อพยพแล้วกว่า 6 หมื่นคน หนีสู้รบชายแดน ทบ.เร่งดูแล

25 ก.ค.- ทบ. เร่งอพยพกว่า 6 หมื่นคน 14 อำเภอ 4 จังหวัด หนีสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา พบวันนี้เสียชีวิต 16 ราย เจ็บ 29 คน ตั้งโรงครัวพระราชทาน 6 จุด พ.ต.หญิง จุฑาพัชร เปรมบัญญัติ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่การสู้รบ ตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา หลังจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธหนักยิงโจมตีเข้ามาในเขตพื้นที่ประเทศไทยตั้งแต่เมื่อเช้าวานนี้ (24 ก.ค.68) ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่รวม 14 อำเภอ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ อ.บ้านกรวด, จ.สุรินทร์ อ.กาบเชิง, อ.พนมดงรัก, อ.สังขะ, อ.บัวเชด, อ.ปราสาท และ อ.เมืองสุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ อ.กันทรลักษ์, อ.เบญจลักษ์, อ.ศรีรัตนะ, อ.พยุห์, อ.กันทรารมย์ […]

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

รมว.ศธ.ลงพื้นที่เยี่ยม “ยายสะทน” สูญเสียหลานจากเหตุระเบิด

25 ก.ค. – รมว.ศธ. ลงพื้นที่เยี่ยม “ยายสะทน” สูญเสียหลานจากเหตุระเบิดชายแดน มอบบ้านใหม่-รถไถ-มอเตอร์ไซค์ เยียวยา พร้อมสั่งจัดทีมครู นักจิตวิทยา ลงพื้นที่ดูแลครู นักเรียน ผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเข้าดูแลเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา โดยจะจัดทีมครู นักจิตวิทยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ตนเองได้ร่วมมือกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เตรียมสร้างบ้านใหม่ให้แก่ครอบครัวของนางสะทน กันภัย อายุ 63 ปี ที่ได้รับความสูญเสียอย่างหนักจากเหตุระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สูญเสียหลานชาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมถึงบ้านพักอาศัยที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งความช่วยเหลือครั้งนี้ถือเป็นการเยียวยาเบื้องต้นทั้งทางกายและจิตใจให้กับครอบครัวผู้ประสบภัย ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งคุณยายได้ขอรถไถ รถมอเตอร์ไซค์ และรถพ่วงข้าง รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน โดยตนเองและมูลนิธิธรรมนัสฯ จะจัดหาให้ตามที่คุณยายร้องขอ.- 416-สำนักข่าวไทย

EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ-นำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้ระเบิดในร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิต 5 ราย ออกจากพื้นที่แล้ว ความคืบหน้าเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา พื้นที่ชายแดน เขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ (25 ก.ค.) กระสุนปืนของฝั่งกัมพูชาตกมาที่ฝั่งไทย ค่าย ตชด.224 ประมาณ 3 ลูก ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ EOD ที่ปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้ระเบิดตั้งแต่ช่วงเช้า ต้องออกจากที่เกิดเหตุด่วน ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยยังทำการเก็บกู้ระเบิดที่หลงเหลือยังไม่แล้วเสร็จ เพราะกระสุนของทางกัมพูชายิงมาใกล้กับจุดเกิดเหตุ จึงทำการอพยพชั่วคราว ก่อนจะดำเนินการเก็บกู้ระเบิดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เข้าเก็บร่างผู้เสียชีวิตภายในร้านสะดวกซื้อ พบผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ประชาชนหลั่งไหลบริจาคเลือด-ทภ.2 ยันไทยยังได้เปรียบทุกจุดปะทะ

