ทหารเขมรคลั่ง เปิดฉากปะทะทหารไทยตั้งแต่ตี 4

สุรินทร์ 25 ก.ค.-ช่องบก-ภูมะเขือ-พนมดงรัก เดือด! ทหารเขมรคลั่งเปิดฉากปะทะทหารไทยตั้งแต่ตี 4 ระดมยิงอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม จรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 08.47 น. วันที่ 25 ก.ค.68 พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สถานการณ์ในวันที่ 25 ก.ค.68 กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบกฯ และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึงเวลาปัจจุบัน (08.00 น.) โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้ด้วยการใช้อาวุธยิงสนับสนุนตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้หลีกเลี่ยงการเข้าในพื้นที่การปะทะ สำหรับความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย On 25 July 2025, the Royal Thai Army received reports […]

รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำเลี่ยงอยู่พื้นที่เสี่ยง

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลห่วงใยคนไทยทำงานในพื้นที่ชายแดน ย้ำหลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวไทยที่ทำงานชายแดนและแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดเหตุความรุนแรง ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ แนะนำให้คนไทยที่พำนักหรือพำนักชั่วคราวในประเทศกัมพูชาและไม่มีความจำเป็นเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัย และขอความร่วมมือให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดงดการเดินทางมายังกัมพูชาในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ในกรณีฉุกเฉินหรือความต้องการความช่วยเหลือ โดยสามารถติดต่อหน่วยงานของไทยได้ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 975 749 682 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 (ตลอด 24 ชั่วโมง) “รัฐบาลสั่งการหน่วยงานติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกด้าน ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากส่วนราชการอย่างต่อเนื่อง” นางสาวศศิกานต์ ย้ำ.-316.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งการด่วนให้ผู้ว่าฯ ชายแดน รวบรวมรายชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เพื่อใช้งบประมาณเยียวยาจากกองทุนสำนักนายกฯ เบื้องต้น พร้อมให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังให้การช่วยเหลือชายแดน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สรุปตัวเลขของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ประทะกันตามแนวชายแดน ทั้งในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และทรัพย์สิน โดยให้ส่งรายละเอียดให้กับแต่ละจังหวัดเพื่อดำเนินการสรุปจำนวน มอบเงินช่วยเหลือชดเชยเยียวยา ทั้งในส่วนข้าราชการทหารและประชาชน โดยเบื้องต้น จะใช้เงินของกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น ส่วนการเยียวยาด้านอื่นๆ ให้เร่งรัดสรุปกลับไปยังกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการเปลี่ยนโรงพยาบาลในพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราว รวมถึงอพยพคนป่วย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไปสู่โรงพยาบาลอื่นๆ ที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลเรื่องการเยียวยาและบรรเทาทุกข์เบื้องต้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ตรวจสอบและแก้ไขประชาสัมพันธ์ข่าวเท็จในสถานการณ์กระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการตามแผนการ ร่วมกับกองทัพในพื้นที่ในการดูแลประชาชนในทุกมิติ ส่วนมาตรการด้านการต่างประเทศ รัฐบาลยืนยันได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาลง โดยได้แจ้ง กระทรวงการต่างประเทศให้เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทยแล้ว และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับสู่ประเทศ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่มีความรุนแรงที่สุดในทางการทูต.-314.-สำนักข่าวไทย

คลังออกมาตรการช่วยเหลือเหตุชายแดน

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-คลังออกมาตรการ ให้แบงก์รัฐเร่งช่วยเหลือเหตุ พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งพักหนี้ ฟื้นฟูกิจการ อาชีพ ซ่อมแซมบ้าน นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบ ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และขยายวงกว้างไปสู่ภาคเศรษฐกิจและสังคมในระดับชุมชนโดยรอบ นับว่าก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนในพื้นที่โดยเร่งด่วน กระทรวงการคลัง จึงมอบหมายให้แบงก์รัฐ ออกมาตรการด้านการเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ครอบคลุมทั้งมาตรการพักชำระหนี้ มาตรการลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ธนาคารออมสิน จัดทำมาตรการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย1)มาตรการพักชำระเงินต้น สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงงวดเดือนธันวาคม 2568 และให้จ่ายดอกเบี้ยเพียงบางส่วน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้2)มาตรการสินเชื่อเพื่อรายย่อย จำนวน 2 โครงการ ได้แก่-สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือสำหรับประชาชนรายย่อย : ระยะเวลาผ่อนชำระ 12 เดือน ปลอดชำระเงินงวด 3 เดือนแรก ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.60 ต่อเดือน-สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพสำหรับประชาชนรายย่อย : ระยะเวลาผ่อนชำระ 60 […]

