ผบ.ตร.ระบุยังไม่ชัดหลักฐาน คฝ.ทำร้ายสื่อฯ สั่งตั้งกรรมการสอบ

กรุงเทพฯ 20 พ.ย. – ผบ.ตร.ระบุยังไม่ชัดหลักฐาน คฝ.ทำร้ายสื่อมวลชน ด้านสื่อมวลชนขอตรวจสอบ ลั่นหากพบตำรวจผิด มีบทลงโทษ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมหารือแนวทางจัดระเบียบ-สร้างความปลอดภัยให้สื่อทำข่าวม็อบ ยึดบทเรียน ถ.ดินสอ


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุการณ์การชุมนุมที่ถนนดินสอ จนมีตำรวจและสื่อมวลชนที่มีสังกัดได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบรูปภาพที่ปรากฏตามโซเชียล หรือแม้แต่ที่ฝ่ายตำรวจบันทึกไว้ ซึ่งก็จะต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่า ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับผู้บาดเจ็บทุกคน และหากผลการตรวจสอบพบว่า ตำรวจปฏิบัติความรุนแรงจริง ก็จะต้องมีบทลงโทษตามขั้นตอน ส่วนการเยียวยาสื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นไปตามมาตรการ แต่ที่ผ่านมาเหตุการณ์การชุมนุมก่อนหน้าเคยมีกรณีที่สื่อมวลชนไปฟ้องร้องตำรวจในชั้นศาลมาแล้ว ตำรวจก็ยึดตามมาตรฐาน หากมีผลชี้ขาดออกมาว่าผิดจริง

ขณะเดียวกัน การควบคุมสื่อฯ ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะสื่อมีเยอะ ทำให้การดูแลและอำนวยความสะดวกไม่ทั่วถึง แต่หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและดูแล รวมถึงจะหามาตรการระหว่างการทำงานของตำรวจกับสื่อฯ ให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะมีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ โดยทางเจ้าหน้าที่อาจจะมีการส่งตำรวจมาดูแลและประสานงานกับสื่อฯ หน้างาน ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ชุมนุม แต่อยากกำชับกับสื่อมวลชนทุกคนว่า แนวทางความปลอดภัยของการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งจะต้องสวมปลอกแขน แสดงสัญลักษณ์เป็นสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนถูกต้อง


ขณะเดียวกัน ปัจจุบันมีสื่อโซเชียล ยูทูบเบอร์ ก่อตั้งสำนักข่าวขึ้นมาเอง ซึ่งสื่อเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสารบบและการรับแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบ แต่หลังจากนี้จะหยิบเอาทุกปัญหามาหารือกับสมาคมผู้สื่อข่าวฯ เพื่อให้การปฏิบัติงานครั้งต่อไป สื่อมวลชนจะมีความปลอดภัยมากขึ้น ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มทางการเมือง ในช่วงเย็นวันนี้ (20 พ.ย.65) ตำรวจยังจะต้องจัดกำลังดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ยังต้องใช้เส้นทาง และย้ำว่าการชุมนุมที่ไม่ได้ขออนุญาต ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การชุมนุมฯ พร้อมยอมรับว่า เป็นห่วงที่การประชุมเอเปคจะเป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มเคลื่อนไหวออกมาชุมนุม แต่ตำรวจก็พร้อมที่จะรักษาความเรียบร้อย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5