ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 31 ก.ค.-รัฐบาลออกมาตรการด้านการคลัง-พาณิชย์ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดน ด้วยการ พัก-ลด-ขยาย เติม เสริมสภาพคล่อง เสริมอาชีพ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาล ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์ ชายแดนไทย โดยกำหนดให้ 7 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ดำเนินการดังต่อไปนี้ ให้บริการสินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อเสริมสภาพคล่องในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2568 ของ ธ.ก.ส. เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เช่น ธนาคารออมสิน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 20,000 บาท/ราย ไม่ต้องมีหลักประกัน เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำรงชีพ/ประกอบอาชีพ ช่วงที่ได้รับผลกระทบ สินเชื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือนทรัพย์สิน […]

กองทัพบก 31 ก.ค.- กองทัพบก ยันยึดหลักสุภาพบุรุษทางทหาร ปฏิบัติต่อทหารกัมพูชาที่ควบคุมตัวไว้ตามกฎหมายสากล เตรียมแจ้งความเอาผิดหลบหนีเข้าเมือง ส่วนข้อหาอื่นๆ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงการควบคุมตัวทหารกัมพูชา ซึ่งทางฝั่งผู้นำกัมพูชาออกมาบิดเบือนข้อมูลว่าไทยลักพาตัวทหารกัมพูชาว่า ข่าวสารที่มาจากฝั่งกัมพูชา ต้องใช้วิจารณญาณในเรื่องของความน่าเชื่อถือ ซึ่งการปฏิบัติต่อทหารกัมพูชาที่เราสามารถควบคุมตัวไว้ได้ ในวันแรกเราได้ยึดหลักการปฎิบัติตามกฎหมายสากล เพราะเราถือว่าทหารแม้จะอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็เป็นบุคคลที่มีเกียรติ ถือว่าต่างฝ่ายต่างปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติของตนเอง เป็นหลักพื้นฐานทางทหาร ไม่ใช่ว่าฝั่งตรงข้ามวางอาวุธแล้วเราจะมองเขาเป็นคนร้าย มันไม่ใช่ เพราะกองทัพบกของไทย ตลอดระยะเวลาที่เรามีปฏิบัติการทางทหาร เราเคร่งครัดในกฎกติกาที่เป็นสากล เรายึดถือความเป็นสุภาพบุรุษและพิสูจน์สิ่งเหล่านั้นได้ สิ่งไหนจริงเราบอกจริง สิ่งไหนไม่จริง เราก็บอกว่าไม่จริง เราก็พูดไปตามความจริง ตนเองเชื่อว่าสังคมโลกในปัจจุบัน ให้ความเชื่อถือ ความตรงไปตรงมาของประเทศไทยในทุกระดับ ไม่ใช่เฉพาะในฝ่ายทหาร แต่รวมถึงฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลด้วย โดยในปัจจุบันเราได้ดำเนินการกับทหารกัมพูชาตามกฎหมายปกติ ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามปกติ ส่วนที่บางฝ่ายอาจจะมองไปถึงเรื่องการควบคุมทางทหาร ซึ่งบางฝ่ายอาจจะไปพูดเกินเลยใช้คำว่าเชลยศึก ซึ่งเรื่องนี้อาจไปมีผลในเวทีต่างประเทศ จึงได้รับการประสานให้ใช้ว่าควบคุมตัวทหารกัมพูชาได้ ซึ่งทหารกัมพูชาก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนหรือต่อสู้แต่อย่างใด เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาอื่น นอกจากหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึงเรื่องการพกพาอาวุธปืนเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย หรือไม่นั้น พล.ต.วินธัย ระบุว่า ตอนนี้เข้าสู่การดำเนินการตามกฏหมายปกติต้องให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่เรามี ถ้ามองในเชิงของความรู้สึกที่ดูว่าตรงนั้นมันความรุนแรง เราก็สามารถปรับได้ […]

ก.มหาดไทย 31 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยันรัฐไม่กดดันกองทัพปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชา ให้ จนท.สอบจะได้มีหลักฐานชัด ย้ำอย่ามองรัฐกับทหารแตกกัน ขอให้รอหลังถูกถามแนวทางยึดปราสาทตาควายคืน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลกดดันให้กองทัพปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชาที่ถูกจับกุม ว่า ไม่ได้กดดัน โดยให้เป็นไปตามกระบวนการ และได้ชี้แจงตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วว่าทหารกัมพูชา 18 นาย ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่สอบสวนว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพื่อจะได้มีหลักฐานครอบคลุมชัดเจน พร้อมขออย่าพยายามตั้งคำถามหรือมองในแง่ว่ารัฐบาลกับทหารแตกแยกกัน เพราะเราโทรคุยกันทุกเช้า ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามถึงในส่วนของปราสาทตาควาย จะมีแนวทางยึดคืนมาได้อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรายึดครองอยู่ตอนนี้ เมื่อถามย้ำว่าหมายถึงตัวปราสาท นายภูมิธรรม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าเดี๋ยวรอ.-316.-สำนักข่าวไทย