บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน
ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร ตำบลปราสาท ตำบลบ้านกรวด ตำบลหินลาด ตำบลโนนเจริญ ตำบลเขาดินเหนือ ตั้งแต่ช่วงเวลา 19.00 น. ถึงเวลาประมาณ 22.00 น.

ขณะที่บริเวณทิศตะวันตกของอาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอบ้านกรวดที่ 5 ตรวจพบโดรนบินต่ำลงมา มองด้วยสายตาเห็นได้อย่างชัดเจน ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ทางหน่วยเกรงว่าจะได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ อส. จึงใช้อาวุธปืน M-16 ยิงโดรนดังกล่าวประมาณ 15 นัด แต่ไม่โดน จากนั้นกลุ่มโดรนปริศนาดังกล่าวได้บินหนีไปทางทิศใต้และหายไป
ทางอำเภอจึงกำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้านเฝ้าระวังโดรนที่ขึ้นบินในพื้นที่ พร้อมจัดชุด อส.ชรบ. และผู้นำชุมชน ออกลาดตระเวนตรวจตราเข้มทั้งกลางวันกลางคืนเนื่องจากได้ตรวจสอบกับฝ่ายทหารแล้ว ยืนยันโดรนปริศนาที่พบไม่ใช่ของทหารฝ่ายไทย และในพื้นที่ไม่มีระบบแอนตี้โดรน จึงให้ช่วยกันสอดส่องบุคคลแปลกหน้าและวัตถุต้องสงสัย หากพบเห็นให้แจ้งทางอำเภอทันที
บวท.ชี้มาตรการห้ามบินโดรนทั่วประเทศ -ฝ่าฝืนใช้มาตรการทางทหาร
ภายหลังรัฐบาลและกองทัพไทย ประกาศมาตรการควบคุมไม่ให้มีการขึ้นบินอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 นั้น รายงานข่าวจากวิทยุการบินแห่งประเทศไทย หรือ บวท. ระบุว่าในส่วนของระบบแอนตี้โดรน ที่มีในขณะนี้ ได้มีการนำมาใช้ในจังหวัดที่ควบคุมด้านความมั่นคงแล้ว แต่ไม่ได้ใช้ระบบแอนตี้โดรนทั่วทั้งประเทศ โดยขอให้ประชาชนเคร่งครัด กับระวังตามประกาศดังกล่าว เพื่อแยกโดรนที่เป็นภัยต่อความความมั่นคงออกไป ย้ำว่าหากยังมีการฝ่าฝืน ฝ่ายความมั่นคงจะใช้มาตรการทางการทหาร นำโดรนลำนั้นลงทันที
ด้านกองบิน 1 นครราชสีมา ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ งดใช้อากาศยานไร้คนขับ ในรัศมี 9 กิโลเมตรจากสนามบิน กองบิน 1 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งทุกหน่วยงานในจังหวัด รวมไปถึงกองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้บูรณาการความร่วมมือ เพิ่มความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังทางเทคโนโลยี ป้องกันภัยทางอากาศ รวมทั้ง ตั้งจุดเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัยที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัด และรถทุกคันที่จะเข้า-ออกกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และกองบิน 1 นครราชสีมา ตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ความมั่นคงสูง
ขณะเดียวกัน กองบิน 1 นครราชสีมา ยังได้โพสต์ภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ก “กองบิน 1 Home of the Tiger” มีข้อความว่า “กองบิน 1 ขอประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่รอบที่ตั้งกองบิน 1 ขอให้ช่วยสอดส่องดูแลและช่วยสังเกตการณ์อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ผิดกฎหมาย หากตรวจพบและแจ้งเบาะแสผู้ควบคุมอากาศยานไร้คนขับและอากาศยานไร้คนขับ จนนำไปสู่การจับกุม กองบิน 1 มีรางวัลนำจับ แจ้งข้อมูลที่ ร้อย ทสห.บน.1 โทร.092-7920999”.-สำนักข่าวไทย