สุรินทร์ 2 ก.ค. – ประชาชนหลั่งไหลบริจาคเลือด รพ.สุรินทร์ ต้องเพิ่มเตียงรองรับ ขณะที่กองทัพภาค 2 ยืนยันฝ่ายไทยยังควบคุมสถานการณ์และดำรงความได้เปรียบเหนือข้าศึกในการต่อสู้ทุกจุดปะทะ ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ประชาชนหลั่งไหลบริจาคเลือดเป็นจำนวนมาก จนถึงเที่ยงวัน จำนวนผู้บริจาคอยู่ที่ 355 คน ขณะที่เมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) เริ่มเปิดรับบริจาคเวลา 16.00 น. รวมทั้งการรับบริจาคที่หน่วยคลังเลือด และออกหน่วยบริการนอกพื้นที่ มีผู้บริจาคทั้งสิ้น 868 คน จากปกติมีคนบริจาคไม่ถึงวันละ 90 คน โดยประชาชนเดินทางมาบริจาคได้ถึงเที่ยงคืน เสียงตอบรับเกินคาด ทำให้โรงพยาบาลต้องเพิ่มเตียงบริจาค เพื่อรองรับประชาชน ด้าน พ.อ.กัมปนาท วาพันสุ รองเสนาธิการ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงยืนยันว่า ฝ่ายไทยยังคงควบคุมสถานการณ์และดำรงความได้เปรียบในการต่อสู้ในทุกจุดปะทะเหนือข้าศึก ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้.-สำนักข่าวไทย

4 รมต.ลงพื้นที่ดูแลปชช. รับมือสถานการณ์ชายแดน

ทำเนียบ 25 ก.ค.- รัฐบาลส่ง 4 รัฐมนตรีลงพื้นที่ 4 จังหวัด ดูแลประชาชน รับมือสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมเตรียมเที่ยวบินรับคนไทยในกัมพูชา จัดชุดดูแลความปลอดภัย 24 ชม. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเน้นย้ำให้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในระดับพื้นที่และส่วนกลาง รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบและประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 […]

รัฐบาลไทยย้ำจุดยืนสันติภาพภายใต้หลักสากล ชี้ชัดกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบ 25 ก.ค.- รัฐบาล ยืนยันไทยใช้หลักฐานสู้ด้วยความจริงในเวทีสหประชาชาติ เผยแพร่ข้อเท็จจริงกรณีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ย้ำจุดยืนสันติภาพภายใต้หลักกฎหมายสากล ชี้ชัดกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศ และคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ดำเนินการอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมระหว่างประเทศอย่างตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของหลักฐานที่ตรวจสอบได้ ภายใต้กรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ที่ฝ่ายกัมพูชาได้เลือกใช้กำลังทางทหารก่อนและยังเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม เป็นเครื่องมือในการจัดการกับข้อพิพาท ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของรัฐภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ ทั้งยังเป็นการบ่อนทำลายหลักการพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในภูมิภาค ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงและเสถียรภาพในอาเซียน โดยล่าสุด คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ส่งหนังสือแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาไปยังคณะผู้แทนถาวรและคณะผู้สังเกตการณ์ถาวรประจำสหประชาชาติในนครนิวยอร์กทั้งหมด ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ “รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมถึงสนับสนุนความพยายามของประเทศไทยในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งแม้ในขณะที่ประเทศไทยได้แสดงวุฒิภาวะของประเทศที่ยึดมั่นตามหลักกฎหมายและความรับผิดชอบ ฝ่ายกัมพูชากลับเลือกแนวทางที่บ่อนทำลายเสถียรภาพของภูมิภาค โดยเฉพาะการคร่าชีวิตพลเมืองผู้บริสุทธิ์ และทำลายความไว้วางใจจากนานาชาติ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ละเมิดพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ห่างไกลจากหลักการแห่งสันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ” นายจิรายุ กล่าว -สำนักข่าวไทย

