บช.น. 17 ต.ค.- ตำรวจรู้เบาะแสกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุบุกทำร้ายพ่อค้ากัญชาแล้ว 6 ราย จ่อออกหมายจับ 2 ราย คาดหนีออกนอกพื้นที่ กทม.แล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัว
พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าคดีกลุ่มผู้ก่อเหตุร่วมกันใช้อาวุธปืนยาวบุกเข้าไปในแฟลตเคหะธนบุรี ถนนพระราม 2 ซอย 60 เขตบางขุนเทียน ทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สินภายในห้องพักของผู้เสียหายคนหนึ่ง เหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ยืนยันศูนย์รับแจ้งเหตุวิทยุผ่านฟ้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลรับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายในที่เกิดเหตุ ไม่ได้มีการแจ้งปล้นทรัพย์ จากนั้นสายตรวจได้ลงพื้นที่ ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บถูกทำร้ายร่างกาย และถูกนำส่งโรงพยาบาล
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบวิถีกระสุนและร่องรอยการตกกระทบของกระสุนปืนจริง มีเพียงเศษกระสุน Blank gun ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และที่เหลือเป็นร่องรอยการพังประตูเข้าไป คาดที่ชาวบ้านได้ยินเสียงปืน อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้า ส่วนรถฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ที่ผู้ก่อเหตุนำมาใช้ ทราบว่าเป็นรถคนอื่นที่สวมป้ายทะเบียน ซึ่งจะมีการเรียกเจ้าของรถมาสอบปากคำ ส่วนการตรวจค้นห้องพักของผู้เสียหาย พบเพียงกัญชา ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่น ขณะที่สาเหตุยังไม่ชัดเจน เนื่องจากผู้เสียหายยังปิดบังข้อมูลบางอย่างอยู่ แต่เชื่อมาจากเรื่องสิ่งผิดกฎหมาย
การตรวจสอบประวัติทั้งฝั่งผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุ พบว่าทั้งสองกลุ่มเป็นผู้ค้ากัญชาเบอร์หนึ่ง หรือรายใหญ่ มีประวัติเกี่ยวข้องกับกัญชา มีการติดต่อส่งมอบกัญชาผ่านทางออนไลน์มานานหลายปี ซึ่งชุดสืบสวนคาดว่ามูลเหตุการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งเรื่องการซื้อขายกัญชาประมาณ 100 กิโลกรัม แต่เกิดปัญหาขัดแย้งกันตกลงกันไม่ได้ จึงเรียกพวกที่อยู่ข้างล่าง พร้อมอาวุธขึ้นมารุมทำร้ายตามที่ปรากฏภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งตำรวจพบกัญชาอยู่ในห้องผู้เสียหายประมาณ 80 กิโลกรัม
นอกจากนี้ จะตรวจสอบว่ามีเรื่องยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่นอีกด้วยหรือไม่ เนื่องจากผู้เสียหายและภรรยามีประวัติถูกดำเนินคดีสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ สน.แสมดำ ก่อนจะพ้นโทษออกมา ซึ่งผู้ถูกดำเนินคดีดังกล่าวถือว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดในอีกระดับหนึ่ง
สำหรับตัวผู้ก่อเหตุ ตำรวจทราบชื่อชัดเจนแล้วจำนวน 2 คน อยู่ในกระบวนการขอศาลออกหมายจับ คาดหนีออกนอกพื้นที่ กทม.แล้ว ขณะที่ผู้ก่อเหตุคนอื่นอีก 4 คน ที่ปรากฏในภาพวงจรปิด อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ส่วนจะมีผู้ก่อเหตุมากกว่าที่ปรากฏภาพตามคลิปกล้องวงจรปิดหรือไม่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ต.นิธิธร ย้ำคดีนี้ไม่ใช่เพียงคดีทำร้ายร่างกายทั่วไป แต่จะต้องขยายผลไปถึงเรื่องของยาเสพติดด้วย หากพบว่าทั้งสองฝ่ายกระทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ไม่ยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุกลุ่มเดียวกันกับที่เคยอุ้มผู้เสียหายหรือไม่ และมีผู้มีสีที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป ส่วนการครอบครองกัญชาจำนวนกว่า 100 กิโลกรัม ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่หากนำเข้าประเทศถือว่ามีความผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ สำหรับในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 9 ในปี 2565 มีการส่งผู้เสพยาไปบำบัดมากที่สุดในพื้นที่ กทม.-สำนักข่าวไทย