ศบ.ทก. เผย 20 ทหารกัมพูชาที่ไทยคุมตัว ยอมจำนนเพราะกระสุนหมด

ทำเนียบ 31 ก.ค.-ศบ.ทก. แถลงภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 2 ฝ่ายตรึงกำลัง อยู่ในความสงบ เผย 20 นายทหารที่ไทยคุมตัว ยอมจำนนเพราะกระสุนหมด ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งรักษาตัว 2 นาย พร้อมเตรียมนำทูตทหารลงพื้นที่ชายแดน เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง โดยจะไม่สร้างภาพลวง บิดเบือน เหมือนเขมร

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุม ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา


โดยพลเรือตรีสุรสันต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังเป็นลักษณะของการตรึงกำลังอยู่ทั้งสองฝ่าย โดยที่ผ่านมาเราได้มีการตรวจพบการใช้โดรนของฝ่ายกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามในสภาพแวดล้อมโดยรวมนั้นยังอยู่ในความสงบ

ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีผู้ถูกควบคุมตัว จำนวน 20 นาย อันนี้เป็นสาเหตุมาจากการยอมจำนนของทางฝ่ายทหารกัมพูชาจำนวน 20 นายนี้ เนื่องจากกระสุนหมด โดยในพื้นที่ช่องซำแต อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยทั้ง 20 นายนั้น ถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้วยความผิดฐานเข้าเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนกรณีของผู้ถูกควบคุมตัวที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกส่งเข้ารับการรักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทั้ง 2 นาย อยู่ภายใต้การควบคุมกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง


โดยประเด็นที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่ามีทั้งผู้บังคับบัญชาหรือผู้นำฝ่ายทหารของประเทศมาเลเซีย ได้เข้ามาสังเกตการณ์ และพูดคุยพบปะหารือกับทั้งทางฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของประเทศมาเลเซีย มีโอกาสเข้าไปพูดคุยพบปะหารือกับแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง กรณีปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อวันที่ 29 และ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ให้ไว้

โดยสรุปเนื้อหาของการหารือ ฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงข้อมูลของสถานการณ์ ก่อนที่จะนำไปสู่การปะทะกันของทั้งสองประเทศ โดยอธิบายหรือชี้แจงว่าฝ่ายไทย ได้ใช้ความพยายาม อดทนอดกลั้นประท้วงการละเมิดข้อตกลงต่าง ๆ ส่วนฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้การวางกำลังทหารและวางระเบิดทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งมีการใช้มวลชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการปลุกปั่นยั่วยุในบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งสถานการณ์ได้เกิดความตึงเครียดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนทางฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มปะทะที่ปราสาทตามเมือนธม ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นที่จะต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไว้ และเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้ ยืนยันว่าฝ่ายไทยนั้นได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและยินดีให้การสนับสนุนในเรื่องของการสังเกตการณ์ของทางฝ่ายมาเลเซียต่อไป และทั้งสองฝ่ายก็ได้เห็นพ้องร่วมกันว่าจุดมุ่งหมายของการเจรจาหยุดยิงนี้เพื่อไปสู่สันติภาพ ก็คือ การประกาศว่าจะหยุดยิงทันที ไม่เพิ่มกำลังทหาร และการช่วยเหลือทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในพื้นที่


นอกจากนี้ สถานการณ์หรือสถานภาพของผู้อพยพผู้ที่ลี้ภัยการปะทะฝ่ายพลเรือนที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตดังนี้ ผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน บาดเจ็บปานกลาง 13 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 13 คน รวมยอดทั้งหมด 52 คน

อีกประเด็นของฝ่ายความมั่นคง อยากจะนำข่าวดีที่เป็นเรื่องที่น่ารักมานำเสนอต่อพี่น้องประชาชน ว่าที่ผ่านมากองทัพบกเอง ได้จัดวงดนตรีดุริยางค์มณฑลทหารบกที่ 25 ออกทำการแสดงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนบ้านวังกลัด อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ และศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนบ้านโชกใต้ อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสร้างความบันเทิง และผ่อนคลายความเครียดให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนในศูนย์พักพิงดังกล่าว ซึ่งการแสดงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกองทัพในการดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากกรณีปะทะกันในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยการแสดงดังกล่าว แสดงไปเมื่อวันที่ 26-29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งหมด 8 พื้นที่ด้วยกัน ซึ่งผลตอบรับต้องชื่นชมว่าเป็นผลตอบรับที่ดีมาก ประชาชนรู้สึกพึงพอใจ และขอบคุณที่ทางกองทัพได้จากกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้ พร้อมกับหวังว่าในโอกาสอันใกล้นี้ก็ให้จัดกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

