สอท. 7 ก.พ. – ตร.ไซเบอร์ จ่อออกหมายจับเครือข่าย มาเก๊า 888 เพิ่มอีก ขณะที่ทนายความ “เบนซ์ เดม่อน” ผู้ต้องหาคนสำคัญ ประสานเข้าพบตำรวจบ่ายวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.)
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เรียกประชุมคณะกรรมการสืบสวนสวนคดีมาเก๊า 888 เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี หลังจากก่อนหน้านี้มีการเปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จับกุมเครือข่าย และอายัดรถหรู ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชม.
พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยหลังการผลประชุมว่า เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะไม่ใช่ผู้ต้องหาในกลุ่มบัญชีม้า แต่จะเป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องระดับใดนั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่หากเชื่อมโยงไปถึงก็จะดำเนินคดี ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำ ร.ต.อ.คุณากร หรือรองสารวัตรไบร์ท ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น้องชายคนเล็กสุดของพี่น้อง 4 บ. ที่ถูกแฉว่าเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ มาเก๊า 888 ได้รับรายงานว่า ร.ต.อ.คุณากร ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 และไม่ทราบเรื่องของพี่ชายมาก่อนว่า เปิดทำเว็บพนันออนไลน์ เนื่องจากปกติไม่ค่อยรับรู้และยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน ซึ่งยังมีคำให้การที่ยังมีพิรุธหลายเรื่อง ซึ่งพนักงานสอบสวนยังรอตรวจสอบคำให้การอย่างละเอียดอีกครั้งว่าจะต้องมีการสอบปากคำอีกหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ ร.ต.อ.คุณากร ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา เพราะยังไม่ถูกออกหมายจับ ดังนั้นหากเขาได้รับการปล่อยตัวคืนนี้ ก็ไม่สามารถตั้งเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศได้ เพราะต้องเป็นไปตามสิทธิของบุคคลที่ไม่มีหมายจับ แต่เชื่อว่าเจ้าตัวไม่หลบหนีออกนอกประเทศ
นอกจากนี้ทนายความของนายชัยวัฒน์ หรือ เบนซ์ เดม่อน ที่ถูกออกหมายจับแล้ว และยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ได้ประสานขอเข้ามาพูดคุยแนวทางการเข้ามอบตัวของเบนซ์ ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ ซึ่งเจ้าตัว ยืนยันว่าจะขอต่อสู้คดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานยังมีการตรวจค้นโกดังและอู่รถ ที่ได้รับเบาะแสว่าอาจเป็นสถานที่ซุกซ่อนรถแลมโบกินีของของเบนซ์ เดม่อน ราคากว่า 40 ล้านบาท ที่ตำรวจกำลังติดตาม 2-3 จุด แต่ก็ยังไม่พบ ซึ่งคาดว่าอาจมีการเปลี่ยนมือไปยังบุคคลอื่น เพราะคลิปวิดีโอรถคันดังกล่าวได้มีการโพสต์มานานประมาณ 1 ปีแล้ว และหลังมีกระแสข่าว ผู้ครอบครองรถน่าจะรู้ว่าตำรวจจะตรวจยึดรถไว้ตรวจสอบ ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ จึงมีการยักย้ายซุกซ่อนอำพรางไม่ให้เป็นที่สังเกตในขณะนี้ ขณะที่ภาพรวมจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วรวม 33 คน ตามหมายจับตำรวจไซเบอร์ และตำรวจ PCT และยึดทรัพย์ได้รวมกว่า 529 ล้านบาท และพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) จะมีการแถลงความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง. -สำนักข่าวไทย