กำชับ ตร.จราจร กวดขันรถ นร. ย้ำต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย

ตร. 31 ส.ค.- “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์” รอง ผบ.ตร. สั่งตำรวจชลบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด กรณีครูลืมนักเรียนวัย 7 ขวบ ในรถตู้โรงเรียน จนเด็กเสียชีวิต หากพบเป็นการประมาทเลินเล่อของครู ต้องดำเนินคดี พร้อมกำชับตำรวจจราจรกวดขันรถนักเรียน ย้ำต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย


วันนี้ (31 ส.ค.65) เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศบจร.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ลืม “น้องจีฮุน” อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2/2 ไว้ในรถตู้โรงเรียน จนเป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ส.ค.65 เวลาประมาณ 17.00 น.นั้น

เรื่องนี้ได้สั่งการไปยัง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ ผกก.สภ.พานทอง ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพราะเป็นคดีที่กระทบต่อความรู้สึกของผู้ปกครองทั่วประเทศ โดยเฉพาะพ่อแม่และญาติของผู้เสียชีวิต หากพบว่าเป็นการประมาทเลินเล่อของครู ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในข้อเท็จจริงพบว่า ในวันดังกล่าวช่วงเช้ารถโรงเรียนได้ไปรับนักเรียนตามปกติ ซึ่งจะมีเด็กประถม 5 คน และชั้นอนุบาลอีก 2 คน รวมเป็น 7 คน มีครู 1 คน ทำหน้าที่เป็นพลขับ และมีครูดูแลเด็กอีก 1 คน ในส่วนของน้องจีฮุน นั่งอยู่เบาะแถว 3 ส่วนครูที่ดูแลนั่งอยู่แถวหลังสุด เมื่อรถตู้มาถึงโรงเรียน คุณครูที่ดูแลเด็กให้การว่าเดินลงจากรถก่อน จากนั้นได้ชะโงกเข้าไปดูเด็ก ไม่เห็นว่ามีใคร จึงได้ตะโกนบอกครูที่เป็นพลขับ เพื่อให้เลื่อนรถไปจอดในโรงรถ ต่อมาเวลา 16.30 น. หลังจากที่มานำรถเพื่อไปรับนักเรียนตามปกติ จึงได้พบว่า น้องจีฮุน เสียชีวิตแล้ว


เรื่องนี้ได้กำชับให้ตำรวจจราจร ทั้งใน จ.ชลบุรี และทั่วประเทศ เข้าไปประสานผู้บริหารโรงเรียน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพราะเหตุการณ์แบบเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันมาแล้วหลายครั้ง เช่น มาตรการเกี่ยวกับตัวรถ ต้องติดสติกเกอร์คำว่า “รถโรงเรียน” ทั้งด้านข้างและด้านหลัง มองเห็นได้เด่นชัด ต้องไม่ติดฟิล์มมืด ไม่มีม่านกันแดด ติดตั้งสัญญาณเตือนภัยในรถ หรือสอนให้เด็กรู้จักบีบแตรรถ หรือพกโทรศัพท์มือที่ใช้เฉพาะโทรเข้าออก รวมทั้งการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ให้เด็กนักเรียนรู้จักวิธีแก้ปัญหาเมื่อเจอสถานการณ์จริง

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงรถประจำทางประเภทอื่น ที่เด็กนักเรียนใช้โดยสาร เช่น รถสองแถว หรือรถเมล์ จะต้องห้ามมิให้เด็กนักเรียนเกาะ ห้อยโหน หรือยื่นส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายออกไปนอกตัวถังรถโดยไม่สมควร หรือนั่งหรือยืนในหรือบนรถยนต์ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ในขณะที่รถเคลื่อนที่อยู่ในทางเดินรถ ซึ่งการฝ่าฝืนจะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับรถโรงเรียนเป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะช่วยในการกวดขันและตักเตือนเพื่อให้รถโรงเรียนปฏิบัติตามกฎจราจร และนโยบายของสถานศึกษาเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดเช่นนี้อีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

สร้างสถานการณ์ ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธที่ปัตตานี

คนร้ายสร้างสถานการณ์ปาประทัดบอลใส่บ้านชาวไทยพุทธ ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบลายนิ้วมือ หาตัวผู้ก่อเหตุ