รวบแฟนเก่าทำร้าย “น้องกิ๊ฟ”

นครพนม 9 ต.ค. – รวบแล้วแฟนเก่าทำร้าย “น้องกิ๊ฟ” พร้อมโซ่ เชือก และยาบ้า อ้างน้องกิ๊ฟกล้อนผมตัวเอง รูปที่ส่งให้ญาติดูแค่ล้อเล่น และทำไปเพราะหึงหวง ถูกตำรวจดำเนินคดี 5 ข้อหาหนัก


พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงจับกุมนายปัญญา โกมลศรี หรือเล็ก อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาคดีชิงตัวน้องกิ๊ฟ อายุ 18 ปี อดีตแฟนสาว ไปทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังก่อเหตุได้นำภาพทำร้ายร่างกายน้องกิ๊ฟในสภาพโหดเหี้ยม ล่ามโซ่ เปลื้องผ้า ส่งไปข่มขู่ญาติ กระทั่งทางญาตินำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จากนั้นนายเล็กได้นำตัว น้องกิ๊ฟมาส่งคืนญาติที่บ้านพักในพื้นที่ จ.สกลนคร ในสภาพถูกซ้อมสะบักสะบอม ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดนครพนมขออนุมัติออกหมายจับนายเล็ก และแฟนสาวอีกคน คือนางสาวเมย์ อายุ 18 ปี ที่ร่วมก่อเหตุดังกล่าว

จากการตรวจสอบยังพบว่าผู้ต้องหาเคยมีหมายจับคดีค้างเก่าในพื้นที่ สภ.นาหว้า จ.นครพนม เมื่อปี 2562 ฐานความผิดเมาแล้วขับ จากนั้นหลบหนีการจับกุมไป กระทั่งมาถูกจับกุมได้พร้อมแฟนสาวในครั้งนี้ ที่กระท่อมนา พื้นที่ ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า จ.นครพนม ก่อนคุมตัวไปตรวจค้นบ้านพัก ตรวจยึดอุปกรณ์ใช้ในการกระทำความผิด คือโซ่คล้องกุญแจ และเชือกที่ใช้รัดอดีตแฟนสาว รวมถึงตรวจยึดยาบ้าได้อีก 180 เม็ด


พล.ต.ต.ธนชาติ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อเหตุเพราะหึงหวง เนื่องจากอยู่กินกับผู้เสียหายมานานกว่า 2 ปี และมีปัญหากันเรื่องส่วนตัว ยอมรับว่าตนมีแฟนหลายคน แต่ก็ดูแลผู้เสียหายมาตลอด แต่ผู้เสียหายพยายามตีตัวออกห่าง ตนจึงโมโหจึงก่อเหตุ ส่วนภาพถ่ายการทำร้ายร่างกาย ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นภาพเก่า ทำเพื่อล้อเล่น แต่ตำรวจตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นภาพจริงที่เพิ่งมีการก่อเหตุ ทั้งนี้ จะเร่งสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะมีหลักฐานเชื่อว่าเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติด เพราะตรวจยึดยาบ้าได้อีก 180 เม็ด โดยผู้ต้องหาอ้างไม่ได้เสพ มีไว้เพื่อขาย

เบื้องต้นจึงถูกแจ้ง 5 ข้อหา ฐานความผิดร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไปเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

ส่วนน้องกิ๊ฟ ผู้เสียหาย ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของทีมสหวิชาชีพ และหน่วยงานของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า