ้าตัวอ้างแค่บัญชีม้า ตำรวจไม่เชื่อ
ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล ได้รับแจ้งเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวหมูฟ้า หรือ น.ส.ดวงอรทัย มีพฤติการณ์หลอกหลวงหลายรูปแบบ เช่น หลอกลวงแฮกเฟซบุ๊กผู้เสียหายสูงอายุ เอาข้อมูลรหัส ID Password เพื่อยืมเงินคนอื่น, ใช้หน้าไลน์ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกเอาเงิน, หลอกลงทุนผ่านเพจ DM WALL, หลอกขายของออนไลน์ผ่าน Facebook Mami Mami เป็นต้น และจากการตรวจสอบพบบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 10 บัญชีที่เป็นชื่อ น.ส.ดวงอรทัย มีเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วม 1 ล้านบาท สืบสวนนครบาลจึงเร่งรัดออกสืบสวนติดตาม
เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) เวลาประมาณ 09.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. และ สภ.แม่ปิง ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ดวงอรทัย ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ 3 หมาย ได้ที่บริเวณซอยเทศบาลบางปู 69/3 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบื่อน หรือปลอมไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด”
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก น.ส.ดวงอรทัย ตระเวนก่อเหตุฉ้อโกงในโลกออนไลน์หลายรูปแบบ โดยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 คดี โดยล่าสุดหลอกลวงแฮกเฟซบุ๊กและไลน์ของผู้เสียหายหญิงวัย 59 ปี โดยหลอกเอาข้อมูลรหัส ID Password จากเฟซบุ๊กโดยการแสร้งสนทนาเพื่อขอหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นเมื่อได้หมายเลขโทรศัพท์แล้ว ก็นำหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อใส่เข้าไปใน ID ช่อง Login แล้วแจ้งลืม Password เพื่อให้ระบบส่งข้อความ OTP เข้าไปยังโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อแคปภาพหน้าขอข้อความดังกล่าวส่งกลับมาให้ ทำให้เฟซบุ๊กของเหยื่อตกไปอยู่ในมือผู้ต้องหาทันที และจากนั้นก็เข้าไปตระเวนยืมเงินจากเพื่อนในแอปพลิเคชัน ซึ่งต่อมาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ กระทั่งมีการออกหมายจับ น.ส.ดวงอรทัย เป็นจำนวน 3 หมายจับ
จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.ดวงอรทัย ก่อเหตุมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบางคดีเจ้าตัวไปชดใช้ค่าเสียหาย และผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้วหลายคดี บางคดีมีมูลค่าความเสียถึง 500,000 บาท และยังคงตระเวนก่อเหตุมาจนถึงปัจจุบัน จนถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธทุกข้อหา โดยให้การในชั้นจับกุมว่า “ตนเป็นเพียงผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า ซึ่งได้รับค่าจ่าง 1,500 บาท ต่อ 1 บัญชี ไม่ใช่เป็นผู้กระทำความผิดตัวจริง” สืบสวนนครบาลจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ปัจจุบันการหลอกลวงในโลกออนไลน์ สามารถทำได้หลายวิธี โดยผู้ต้องหารายนี้นับว่ามีประสบการณ์มาก สามารถใช้กรรมวิธีหลอกลวงหลากหลาย แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าตนเองเป็นเพียงบัญชีม้า แต่ขัดแย้งกับพยานหลักฐาน หากใครถูกชื่อบัญชีนี้หลอก ขอให้ติดต่อมาที่สืบสวนนครบาล
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวเสริมว่า ขอประชาสัมพันธ์กับประชาชนว่าการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ตั้งต้นมาจากโลกออนไลน์ ต้องมีมาตรการตรวจสอบในเบื้องต้นให้ดี เช่น การเช็กเครดิต การตรวจสอบช่องทาง Blacklist Seller ซึ่งแผนประทุษกรรมนี้จะหลอกคนเจนเนอเรชั่นเก่า ซึ่งมักจะเข้าไม่ถึงข้อมูล ฉะนั้นก่อนโอนให้ปรึกษาคนใกล้ตัว ลูกหลาน ที่มีประสบการณ์ในโลกออนไลน์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และขอฝากว่าหากพบเบาะแสอื่น สามารถแจ้งเข้ามาที่เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน ตำรวจทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.-สำนักข่าวไทย