“ไชยชนก” ห่วงจุดพักพิงสุรินทร์อาจอยู่ในแนวปะทะ เล็งหาที่ใหม่

สุรินทร์ 25 ก.ค.- “ไชยชนก” ขอบคุณทุกภาคส่วนรวมพลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยสงคราม ห่วงจุดพักพิงสุรินทร์อาจอยู่ในแนวปะทะ เตรียมหาที่ใหม่ปลอดภัยกว่าเดิม เตรียมปรึกษาผู้มีอำนาจช่วยเหลือชาวบ้านไม่ออกนอกพื้นที่ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และ นส.ผกามาศ เจริญพันธ์ สส.สุรินทร์ เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน และให้กำลังใจกับผู้อพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ นายไชยชนก ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในจังหวัดสุรินทร์เบื้องต้น ว่า ขอบคุณทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะภาครัฐ เอกชน หรือภาคประชาชน ทุกคนรวมพลังกัน เราได้เห็นว่าตอนนี้คนไทยพอเกิดปัญหาเกิดวิกฤต รักและสามัคคีกัน ในเรื่องของอาหารการกินหรือสิ่งของ แม้ตอนนี้ยังมีส่วนที่ขาดอยู่บ้างแต่ขอเพียงแค่เอ่ยปากทุกคนก็รวมพลังกันในการจัดส่งทุกอย่างมา มาที่นี่เราได้คุยกันหลายภาคส่วน แชร์ความคิดกันเยอะ เบื้องต้นที่ตนเห็นเนื่องจากเป็นการขยับเขยื้อนอย่างฉุกเฉินออกมานอกสถานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากระยะของยุทโธปกรณ์และการตัดสินใจที่จะยิงมาที่ภาคประชาชนในชุมชน ทำให้จุดอพยพที่เคยเตรียมไว้ต้องมีการปรับเปลี่ยนฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนทำหน้าที่ได้ดีมาก แม้จะมีความชุลมุน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน (24 ก.ค.) ถึงสองถึงสามจุดกว่าจะมาถึงจุดนี้ ทุกคนก็ทำทุกอย่างสุดกำลัง ไม่ใช่แค่ในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีด้วยเช่นกัน และจุดนี้ที่เราอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ จุดอพยพต่างๆ อยู่ห่างประมาณ 70 – 90 กิโลเมตร ตามข้อมูลที่มีจุดยุทธโธปกรณ์ของกัมพูชา […]

คมนาคม ยืนยันมีที่นั่งเหลือ พร้อมพาคนไทยกลับประเทศ

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.- “สุริยะ” ยืนยันมีที่นั่งเหลือ พร้อมพาคนไทยกลับประเทศ หลังทุกสายการบินสนับสนุนเต็มอัตรา สั่งทุกหน่วยงานเข้าดูแลประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากเหตุการณ์ความไม่สงบในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมพร้อมให้การสนับสนุนและจะดูแลพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ พร้อมทั้งสั่งการทุกหน่วยงานจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะสงบ ทั้งนี้ จากที่เมื่อวานทุกสายการบิน มีที่นั่งเต็มทั้งหมดในเที่ยวบิน กัมพูชา-ไทย จึงได้หารือกับ 7 สายการบินพาณิชย์สัญชาติไทย ซึ่งประกอบด้วย การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยเวียตเจ็ท ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยแอร์เอเชียร์เอ็กซ์ และนกแอร์ รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องถึงมาตรการการนำคนไทยในกัมพูชากลับประเทศ โดยทุกฝ่ายพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมเพิ่มจำนวนที่นั่งให้เพียงพอต่อการรองรับคนไทยกลับประเทศทั้งหมด ซึ่งตนขอขอบคุณทุกสายการบินเป็นอย่างมาก ที่พร้อมสนับสนุน โดยทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ยืนยันว่าเที่ยวบินเส้นทางทั้งจากเสียมเรียบและพนมเปญ กลับมายังกรุงเทพยังมีที่นั่งเหลือจากปรับเพิ่มที่นั่งในช่วงสองถึงสามวันข้างหน้านี้ พร้อมกันนี้หากคนไทยสนใจที่จะเดินทางกลับไทย สามารถประสานไปยังสายการบินไทย สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินกรุงเทพ และสายการบินไทยเวียตเจตได้ทันที นอกจากนั้นสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ […]