รัฐบาลสั่งทุกส่วนราชการเร่งช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 25 ก.ค.-รัฐบาลสั่งทุกส่วนราชการเร่งให้ความช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ก.เกษตรฯ ตั้ง War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตรอย่างใกล้ชิด ส่วน ศธ.สั่งปิดโรงเรียน เร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะกันระหว่างกำลังความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลได้บูรณาความร่วมมือ สั่งการให้ทุกภาคส่วนราชการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยยึดหลักความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก พร้อมเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้ง “War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา” เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และวิเคราะห์ผลกระทบด้านการเกษตรในพื้นที่จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด ทั้งติดตามสถานการณ์พื้นที่เกษตรในแนวชายแดนแบบเรียลไทม์ และประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการผลิตพืช สินค้าเกษตร และปศุสัตว์ รวมถึง วางแผนเผชิญเหตุและเสนอแนวทาง ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานในพื้นที่ และสื่อสารสถานการณ์แก่เกษตรกรและประชาชนให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว โดยจะใช้ระบบ ข้อมูลเชิงพื้นที่ (GIS-Based Dashboard) เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรหลักที่อยู่ในรัศมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการตั้ง “ศูนย์ย่อยประสานงานจังหวัด” ในระดับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด […]

กรมปศุสัตว์ เร่งช่วยเกษตรกรชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบเหตุปะทะ

กทม. 25 ก.ค.-“อรรถ​กร” สั่ง​ด่วน​ให้​กรมปศ​ุสัตว์​ช่วย​เหลือ​เกษตรกร​ผู้​เลี้ยง​สัตว์​บริเวณ​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ ซึ่ง​ได้​รับ​ผลกระทบ​จาก​เหตุ​ปะทะ​ โดยมีการจัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน​เบื้องต้น​ ล่าสุด​สำรวจ​ความเสียหาย​ มีวัวตาย ​3 ตัว​ จากกระสุนปืน​ใหญ่​ตก​ เตรียม​พร้อม​จ่าย​เยียวยา​ตามระเบียบ​เหตุ​ภัยพิบัติ​ฉุกเฉิน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ โดยมีการจัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมเตรียมจ่ายค่าเยียวยาตามระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้รับข้อสั่งการให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และดูแลสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยได้ระดมกำลังจากสำนักงานปศุสัตว์ในจังหวัดชายแดนเพื่อส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เข้าสนับสนุนในระยะเผชิญเหตุ ล่าสุด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์รายงานว่า พื้นที่อำเภอบ้านกรวดซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงโค-กระบือขนาดใหญ่ รวมกว่า 21,452 ตัว (โค 17,313 ตัว และกระบือ 4,139 ตัว) ได้รับผลกระทบจากลูกกระสุนปืนใหญ่ตกหลายจุด ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ได้แก่ บ้านสายโท 10 (ใต้) หมู่ 2 ตำบลสายตะกู 10 ลูก บ้านกรวด หมู่ […]

สหรัฐเรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิงทันที

วอชิงตัน 25 ก.ค. – สหรัฐเรียกร้องไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันที หลังความขัดแย้งตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียต่อพลเรือน ส่วนจีนส่งเสริมให้เจรจาสันติภาพ ยันยันวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธมิตรของจีนในอาเซียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายวงกว้าง และแสดงความเสียใจต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมปกป้องชีวิตพลเรือนและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน และเป็นสมาชิกที่สำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้านและการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนจะยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ กรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม เขากล่าวอีกว่า จากมุมมองของผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จีนยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพในแบบของตนเองต่อไป เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดระดับและลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายระมัดระวังต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง รักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง และพยายามลดความตึงเครียดลงโดยเร็ว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใดในข้อพิพาทนี้ แต่ขอย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมแสดงความหวังว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกรอบในการเจรจาและยุติข้อพิพาทด้านสถานทูตต่างชาติหลายแห่ง ออกคำเตือนประชาชนของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น สถานทูตของสหรัฐในประเทศไทย เตือนพลเมืองของตัวเองที่อาจจะทำงานหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดกับชายแดน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ […]

ประชาชนต้องอพยพกว่า 100,000 คนไปยังศูนย์พักพิง 295 แห่ง

กทม. 25 ก.ค.-ปลัด มท. เผยมีประชาชนต้องอพยพจากเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา มากกว่า 100,000 คนไปยังศูนย์พักพิง 295 แห่ง กำชับผู้ว่าฯ นายอำเภอ บูรณาการทุกภาคส่วนดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ถูกสุขลักษณะ พร้อมสร้างขวัญกำลังใจประชาชนควบคู่การบำรุงขวัญกำลังพลตามแนวพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากการลักลอบยิงอาวุธของกัมพูชาเข้ามาล่วงล้ำอธิปไตยของประเทศไทยจนส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่พักอาศัยพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบ ทั้งการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงต้องอพยพย้ายที่พักชั่วคราว โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทุกภาคส่วน นำยานพาหนะของทุกหน่วยงานเร่งอพยพประชาชนเข้าไปยังพื้นที่ปลอดภัยห่างจากแนวการปะทะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งให้ดูแลด้านการใช้ชีวิตครอบคลุมปัจจัยความจำเป็นพื้นฐาน ทั้งด้านอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ห้องน้ำ และที่พัก ให้ถูกสุขลักษณะ โดยเน้นย้ำเรื่อง “ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” “สำหรับจำนวนประชาชนผู้ที่ได้ทำการอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 4 จังหวัดข้างต้น ณ วันที่ 24 ก.ค. […]

หลั่งไหลบริจาคเลือด สำรองโลหิตคงคลังรับมือเหตุปะทะชายแดน

24 ก.ค.- คนไทยหลั่งไหลร่วมบริจาคเลือดแน่นสภากาชาดไทย หลังเกิดเหตุปะทะรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่วันนี้จำนวนเลือดทะลุเป้า เตรียมกระจายส่งไปยังโรงพยาบาลพื้นที่ชายแดน บรรยากาศที่สภากาชาดไทย มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาบริจาคเลือดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเที่ยง เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ปกติจะมีผู้มาบริจาคเลือดวันละไม่ถึง 500 คน แต่ ณ เวลา 19.14 น.ของวันนี้ มียอดผู้ลงทะเบียนบริจาคเลือด 1,647 คน ได้เลือด 1,352 ยูนิต และคาดว่าวันนี้ยอดผู้บริจาคเลือดจะแตะ 2,000 คน ขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจคัดกรองเลือด ใช้เวลาประมาณ 24 ชม. ก่อนส่งให้ผู้ป่วยตามสถานพยาบาลต่างๆ สามารถไปได้ที่หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติ ในเขตกรุงเทพฯ 8 แห่ง ได้แก่ ส่วนภูมิภาค จะมีภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก […]

สุรินทร์อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง หลังเหตุปะทะหนักหน่วง

สุรินทร์ 24 ก.ค. – จ.สุรินทร์ อพยพชาวบ้านไปยังศูนย์พักพิง 3 จุด หลังเหตุปะทะหนักหน่วงตลอดทั้งวันและกินพื้นที่วงกว้าง ส่วนกรณีมีข่าวทหารกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง RM-70 โจมตีชายแดนสุรินทร์ คาดน่าจะเป็น BM-21 มากกว่า.-สำนักข่าวไทย

เยียวยาจิตใจชาวบ้านบุรีรัมย์-ระดม จนท.รักษาความปลอดภัยช่วงกลางคืน

บุรีรัมย์ 24 ก.ค. – จ.บุรีรัมย์ ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในช่วงกลางคืน หลังอพยพชาวบ้านกว่า 2 หมื่นคน มาอยู่ศูนย์พักพิง ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังวิตกกังวล ต้องจัด เจ้าหน้าที่เยียวยาจิตใจ.-สำนักข่าวไทย

ธนาคารตามชายแดน ปิดบริการ 35 สาขา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-สมาคมธนาคารไทย ปิดสาขาในพื้นที่ชายแดนไทย –กัมพูชาชั่วคราว 35 สาขา เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและประชาชน ​จากสถานการณ์ความไม่สงบ บริเวณพืนที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่นั้น นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า ประชาชน พนักงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่ใกล้เคียง โดยธนาคารสมาชิกแต่ละแห่ง ได้พิจารณาผ่อนคลายการปรับเวลาเปิด-ปิดทำการสาขา และ ATM ในพื้นที่เสี่ยงตามความเหมาะสม โดยได้ปิดสาขาเป็นการชั่วคราวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ( ข้อมูล ณ เวลา 18.30 น.) จำนวน 35 สาขา ใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี และตราด […]

1 30 31 32 33 34 38
...