อีกทั้ง ในส่วนของด้านความมั่นคง อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนให้รับทราบว่าทาง ศบ.ทก.อยู่ระหว่างการเร่งบูรณาการด้านการสื่อสาร บริการให้ข้อมูลโดยเฉพาะกับผู้สื่อข่าว สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถี่ถ้วนการ แบบ One Stop Service เพื่อลดความเข้าใจผิด ความคลาดเคลื่อนในข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายตรงข้าม อันนี้ ศบ.ทก. ยังเร่งในการดำเนินการจัดการ ซึ่งคิดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะมีความเป็นรูปธรรม และสามารถให้พี่น้องสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศสามารถดึงข้อมูลต่าง ๆ มาได้อย่างถี่ถ้วนและสมบูรณ์

ด้านนางมาระตี แถลงว่า สำหรับประเด็นด้านการต่างประเทศ วันนี้มี 2 เรื่องที่จะนำเรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบ สำหรับเรื่องแรกเป็นเรื่องของการเชิญผู้ช่วยทูตทหารและคณะทูต รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศไปสังเกตการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศบ.ทก. ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่าขณะนี้กระทรวงกลาโหม จะนำคณะนะคะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่สังเกตการณ์และประเมินผลกระทบจากการประทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในวันพรุ่งนี้ (1 สิงหาคม 2568) นอกจากนี้เพื่อให้ข้อเท็จจริง จากการลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รับทราบแก่สาธารณะชนอย่างกว้างขวาง รวมถึงในต่างประเทศ ขอเรียนว่ากระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่ขณะนี้จะมีจำนวน 22 สำนักงาน รวม 38 คน ลงพื้นที่ร่วมกับคณะผู้ช่วยทูตทหารในวันพรุ่งนี้ ซึ่งแน่นอนได้มีการเชิญสื่อไทยไปด้วย

ในส่วนของสื่อต่างประเทศจะมีความสำคัญเพราะว่าสื่อต่างประเทศจะเป็นช่องทางสำคัญอย่างมากที่จะช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกรับทราบ เกี่ยวกับการลงพื้นที่วันพรุ่งนี้ ประเด็นแรก พรุ่งนี้เป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทย พร้อมนำคณะผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูตและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศลงพื้นที่ โดยการลงพื้นที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนเป็นอันดับแรก ซึ่งไทยไม่ได้เป็นผู้โจมตีก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ว่าช่วงเวลาใดที่ปลอดภัย จึงต้องรอเวลานิดหนึ่ง ให้มีความแน่นอนในเรื่องนี้

สำหรับประเด็นต่อมา การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ฝ่ายไทยจะไม่สร้างภาพหลวง จะไม่ให้ข่าวบิดเบือนกล่าวหาว่าฝ่ายกัมพูชาลักพาตัวทหารไทยอย่างที่ฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวหาไทย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสิ่งที่คณะผู้ช่วยฑูตทหาร คณะทูตและสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ จะได้เห็นและจะได้สื่อสารไปทั่วโลก ก็คือ ความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล โรงเรียนและสถานที่สาธารณะที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นและพุ่งเป้าโจมตี ไปยังเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนและละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้บริสุทธิ์ต้องอพยพไปศูนย์พักพิงตอนนี้นับกว่าแสนคน

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ จะแถลงข่าวในวันนี้ตอนเวลา 14.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ และจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพิ่มเติม สำหรับการแถลงข่าวของศบ.ทก. วันพรุ่งนี้ทางทีมโฆษกศบ.ทก.จะร่วมลงพื้นที่และมีการแถลงข่าวสดจากสถานที่จริง

ประเด็นที่สอง ที่การต่างประเทศได้มีการหารือในที่ประชุมศบ.ทก.วันนี้เกี่ยวกับจุดยืนของฝ่ายไทยและการเรียกร้องให้กัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคี รัฐบาลไทยขอย้ำจุดยืนต่อการยุติความขัดแย้งในครั้งนี้อีกครั้ง ว่าฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด อย่างที่ทำอยู่และมุ่งแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงต่าง ๆ ทุกรูปแบบ ทุกชนิดทันทีและทำตามข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวอย่างจริงจังและสุจริตใจ ในขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมกลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชาทุกเมื่อ โดยรอฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุม GBC ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการหาทางออกร่มกัน

สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนอย่างเป็นระบบของฝ่ายกัมพูชาที่มีเป้าหมายไม่เพียงเพื่อปกปิดความจริงที่เกิดขึ้น แต่ต้องการที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศและความสามัคคีของคนไทย ขอย้ำว่าในการดำเนินการของฝ่ายรัฐบาลให้ความสำคัญกับอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนผลประโยชน์ของประชาชนและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญและทุกฝ่ายกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน

ด้านนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงว่า ในสถานการณ์วันนี้ ใน 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชามีสถานการณ์ปกติ โดยมีอัตรากำลังของฝ่ายปกครอง ไม่ว่าจะเป็น ชรบ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ประมาณหมื่นกว่าคนที่เข้าไปดูแลในพื้นที่ 7 จังหวัด 22 อำเภอ 63 ตำบล 335 หมู่บ้าน ผลจากการไปดูแล ดูแลจุดตรวจ จุดสกัด การรักษาทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่เคลื่อนที่ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง รวมทั้งสำรวจข้อมูล หลักฐานและได้มีการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

ส่วนของความเสียหาย ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบใน 7 จังหวัด 42 อำเภอ 321 ตำบล 3,884 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 278,506 ครัวเรือน 839,935 คน ผู้เสียชีวิต 16 ราย ผู้บาดเจ็บ 38 ราย

โดยมีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 7 จังหวัด 36 อำเภอ 238 ตำบล 2,702 หมู่บ้าน ในส่วนของศูนย์พักพิง ปัจจุบันนี้มีการทยอยเข้า-ออก ข้อมูลศูนย์พักพิงปัจจุบันมี 733 ศูนย์ มีผู้ที่ยังอาศัยอยู่ศูนย์พักพิง 187,974 คน ส่วนการจะกลับบางคนก็ไปอยู่บ้านญาติ บางคนอยากกลับบ้าน ซึ่งวันนี้เราได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้พิจารณาแต่ละศูนย์ฯ ถึงความเหมาะสม โดยทางเราเน้นการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ในการจะกลับบ้านให้ผู้ว่าฯ และหน่วยงานความมั่นคงเป็นผู้พิจารณา

สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือ ทางรัฐบาลได้เพิ่มวงเงินให้แต่ละจังหวัด ในวงเงินทดลองจ่าย จังหวัดละหนึ่งร้อยล้านบาท ในส่วนของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหนึ่งร้อยล้านบาท วันนี้มีการเร่งทำการเบิกจ่าย โดยเฉพาะผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้เร่งเบิกจ่ายโดยเร็วทันที สำหรับการสำรวจความเสียหายได้มีการสั่งการให้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการสำรวจและชดเชย เยียวยาประชาชนให้เป็นไปตามระเบียบโดยเร็ว ในส่วนของการบริจาคในภาครัฐนั้น ได้กำหนดพื้นที่บริจาค ถ้าเป็นเงินให้บริจาคมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ถ้าหากเป็นสิ่งของให้บริจาคไปที่ศาลาว่าการจังหวัดทุกจังหวัด ส่วนกลางการจะเปิดหรือปิดรับบริจาคเมื่อไร ก็เป็นไปตามประกาศของแต่ละจังหวัด

ในส่วนกลาง กรุงเทพมหานครได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว ยังเหลือแต่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังเปิดรับบริจาคอยู่ ซึ่งเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับบริจาคจากทางปตท. ประมาณเกือบหกล้านบาท แล้ววันนี้ประมาณ 12.30 น. จะมีการปล่อยขบวนสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากพี่น้องประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครจะทยอยส่งไป 7 จังหวัด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา

สำหรับการสนับสนุนเครื่องจักรกล ไม่ว่าจะเป็นรถผลิตอาหาร รถประกอบอาหาร รถบรรทุกน้ำ รถผลิตน้ำ เราก็ได้สนับสนุนไปจำนวน 112 คัน ในส่วนของการดูแลความสงบเรียบร้อย ถ้าหากพี่น้องประชาชนยังไม่ได้รับการดูแลเยียวยาช่วยเหลือหรือตกหล่น ก็สามารถติดต่อไปที่จังหวัดทุกจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรม 1567 ก็จะทำให้พวกเราเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]