ร้องถูกหลอกลงทุนซื้อขายสินค้าผ่านแอปฯ เสียหายนับพันล้าน

บช.ก. 18 ส.ค.- เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด พาตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายร้องตำรวจสอบสวนกลาง เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาหลอกลงทุนซื้อขายสินค้าผ่านแอปฯ มีผู้เสียหายหลายพันคน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยคดีมีการออกหมายจับผู้ต้องหาได้เพียง 5 คน แต่ยังไม่ถึงตัวการใหญ่


เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด พาตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือ ให้ตำรวจสอบสวนกลางเร่งรัดตามจับกุมนายเกรียงไกร และพวก รวม 5 คน ตามหมายจับในร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มีผู้เสียหายหลายพันคน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ผู้เสียหายเล่าว่า สำหรับวิธีการหลอกลวงของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะใช้วิธีการเปิดแอปพลิเคชันชื่อ “สมาร์ทพลัส” จำหน่ายสินค้าออนไลน์ โดยนำสินค้าอุปโภคบริโภค โอทอป ทองคำ และสินค้าต่างๆ จากผู้ประกอบการมาจำหน่ายผ่านแอพปลิเคชัน ซึ่งเปิดมาได้ 2 ปี จากนั้นก็จะชักชวนให้มาร่วมลงทุนในลักษณะการซื้อสินค้า โดยอ้างว่าเงินที่ได้จากการซื้อสินค้าจะนำไปลงทุนในการจำหน่ายสินค้าให้ลูกค้าในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีความนิยมในการบริโภคหรือใช้สินค้าที่นำไปขาย ยกตัวอย่างเช่น จะมีการขายน้ำพริกโอทอปในราคากระปุกละ 1,200 บาท โดยผู้ที่ซื้อสินค้าไปจะได้รับสินค้าและได้เงินต้นและเงินปันผล ที่บริษัทอ้างว่าเป็นงบโฆษณา คืนให้รวม 1,500 บาท ภายใน 7 วัน และยังมีการให้ร่วมลงทุนทองคำ คือ ให้ซื้อทองคำน้ำหนัก 1 บาทในราคา 40,000 บาท แต่จะได้รับเงินปันผล 60,000 บาท ในเวลา 45 วัน โดยมีการใช้วิธีการชักจูงให้ซื้อสินค้าต่างๆ มากมาย จนมีผู้หลงเชื่อซื้อสินค้าร่วมลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากในระยะ 1 เดือนแรก ก็จะได้รับเงินปันผลตามที่ตกลง เมื่อผู้เสียหายตายใจก็ระดมเงินลงทุนเพิ่ม จากนั้นก็เริ่มออกลาย ไม่คืนเงินปันผลให้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ประกอบการหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์กว่า 100 ราย ที่ส่งสินค้าไปฝากขายในแอพปลิเคชันนี้ แต่ก็ไม่ได้รับเงินค่าสินค้าด้วยเช่นกัน


ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ มิจฉาชีพกลุ่มนี้กลุ่มยังคงมีพฤติกรรมหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดพบว่าไปจัดกิจกรรมมินิคอนเสิร์ตนำดารานักร้องไปโชว์ตัว แจกทุนการศึกษาตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อหลอกนักเรียนร่วมลงทุน และให้ไปชักชวนผู้ปกครองให้มาร่วมลงทุนด้วย หากไม่รีบปราบปรามตัดไฟแต่ต้นลม จะทำให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่ได้ไปแจ้งความไว้ตามท้องที่ต่างๆ รวมทั้งที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่คดีไม่คืบหน้า มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปได้เพียง 5 คน แต่ยังไม่ถึงตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น