รวบ “เซาะ คลองตัน” พาพวกอุ้มสาว 18 กล้อนผม-ทำร้าย-ทำอนาจาร

กรุงเทพฯ 11 พ.ย.- สืบนครบาลตามรวบ “เซาะ คลองตัน” พาพวกบุกบ้าน อุ้มสาว 18 ศัตรูหัวใจ ใช้มีดจี้คอลากขึ้นรถ กล้อนผม ทำร้ายร่างกาย ถอดเสื้อผ้าทำอนาจาร ก่อนปล่อยทิ้งข้างทาง เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ รับเข้าไปในบ้านผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้ร่วมทำร้าย


ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้ประชาชน ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ว่าเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 65 เวลาประมาณ 00.30 น. ผู้ร่วมก่อเหตุ 7 คน (หญิง 6 ชาย 1) บุกไปยังบ้านผู้เสียหายรายซึ่งเป็นหญิงสาว อายุเพียง 18 ปี โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้มีดและกรรไกรจี้คอผู้เสียหาย ก่อนจะลากออกจากบ้านพาไปขึ้นรถยนต์ โดยบนรถผู้เสียหายถูก “กล้อนผม” และถูกทำร้ายร่างกายสารพัดตลอดทาง และกระทั่งขับมาถึงทางเปลี่ยวละแวกหนองแขม กลุ่มผู้ก่อเหตุช่วยกันจับผู้เสียหาย “แก้ผ้า” และปล่อยทิ้งไว้ข้างทาง แต่ต่อมาเกิดความกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ จึงรับผู้เสียหายกลับไปส่งที่บ้าน และโดยอ้างว่า “เป็นน้ำใจที่นำกลับมาส่ง ให้ลืมๆ เรื่องที่เกิดขึ้นไป” ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด ได้มีการออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีทั้ง 3 ราย

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 22.30 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB จับกุมตัว น.ส.พัญญรัตน์ หรือ “เซาะ คลองตัน” อายุ 22 ปี อยู่บ้านในซอยทรัพย์สาคร แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 7 พ.ย.65 ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” จับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านในซอยปรีดีพนมยงค์ 32


พฤติการณ์กล่าวคือ หลังเกิดเหตุและได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายชุดสืบสวนของ สน.วังทองหลาง สืบสวนจนสามารถยืนยันตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้ง 7 ราย คือ 1.น.ส.สุมิตตรา (สงวนนามสกุล) หรือมะขาม อายุ 23 ปี, 2.น.ส.สุนิตา (สงวนนามสกุล) หรือบัว อายุ 20 ปี , 3.น.ส.จุฑารัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือน้ำ อายุ 23 ปี, 4.นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) หรือต้อม อายุ 35 ปี, 5.น.ส.พัญญรัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือ “เซาะ คลองตัน” อายุ 22 ปี, 6.น.ส.ศันศิณี (สงวนนามสกุล) หรือยัด อายุ 23 ปี, 7.น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งต่อมามีการดำเนินคดี โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุยอมเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนบางส่วน แต่ยังมีอีก 3 ราย ที่ยังหลบหนี รวมถึง น.ส.เซาะ

ต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากพฤติกรรมที่ถูกกระทำนั้นอุกอาจมาก ทำให้เกิดความหวาดระแวงตลอดเวลา ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ พล.ต.ต.ธีรเดช ผบก.สส.บช.น. จึงสั่งการชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งจากข้อมูลที่ผู้เสียหายกังวลหนึ่งในผู้ก่อเหตุคือ น.ส.พัญญรัตน์ หรือ “เซาะ คลองตัน” เพราะเป็นผู้ประสานงานให้กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดในการบุกมาที่บ้านผู้เสียหาย และ น.ส.เซาะ ยังเคยเป็นอดีตแฟนของนายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งปัจจุบัน นายเอ กำลังคบหาอยู่กับผู้เสียหาย โดยหลังรับแจ้ง ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น.สืบสวนจนทราบว่าที่พักอาศัยของ น.ส.เซาะ ต่อมา 10 พ.ย. 65 จึงเดินทางไปจับกุมตัวตามหมายจับ มีการนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในชั้นจับกุม “เซาะ คลองตัน” ให้การภาคเสธ โดยรับสารภาพในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน” เพราะเข้าไปบ้านของคู่กรณีจริง แต่ปฏิเสธในข้อหา “โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป”


น.ส.เซาะ ให้การยอมรับว่า “เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 65 เวลาค่ำ น.ส.มะขาม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งในคดีนี้ ทักมาหาทางแชทถามถึงที่พักของผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันพักอยู่กับอดีตแฟนของตนในชุมชนบึงพระรามเก้า และ น.ส.มะขาม หลอกลวงตนว่าให้พาไปหาผู้เสียหาย เพื่อตามไปหาปู่ ตนจึงนั่งรถแท็กซี่ไปถึงละแวกชุมชนบึงพระรามเก้า (ใกล้บ้านผู้เสียหาย) ในเวลาประมาณ 24.00 น.ของวันเกิดเหตุ และเจอกับ น.ส.มะขาม, ผู้ชายอีก 1 คน และผู้หญิงคนอื่น 3 คน รวมทั้งหมด 5 คน มาโดยรถยนต์เก๋ง จากนั้นตนพาเข้าไปบริเวณทางเข้าบ้านของผู้เสียหาย โดยยอมรับว่าเข้าไปคนแรก ซึ่งบ้านไม่ได้ล็อก จึงไปพาผู้เสียหายออกมาจากบ้านให้กลุ่มของ น.ส.มะขาม จากนั้นพวกของ น.ส.มะขาม พาผู้เสียหายขึ้นรถยนต์เก๋งที่ขับมา ส่วนตนแยกมาแล้วจึงไปนั่งเล่นที่ศาลานั่งเล่นในบึงพระรามเก้าดังกล่าว ไม่ได้ติดตามขึ้นรถไป แต่ก็พอทราบว่า มีการทำร้ายกันเกิดขึ้น โดย น.ส.มะขาม ส่งคลิป น.ส.มะขาม กับพวก รุมด่าและทำร้ายผู้เสียหาย ตนจึงกดไลค์คลิปดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ก็กลับที่พักไม่ทราบว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรอีก”

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เป็นนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนติดตามคนร้ายที่เป็นภัย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบว่า หากท่านมีเบาะแสใด สามารถแจ้งมายังเฟซบุ๊กเพจสืบสวนนครบาล IDMB ได้ทันทีตามนโยบาย แม้จะไม่ได้เป็นคดีเหตุอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จะมีการดำเนินการทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย