เสี่ยงดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก

สดร. 30 ต.ค. 63 – นักดาราศาสตร์ คาดการณ์เส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส อาจชนโลกในอีก 48 ปี สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. เผยข้อมูลจากการรายงานของนักดาราศาสตร์ที่กำลังจับตามอง “ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ดาวเคราะห์น้อยที่มีโอกาสพุ่งชนโลกในช่วงหนึ่งร้อยปีต่อจากนี้  โดยนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาย ระบุว่า วงโคจรของอะโพฟิสมีความเปลี่ยนแปลงและอาจพุ่งชนโลกประมาณวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2611 หรืออีก 48 ปีข้างหน้า Dave Tholen นักดาราศาสตร์ประจำสถาบันดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาวาย ผู้ติดตามดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสมากว่า 16 ปี อธิบายถึงผลการสำรวจล่าสุดว่า การเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยเกิดจากการดูดซับรังสีจากดวงอาทิตย์เรียกว่า ยาคอฟสกีเอฟเฟค (Yarkovsky effect) ส่งผลให้เกิดการเบี่ยงเบนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจากเดิมที่คำนวณไว้ปีละ 170 เมตร ซึ่งมากพอที่อาจจะมีโอกาสพุ่งชนโลกในปี พ.ศ. 2611  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โอกาสการเกิดขึ้นมากที่สุดตาม Sentry Risk Table ขององค์การนาซา คือ 1 ใน 150,000 หรือคิดเป็นร้อยละ 0.00067 ปัจจุบัน นักดาราศาสตร์ได้ติดตามดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสอย่างต่อเนื่อง ติดตามข้อมูลล่าสุดและคำนวณเส้นทางอย่างระมัดระวัง ซึ่งข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ซูบารุในเดือนมกราคมถึงมีนาคม ช่วยให้วัดตำแหน่งของอะโพฟิสได้อย่างแม่นยำ และสามารถประมาณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสได้ 370 เมตร  สำหรับการเข้าใกล้โลกมากที่สุดครั้งถัดไป คือวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2572  ซึ่งอาจทำให้สามารถมองเห็นดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้ด้วยตาเปล่า นักดาราศาสตร์ต่างเฝ้ารอการเข้าใกล้ครั้งนี้เพราะเป็นโอกาสที่จะได้ข้อมูลของวงโคจรที่แม่นยำ ผลของแรงโน้มถ่วงและแสงอาทิตย์ที่มีผลกับวงโคจรของอะโฟฟิส ทั้งนี้ดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2547 โดยหอดูดาวแห่งชาติคิตพีค (Kitt Peak National Observatory) หากการพุ่งชนเกิดขึ้นจะทำให้เกิดแรงระเบิดที่เทียบเท่ากับระเบิด TNT จำนวน 880 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหายนะของโลกได้

Googleเพิ่มคุณสมบัติการค้นหาสามมิติ

กรุงเทพฯ 30 ต.ค. Google เพิ่มการค้นหาแบบ 3 มิติ ในวันฮาโลวีน และเกมสนุกบน Doodle หลังจากที่ Google ได้นำเทคโนโลยี AR มาใช้บน Search ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสัตว์ สิ่งของ สถานที่ มากมายในรูปแบบ 3 มิติ และในเทศกาลฮาโลวีนนี้ Google ได้เพิ่มความพิเศษให้การค้นหาในรูปแบบ 3 มิติสนุกยิ่งขึ้น โดยสามารถค้นหาได้ถึง 62 ภาษา รวมถึงภาษาไทย เริ่มการค้นหาโดยเปิดเบราวเซอร์ Google Chrome บนสมาร์ทโฟน และค้นหาด้วยภาษาไทย คำว่า ฮาโลวีน, หมาหรือสุนัข, เยอรมันเชพเพิร์ด, แมว, โครงกระดูกคน หรือกระดูกคน และ ฟักทองฮาโลวีน หรือตะเกียงฟักทอง และกดค้นหา จะปรากฎผลการค้นหาขึ้นมา จากนั้นกด “ดูในแบบ 3 มิติ” หรือ View in 3D ก็จะได้พบกับผลการค้นหาของทั้ง6 คำ ในรูปแบบธีมฮาโลวีนที่คุณยังไม่เคยเห็นมาก่อน -สำนักข่าวไทย.

หัวเว่ยเชื่อโลกกำลังเผชิญกับ5เทรนด์ความเปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อ

กรุงเทพฯ 29 ต.ค. หัวเว่ย ชี้การมาของ 5G ทำให้โลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อใหม่  นายเดวิด หวัง ผู้อำนวยการบริหารของหัวเว่ย กล่าวถึงแนวโน้มเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระบบสื่อสารไร้สายว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนแปลง 5 ประการ การยกระดับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อทุกครั้งล้วนสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่สังคมในระดับรากฐาน ปัจจุบันขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคอัจฉริยะ ทั้งปัจเจกบุคคล ครัวเรือน และองค์กร ล้วนต้องการการเชื่อมต่อมากกว่าที่เคยเป็น และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น คลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล้วนทำงานประสานกันได้อย่างรวดเร็วผ่านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ซึ่งนำพาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไปสู่การเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนแปลง 5 ประการได้แก่ การเชื่อมต่อจาก IoT กับ IoT อัจฉริยะ สู่ Intelligent Twins ที่เชื่อมต่อกัน ในอดีต เราต้องการเชื่อมต่อผู้คนกับบ้าน นำมาสู่การเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) เมื่อเราต้องการสร้างชีวิตที่เชื่อมกับ AI อย่างไร้รอยต่อและยกระดับองค์กรสู่ความอัจฉริยะ เราจึงต้องเชื่อมต่อหลายๆ สิ่งเข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะให้มากขึ้น นำมาสู่ IoTอัจฉริยะ (intelligent IoT) มีการคาดการณ์ว่าปริมาณการเชื่อมต่อทั่วโลกจะมีถึง 1 ล้านล้าน ภายในปี ค.ศ. 2035 จะทำให้เกิดการเชื่อมต่ออย่างครอบคลุมทุกหนแห่งและการแพร่กระจายของเทคโนโลยีอัจฉริยะเกิดขึ้นได้จริง การเชื่อมต่อจากออฟฟิศสู่ออฟฟิศกับการผลิต โควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงความต้องการที่ผู้คนมีต่อเครือข่ายบรอดแบนด์ในครัวเรือน ด้านการใช้งานขององค์กรนั้น เทคโนโลยีการเชื่อมต่อพัฒนาไปไกลกว่าแค่การใช้งานในออฟฟิศ โดยรองรับได้ทั้งออฟฟิศและการผลิต สิ่งที่องค์กรมุ่งเน้นในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลนั้น ได้เปลี่ยนจากออฟฟิศดิจิทัลสู่การผลิตดิจิทัล การทำธุรกรรมดิจิทัล และการบริหารจัดการแบบดิจิทัล การเชื่อมต่อจากการทุ่มเทให้ดีที่สุด สู่บริการเชิงกำหนดที่หลากหลาย อุตสาหกรรมต่างๆ มีความหลากหลายตามรูปแบบการให้บริการและความต้องการใช้งานด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ หากบริการที่แตกต่างคือสิ่งที่มีอยู่เป็นปกติในขณะนี้ ประสบการณ์การใช้งานในรูปแบบเชิงกำหนด (deterministic experience) ก็คือสิ่งที่จำเป็นต้องมีต่อจากนี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายจึงจำเป็นต้องเปิดประตูให้กับตลาดอุตสาหกรรมแนวดิ่ง ด้วยการมอบบริการเชิงกำหนดที่หลากหลาย การเขื่อมต่อจากเมกะไบต์สู่กิกะไบต์ผ่านตัวกลางใดก็ได้เทคโนโลยีการเข้าถึงการเชื่อมต่อแบบหลายช่องทาง(Multiple access) ที่มีอยู่ เช่น โทรศัพท์มือถือ, Wi-Fi, ใยแก้วนำแสง และความหลากหลายของรูปแบบการบริการหมายความว่าเทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นการเข้าถึงการเชื่อมต่อแบบหลายช่องทางจะยังคงมีอยู่ต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า และด้วยความทุ่มเทร่วมกันของทั้งภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยี 4G, 5G, Wi-Fi และเทคโนโลยีใยแก้วนำแสงในปัจจุบันจะทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่ความเร็วระดับกิกะไบต์ได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ และการดำเนินงานและการบำรุงรักษาด้วยโดยใช้คน สู่ระบบอัตโนมัติขั้นสูง เทคโนโลยี 5G จะทำให้การดำเนินงานและการบำรุงรักษาเครือข่าย(O&M) ซับซ้อนกว่าเทคโนโลยี 4G กระบวนการ O&M ที่ใช้คนนั้นจะไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือกับความซับซ้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ และจะเปลี่ยนไปสู่การใช้ระบบอัตโนมัติขั้นสูง (hyper-automation) ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าและ AI เพื่อทำให้การตัดสินใจในกระบวนการ O&M เรียบง่ายมากขึ้น มุ่งสู่การเชื่อมต่ออัจฉริยะด้วย AI ความเปลี่ยนแปลงทั้ง 5 ประการนี้กำลังสร้างความต้องการใหม่ ๆ ต่อเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ซึ่งต้องได้รับการอัปเกรดขึ้นไปเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิต ความต้องการประการแรกคือเครือข่ายระดับกิกะไบต์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ (ubiquitous gigabit) เพราะแบนด์วิดท์คือโครงสร้างพื้นฐานของการเชื่อมต่อการเชื่อมต่อในระดับกิกะไบต์ที่ครอบคลุมทุกที่จึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับวิดีโอความละเอียดสูงระดับ ultra-HD, แอปพลิเคชัน VR/AR เชิงอุตสาหกรรม, กล้อง AI และโดรน ความต้องการประการที่สองคือประสบการณ์การใช้งานเชิงกำหนดซึ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้งานในบ้าน เช่น การทำงานจากบ้านและการเรียนออนไลน์ รวมถึงการใช้งานในองค์กร เช่น การผลิตที่ปลอดภัยและวางใจได้ และความต้องการประการที่สามคือระบบอัตโนมัติขั้นสูงเนื่องจากการพัฒนาเครือข่ายในแง่ของขนาดและความซับซ้อน เทคโนโลยีบิ๊กดาต้าและ AI จะต้องได้รับการนำไปใช้เพื่อให้เกิดเป็นระบบอัตโนมัติขั้นสูงได้สำเร็จ-สำนักข่าวไทย.

ดีอีเอสเร่งพัฒนาดิจิทัลหนุนสังคม-เศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 29 ต.ค.ดีอีเอส ตอบรับแนวทางใช้ดิจิทัลช่วยสังคม เศรษฐกิจ เน้นช่วยคนแก่ คนพิการ เตรียมออกแอปฯรับเรื่องร้องเรียน เปิดไวไฟฟรีชุมชน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวภายหลังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาติดตามผลการดำเนินงานของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า รองนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเน้นด้านสังคม โดยขยายเป้าหมายไปช่วยผู้สูงอายุและผู้พิการได้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินชีวิตนอกจากนี้ให้แก้ไขปัญหาข่าวปลอมต่อไปด้วยการให้ความรู้กับประชาชน รองนายกฯ ยังได้กำชับให้เร่งตั้งสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติ เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม ส่วนการสนับสนุนทางเศรษฐกิจให้สนับสนุนการวางเครือข่ายการสื่อสารให้ครอบคลุมเพื่อใช้เทคโนโลยีช่วยประชาชนในการหารายได้เพิ่ม รวมถึงการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว สำหรับโครงการติดตั้งฟรีไวไฟในชุมชน นำร่อง พื้นที่สำเพ็ง หรือสำเพ็งโมเดล ได้ทำสำรวจพื้นที่แล้วไปดูจุดติดแล้วคิดส่าเดือนพฤศจิกายนจะคิดตั้งเสร็จจาดนั้นจะมีกิจกรรมช่วยพ่อค้าแม่ค้าในการขายของออนไลน์ นอกจากนี้ในกรุงเทพฯจะทำที่ตลาดวังหลัง ทั้งนี้การดำเนินการจะให้บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)  เป็นเจ้าภาพทำโครงการ โดยบริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด จะสนับสนุนด้วยมาตรการลดค่าส่งสินค้าออนไลน์ ซึ่งบริษัทไปรษณีย์ฯเตรียมงบประมาณในการสนับสนุนโครงการ  รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าวต่อว่า ส่วนการควบรวมบริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) และบริษัททีโอที จำกัด(มหาชน) อยู่ระหว่างการดำเนินการ จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเพราะประชาชนไม่สามารถเดินทางตามปกติกระทรวงจะเร่งขยายจุดกระจายสัญญาณไวไฟในท้องถิ่นโดนมอบบริษัททีโอทีจำกัด(มหาชน) เร่งทำการสำรวจเพื่อทำการติดตั้งอุปกรณ์  นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อรองรับการร้องเรียนความเดือดร้อนของประชาชน โดยแอปพลิเคชั่นจะถูกคัดแยกโดยปัญญาประดิษฐ์เพื่อส่งปัญห่ไปให้หน่วยงานต้นทางเพื่อแก้ไขปัญหาแอปพลิเคชั่นนี้จะรับเรื่องร้องเรียนและร้องทุกข์ในทุกเรื่องโดยกระทรวงฯได้หารือเบื้องต้นกับกระทรวงมหาเไทยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร โดยความคืบหน้าอยู่ระหว่างการพัฒนาและจะสามารถใช้ได้ภายใน 1-2 เดือน 

“พล.อ.ประวิตร” ย้ำ ก.ดิจิทัล สกัดเฟคนิวส์

สำนักข่าวไทย 29 ต.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ย้ำ ก.ดิจิทัล เร่งกำจัดเฟคนิวส์ นำเทคโนโลยีช่วยประชาชนมีงานทำ เสริมรายได้ สร้างการรับรู้อย่างเท่าเทียม วันนี้ 29 ต.ค. 63 เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ และหน่วยงานในสังกัด ให้การต้อนรับ ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าตามการมอบนโยบาย ของรองนายกรัฐมนตรี จากนั้น พลเอกประวิตร ได้กล่าว ขอบคุณ สำหรับการต้อนรับ และขอชื่นชมผลการดำเนินงาน ซึ่งได้สนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างดี ​กระทรวงดิจิทัลฯ เป็นกำลังสำคัญของรัฐบาลในการดำเนินการ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ​จึงขอให้ไปดำเนินการในด้านต่างๆ ดังนี้ ด้านสังคม รวมทั้ง ความมั่นคง ช่วยกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสเป็นพิเศษ โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เข้าถึงและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม. เร่งทำการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม หรือ […]

รับสมัครบอร์ดกสทช.วันสุดท้ายได้80ผู้ท้าชิง7อรหันต์

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. สมัครบอร์ด กสทช วันสุดท้าย ได้ 80 คนเข้าชิง 7 เก้าอี้ พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด มาตามคาด  สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สรุปผลการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กรรมการ กสทช.) จำนวน 7 ด้าน ระหว่างวันที่ 14-28 ตุลาคม 2563  มีผู้สมัครทั้งสิ้น 80 คน  โดยผู้มาสมัครในวันสุดท้าย 21 คน หนึ่งในนี้มีพลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เข้ารับการสรรหาด้านกิจการโทรทัศน์ ทั้งนี้มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าพลโทสรรเสริญถูกวางตัวเป็นประธานบอร์ดกสทชคนต่อไป  สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหากรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จะส่งรายชื่อผู้สมัครไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรา 7 ก. และมาตรา 14/2 และตรวจสอบลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 7 ข. และมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ. 2553 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 เมื่อได้รับผลการตรวจสอบดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และจะเชิญผู้สมัครมาแสดงวิสัยทัศน์ที่แสดงถึงการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของผู้สมัครเพื่อนำมากำหนดทิศทางหรือเป้าหมายในการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ต่อไป  -สำนักข่าวไทย.

คาดตลาดอีสปอร์ตยังโตต่อเนื่องเชื่อ5Gจะช่วยโมบายเกมได้รับความนิยมสูง

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. ชี้โควิด-19 ดันผุดจัดแข่งเกมออนไลน์เพิ่ม เชื่อเครือข่าย 5G จะทำให้ตลาดโมบายเกมโตต่อเนื่อง นางสาวอรนุช เลิศสุวรรณกิจ Co-Founder และ CEO ของ Techsauce Media  กล่าวว่า ตลาดเกมอีสปอร์ต เป็นตลาดที่กำลังเติบโตสูง ภาพรวมมูลค่าตลาดอีสปอร์ตในภูมิภาคอาเซียนมีรายได้ที่ 137,300 ล้านบาท ผู้เล่นส่วนใหญ่ เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ รายได้จึงอยู่ในกลุ่มนี้ร้อยละ 70  หรือ 96,720 ล้านบาท ตลาดอีสปอร์ต มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ10 ต่อปี แม้จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้รายได้ลดลง เดิมมีการคาดการรายได้ของตาดอีสอร์ตในปีนี้จะอยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเหลือ 0.95 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ตามปกติอย่างไรก็ดียังคงมีรายได้เข้ามาสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอีสอร์ตยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก  นอกจากนี้ยังพบว่าในอาเซียนมีผู้ชม 180 ล้านคนดูคอนเทนท์เกี่ยวกับเกมทั้งการดูสดและดูย้อนหลัง ดูการสตรีมเกมและคอนเทนขเกี่ยวกับเกม ในจำนวนนี้ดูการแข่งขันผ่านทางโทรศัพท์มือถือถึง 30 ล้านคน จุดนี้เองทำให้แบรนด์ต่างๆให้ความสนใจ ผู้เล่นร้อยละ 50 ในอาเซียน การใช้จ่ายเงินเพื่อการเล่นเกมร้อยละ 50 จากการทำวิจัยตลาดพบว่าแบรนด์ที่ใช้เม็ดเงินกับอีสปอร์ตถูกมองว่ามีภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีขึ้น  ทำให้โอกาสของการทำรายได้จากอีสปอร์ตเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจ โอกาสของประเทศไทย  นายศรุต วานิชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร sea Thailand  กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 อาจจะกระทบกับอีสปอร์ตแต่กลับทำให้การจัดการแข่งขันอีสปอร์ตออนไลน์เพิ่มมากขึ้น จากการถ่ายทอดการแข่งขันอีสปอร์ตมีผู้ชมการแข่งขันแต่ละเกมถึง 1 ล้านคน ตลาดในส่วนนี้มีทั้งแบรนด์ที่อยู่ในฝั่งไอทีและแบรนด์ในธุรกิจอื่นให้ความสนใจ  โดยอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีบทบาทที่สำคัญมากต่อการเล่นเกมเนื่องจากเกมในปัจจุบันมีความต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วมีความหน่วงต่ำ  นางรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ Head of Game Business Management Unit หัวหน้าแผนกธุรกิจเกม เอไอเอส กล่าวว่าตลาดเกมออนไลน์บนมือถือเติบโตร้อยละ 10 -20ต่อปี คาดว่าปีหน้าจะเดิบโตต่อเนื่องในอัตราเดียวกัน การเปิดบริการคลาวด์เกม ปี 2021 เน็ตเวิร์ค 5G จะพร้อม ในการเพิ่มคอนเทนท์เข้ามาสนับสนุนให้การเล่นเกมมีอรรถรสมากขึ้น การมีเน็ตเวิร์ค 5G ที่ครอบคลุม เอไอเอสสนับสนุนนักกีฬาอีสปอร์ตของไทยให้ไปไกลในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการสนับสนุนให้ตลาดเกมอีสปอร์ตของไทยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค ปัจจุบันประเทศไทยมีความพร้อม  โดยจะทำผ่านการส่งเสริมเยาวชน การร่วมมือกับนักพัฒนา การสร้างคอมมูนิตี้ การสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศน์ของอีสปอร์ต-สำนักข่าวไทย.

กสทช.กำชับโอเปอเรเตอร์ดูแลสัญญาณสื่อสารพื้นที่รับผลกระทบใต้ฝุ่นโมลาเบ

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. กสทช. กำชับโอเปอเรเตอร์ดูแลคุณภาพสัญญาณและโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่รับผลกระทบจากพายุใต้ฝุ่นโมลาเบ  นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้กำชับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 5 ราย ได้แก่เอไอเอส ทรู ดีแทค แคท และทีโอที ให้ดูแลคุณภาพสัญญาณและโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนในพื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะได้รับผลกระทบจากพายุใต้ฝุ่น โมลาเบ ที่จะเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 28 – 30 ต.ค. 2563 ให้พร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเตรียมทีมซ่อมบำรุงเพื่อเข้าแก้ไขกรณีเกิดเหตุขัดข้อง และเตรียมความพร้อมเครื่องสำรองไฟกรณีไฟฟ้าขัดข้องเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมสั่งการให้สำนักงาน กสทช. ภาค เขต ทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมือช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับมือกับพายุโมลาเบ และให้ศูนย์สายลม สำนักงาน กสทช. เตรียมพร้อม 24 ชั่วโมงในการสนับสนุนการทำงานของทุกหน่วยงาน รวมถึงอาสาสมัคร ในการประสานงานข้อมูลข่าวสารกับนักวิทยุสมัครเล่นในการให้ความร่วมมือช่วยเหลือต่าง นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. เข้าใจถึงความจำเป็นในการสื่อสาร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีประชาชนมีความต้องการใช้งานเป็นจำนวนมากอย่างกรณีเกิดภัยพิบัติ ดังนั้น หากเกิดปัญหาโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ได้สามารถใช้งานได้ประชาชนสามารถโทรแจ้งเข้ามาได้ที่ กสทช. คอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1200 (ไม่มีค่าใช้จ่าย)-สำนักข่าวไทย

แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อเกษตรกร

กทม. 27 ต.ค. 63 – สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เปิดโครงการ AgTeach4OTOP เชื่อมสตาร์ทอัพและเกษตรกร พัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์ตรงตามความต้องการ เป็นแพลตฟอร์มตลาดรูปแบบใหม่เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดตัวโครงการ AgTeach4OTOP หรือ การบ่มเพาะโครงการสร้างตลาดรูปแบบใหม่จากสตาร์ทอัพด้านการเกษตรสำหรับกลุ่มโอทอปเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มกลาง เชื่อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ 10 สตาร์ทอัพด้านการเกษตร และ 50 กลุ่มเกษตรกร พัฒนานวัตกรรมสู่เกษตร 4.0 ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า สตาร์ทอัพไทยมีศักยภาพความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับสูง เช่น ด้านการขนส่ง ออกแบบบรรจุภัณฑ์และตราสินค้า ระบบชำระสินค้า และการรักษาคุณภาพของอาหาร ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าเกษตร และสินค้าโอทอปได้ โดย NIA นำร่อง 10 สตาร์ทอัพด้านการเกษตร และ 50 กลุ่มเกษตรกร แบ่งกลุ่ม 1 ต่อ 5 เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานให้มากที่สุด ให้นวัตกรรมเหล่านี้ได้ใช้ประโยชน์เป็นวงกว้าง […]

นักวิชาการชี้การขยายเครือข่าย5Gยังเดินหน้าแม้มีสถานการณ์รุมเร้า

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. นักวิชาการชี้การขยายเครือข่าย 5G ยังเดินหน้า 2 โอเปอเรเตอร์ขยายเกือบครอบคลุมทั่วประเทศรับสถานการณ์การเมืองอาจกระทบความเชื่อมั่นบ้าง นายสืบศักดิ์ สืบภักดี นักวิชาการ และเลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการขยายเครือข่าย 5G ในปัจจุบันว่า แม้หลังจากจบการประมูลคลื่น 5G ในช่วงต้นปี สถานการณ์ในประเทศได้พลิกผันจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางการตลาด หรือกำลังซื้อของประชาชนหดหายเอกชนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าประมูลคลื่นโดยเฉพาะคลื่นย่าน 2600 เมกกะเฮิรตซ์ ที่หวังจะเปิดตัว 5G เครือข่ายของตนในช่วงกลางปีพร้อมกิจกรรมแนะนำและการตลาดเครืองลูกข่ายใหม่ที่รองรับ ต้องทบทวนและปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจตามสถานการณ์แต่ในส่วนของการขยายเครือข่ายและติดตั้งสถานีฐาน มีผู้ให้บริการอย่างน้อย2 รายคือ ทั้ง เอไอเอส และทรูมูฟเอช ยังคงดำเนินการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง นายสืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งสองรายสามารถประกาศพื้นที่ครอบคลุมและพร้อมให้บริการ 5G แล้วครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยที่ในช่วงแรก ราวเดือนพฤษภาคมอาจเป็นไปในลักษณะเป็นจุดๆ ในตัวเมือง แต่ ณ ขณะนี้จากข้อมูลของผู้ประกอบการเองและข้อมูลจากผู้ใช้ที่มีการใช้งานและรายงานการทดสอบขึ้นไปยัง แอปพลิเคชั่น NPerf  ที่มีการเก็บข้อมูลพื้นที่ครอบคลุมเครือข่ายมือถือระบุว่า 5G ในประเทศไทยขยายครอบคลุมทั้งในตัวเมืองของจังหวัดต่าง ๆ ต่อเนื่องกับทางหลวงสายสำคัญ และพื้นที่เศรษฐกิจไปมากแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ผู้ให้บริการและ กสทช. กำหนดไว้ “เราอาจจะไม่ค่อยได้ทราบข่าวสารด้านการตลาดหรือโหมประชาสัมพันธ์ถึงการขยายพื้นที่ให้บริการ 5G ที่รุดหน้าไปมากจากเอกชนในตลาด เหมือนตอน 4G หรือช่วงที่สถานการณ์ปรกติ แต่ ณ ขณะนี้เอกชนทั้งสองรายเดินหน้าขยายพื้นที่ครอบคลุม 5G แล้วอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนตัวยังคิดว่าขยายพื้นที่ได้เร็วกว่าที่คาดหวังไว้ด้วยซ้ำแม้มีปัญหาอุปสรรคทั้งด้านการลงทุน และกำลังซื้อหรือการตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องใหม่มารองรับ 5G ของลูกค้าอาจจะชลอตัว ซึ่งอาจมองได้ว่าผู้ให้บริการยังมองตลาดและการขยายตัวของการใช้ 5G ในอนาคตจะกลับมาและเป็นที่ต้องการเมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย ซึ่งเมื่อนั้นเชื่อว่า 5G จะครอบคลุมเกือบๆ 4G ในปัจจุบันพอดี อีกทั้งนับแต่ปลายไตรมาสสามต่อเนื่องไตรมาส 4 เริ่มเห็นสัญญาณของการเปิดตัวมือถือ 5G รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นหลายแบรนด์ที่มีราคาถูกลง จับต้องได้ รวมถึงแบรนด์หลักๆ อย่างไอโฟน ที่รองรับ 5G ต้นปีหน้าเราคงจะเห็นทั้งความพร้อมด้านเน็ตเวริ์ค 5G และเครื่องลูกข่าย 5G และผู้ใช้บริการจะให้ความสนใจอยากสัมผัสเทคโนโลยี 5G กันเพิ่มมากขึ้น” สืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า การใช้ประโยชน์จากโครงข่าย 5G จะไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจมือถือหรือการขายเครืองมือถือรุ่นใหม่ๆ เท่านั้น 5G คือโครงสร้างพื้นฐานที่จะสร้างการพัฒนาใหม่ๆ ทั้งการพัฒนาเมือง เศรษฐกิจ การเกษตร สังคมการศึกษา ความมั่นคงปลอดภัย สิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีและเทคโนโลยีรวมถึงสร้างบริการที่จะใช้ประโยชน์จาก 5G ที่เกิดขึ้นแล้วให้ได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อว่าในปีหน้า 2564 หลังเครือข่าย 5G ครอบคลุมและมีความพร้อมเกือบเต็มที่ จะเห็นภาพผนวกรวมและการใช้งาน 5G ในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างชัดเจน สำหรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม เลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมฯ กล่าวว่า เรื่องผลกระทบกับผู้ประกอบการมีผลกระทบบ้าง แต่ผู้ให้บริการยังคงลงทุนโครงข่ายใหม่ 5G ในอีกมุมผลกระทบทางเศรษฐกิจกระทบกับฝั่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่คาดหวังให้ลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ บน 5G เพื่อใช้งานชัดเจน อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต อย่างโรงงานต่างๆ ที่เดิมสนใจปรับสายการผลิตใหม่ ลงเทคโนโลยีใหม่ ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตต่างชลอการปรับสายการผลิตแทบทั้งหมด หรือภาคขนส่ง ภาคท่องเที่ยว ที่เดิมถูกกำหนดเป็นเป้าหมายของลูกค้า 5G เช่นกัน อาทิ จากนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาใช้หรือบริการออนไลน์ที่เกี่ยวเนื่องก็ชลอตัวไป ส่วนเรื่องการเมือง แม้ปัจจุบันอาจจะกล่าวได้ว่ายังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขยาย 5G หรือแต่กระแสของผู้ใช้ในตลาดแต่หากสถานการณ์การเมืองไม่สู้ดีหรือขยายไปสู่ความรุนแรง กระทบธุรกิจ หรือต้องมีการปิดบริการหรือกิจการแบบระยะยาวก็อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อแผนการตลาดหรือกิจกรรมโปรโมท หรือสร้างการรับรู้ 5G ที่ก็อาจขยับเพื่อรอสถานการณ์พร้อมเช่นกัน-สำนักข่าวไทย.

TikTokขยายธุรกิจเจาะเอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. Tik Tok ชี้ปัจจัยการเมือง-โรคโควิด-19 กระทบสื่อออนไลน์ระยะสั้น พร้อมเดินหน้าส่ง“ TikTok For Business” ชูจุดเด่นเข้ากลุ่มเป้าหมายการตลาดครบ นางสาวสิรินธิ์ วิรยศิริ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจการตลาด TikTok กล่าวว่า จากการเติบโตของมูลค่าการโฆษณาในสื่อออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2563 นี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาในสื่อออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นถึง 2.03 หมื่นล้านหรือเติบโตร้อยละ 12 จากปีก่อนหน้า ข้อมูลจากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทยคาดว่ามูลค่าการโฆษณาในสื่อออนไลน์จะเป็นกลุ่มธุรกิจเดียวที่มีการเติบโตท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ทุกธุรกิจต้องรัดเข็มขัดและรัดกุมกับการใช้งบประมาณการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจึงทำให้ความคาดหวังของทุกธุรกิจในการทำตลาดดิจิทัลทุกวันนี้จึงไม่เป็นเพียงแค่การสร้างการรับรู้ แต่มองไปถึงการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจด้วยความคาดหวังจากแบรนด์และผู้ประกอบการธุรกิจ TikTok For Business เป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการตลาดแบบครบวงจรสำหรับแบรนด์และธุรกิจในทุกขนาด นางสาวสิรินธิ์ กล่าวอีกว่า TikTok For Business ต้องการสร้างวิธีเล่าเรื่องของแบรนด์ภายใต้แนวคิด Don’t Make Ads. Make TikToks ในการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ ทำให้ผู้ชมหรือผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจสนุกและอยากเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกิจกรรมของแบรนด์ควบคู่ไปกับการนำเสนอรูปแบบการโฆษณาที่ถูกจัดไว้ตามวัตถุประสงค์ คือ Brand Takeover รูปแบบโฆษณาในตำแหน่งแรกก่อนเข้าหน้าFeed ที่สามารถสร้างการเข้าถึงได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์ Top View โฆษณาในตำแหน่งแรกในหน้า Feed ที่สามารถสร้างได้ตั้งแต่การเข้าถึงจำนวนคนที่เข้ามาบนแพลตฟอร์ม การพิจารณาเลือกซื้อไปสู่การตัดสินใจซื้อที่จะสามารถสร้างการแสดงผลทั้งการมองเห็น และจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาเป็นจำนวนมากหลายล้านครั้งต่อวัน  In-Feed Adsโฆษณาที่จะปรากฏขึ้นระหว่างการแสดงคอนเทนต์ในหน้า Feed ซึ่งโฆษณารูปแบบนี้ยังสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มTikTok Hashtag Challenge รูปแบบโฆษณาในลักษณะของการจัดแคมเปญเพื่อชักชวนให้คนเข้ามาร่วมกิจกรรมสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ในรูปแบบ User Generated Content หรือคอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้ใช้ รูปแบบโฆษณาที่แบรนด์สามารถเข้ามาสร้างสรรค์ทั้งภาพและเสียงเพื่อให้คนสามารถเลือกใช้ประกอบวิดีโอซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจดจำและปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ได้อย่างลึกซึ่งมีประสิทธิภาพ  “ ด้วยความหลากหลายของรูปแบบโฆษณาบน TikTok และความพร้อมของแพลตฟอร์มที่มีการขยายฐานไปสู่กลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น เราพบว่ากลุ่มผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทยเป็นกลุ่มอายุ 16-34 ปีคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 และมากกว่าร้อยละ  80 เป็นกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและกำลังเป็นที่จับตาของแบรนด์และนักการตลาดในปัจจุบันจึงส่งผลให้ TIkTok กลายเป็นแพลตฟอร์มการตลาดแห่งยุคที่ตอบโจทย์ เทรนด์การตลาดรูปแบบใหม่ Video Marketing, Challenge Marketing, Hashtag Marketing und Influencer Marketing “ สำหรับสถานการณ์การเมืองและโรคโควิด-19 นางสาวสิรินธิ์ วิริยศิริ กล่าวว่า เป็นปกติสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการเมือง และการแพร่ระบาดของโรคภัยจะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจในการใช้งบประมาณเพื่อการทำการตลาดอย่างไรก็ดี TikTok ได้มุ่งเน้นไปที่ปัญหาลูกค้าว่าขณะนี้ปัญหาของลูกค้าคืออะไร และTikTok ควรทำอย่างไรให้ลูกค้าผ่านช่วงวิกฤตไปให้ได้  ด้านนายจตุธน พิทักษ์พงศ์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจการตลาดเอสเอ็มอี  กล่าวว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีผลกระทบบ้าง แต่เป็นระยะสั้นอาจจะเป็นการกังวลไปเอง 3-4 วันผ่านไปการใช้เม็ดเงินกลับมาเป็นปกติเพราะการการจับจ่ายซื้อของยังคงเกิดขึ้น และอาจจะมากขึ้นด้วย-สำนักข่าวไทย.

1 17 18 19 20 21 51
...