พม. ประณามการโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค.- พม. แถลงการณ์ประณามการโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศร้ายแรง ส่งผลกระทบกลุ่มเปราะบาง-สวัสดิภาพทางสังคม-ความมั่นคงของมนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ออกแถลงการณ์ในนามกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง เรื่อง ประณามการโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง อันส่งผลกระทบต่อ กลุ่มเปราะบาง สวัสดิภาพทางสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แห่งราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ความสลดหดหู่ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างไม่สั่นคลอน ต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ต่อครอบครัวของพวกเขา และต่อผู้ได้รับผลกระทบทุกคน จากการโจมตีอย่างโหดเหี้ยมและจงใจ โดยกัมพูชาต่อพื้นที่พลเรือนของไทย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่แค่การละเมิดพรมแดน แต่มันคือการละเมิดความเป็นมนุษย์ เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม 2568 ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลถูกฝังลงบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ได้แค่ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารของเราได้รับบาดเจ็บ แต่พรากขาของชายชาติทหารสองคนไป พร้อมกับชีวิตและอนาคตที่พวกเขาเคยมี และยังไม่หยุดเพียงเท่านั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ความรุนแรงได้ก้าวข้ามขีดจำกัดที่ไม่อาจให้อภัยได้ พลเรือนกลายเป็นเป้าหมาย โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไม่มีความปรานี แม้แต่กับเด็กๆ ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล สถานที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน กลับกลายเป็นฉากแห่งความสยดสยอง ผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คน […]

ศบ.ทก. ย้ำกัมพูชาเริ่มยิงก่อน ทูตไทยที่นิวยอร์กจ่อแจง UNSC

ทำเนียบ 25 ก.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ กัมพูชาเริ่มยิงก่อน เตือนประชาชนไทย-กัมพูชาตามแนวชายแดน อพยพจากพื้นที่แนวรบ เพื่อลดความสูญเสีย เผยวันนี้ยังมีจุดปะทะ 12 แห่ง ยัน เขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ยิง รพ.-เด็ก-พลเรือน เผย ทูตไทยที่นิวยอร์กเตรียมแจง UNSC บ่ายนี้ ชี้ไม่มีการลงมติ คาด แค่ขอยุติปะทะ ขณะที่ “มาริษ” ถึงไทยคืนนี้ พร้อมเปิดรายละเอียด ด้าน โฆษก กต. หารือสื่อต่างประเทศ อธิบายข้อเท็จจริง พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษก ศบ.ทก. ด้านความมั่นคง และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษก ศบ.ทก. การต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม​ 2568 โดยพล.ร.ต.สุรสันต์ […]

รมว.ท่องเที่ยวฯ เล็งถกบอยคอต ห้ามกัมพูชาลุยซีเกมส์

25 ก.ค. – รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมหารือร่วมกับมนตรีซีเกมส์ ถึงการ “บอยคอต” ห้ามนักกีฬาจากกัมพูชามาแข่งขันซีเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ หลังเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์การปะทะกันบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้มีปัญหาต่อเนื่องมาถึงช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถือเป็นข้อห่วงใย ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรี ต้องดูแล และได้ประสานไปยังประธานมนตรีซีเกมส์แล้ว เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันแน่นอน โดยต้องดูว่า จะเข้าไปแทรกแซงได้อย่างไร หรือจะบอยคอตอย่างไร เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากมีความสูญเสียของพี่น้องประชาชนเกิดขึ้น แม้แต่การจะเดินทางมาแข่งขันของนักกีฬากัมพูชาเอง บางทีอาจจะไม่ปลอดภัยด้วยซ้ำ ดังนั้น มองว่า ต้องให้เวลาเยียวยา ขณะนี้เหลืออีก 5 เดือนจะถึงซีเกมส์ ถ้าสถานการณ์ไม่บานปลาย ตนในฐานะรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจอะไรไปห้ามเขามาแข่ง แต่เป็นเรื่องของคณะมนตรีซีเกมส์ นายสรวงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุขึ้น โอลิมปิกกัมพูชายังไม่ได้ติดต่อมาคุยเรื่องนี้ ล่าสุดที่มีการติดต่อกันคือ รัฐมนตรีกีฬากัมพูชา ได้ทำหนังสือขอโทษมายังมนตรีซีเกมส์แล้วเรื่องใช้โลโก้ซีเกมส์ผิด.-สำนักข่าวไทย

1 28 29 30 31 32 40
...