“พล.อ.ประวิตร” เปิดงาน Powering Digital Thailand

สำนักข่าวไทย 11 พ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” เปิดงาน Powering Digital Thailand 2021 ชูเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมมือรัฐและเอกชน พัฒนาประเทศก้าวไกลในทุกมิติ สร้าง Hub Digital อาเซียน วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 09.30 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน Powering Digital Thailand 2021 ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ A2 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยมี นาย พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์. รมต กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นาย สุชาติ ชมกลิ่น รมต แรงงาน และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมต […]

หัวเว่ยทุ่ม700ล้านบาทผุดดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สามในไทยปี64

กรุงเทพ 11 พ.ย. หัวเว่ยทุ่มงบ 700 ล้านบาท พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สาม หนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค นาย อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) งานสัมมนา Powering Digital Thailand 2021 ว่า เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นกลไกการเติบโตใหม่สำหรับตลาดทั่วโลก  การศึกษาทั่วโลกพบว่าผู้ที่ลงทุนในไอซีทีมีส่วนช่วยอย่างมากต่อ ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP)ของประเทศ การเติบโตร้อยละ 20 ของบริการด้านไอซีทีนำไปสู่การเพิ่มจีดีพีร้อยละ 1 ดังนั้นการลงทุนในไอซีทีสามารถนำไปสู่ ​​6.7 เวลาในภาคส่วนที่ไม่ใช่ไอซีที สิ่งนี้สามารถสังเกตได้ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะเป็นเทรนด์ที่กำลังมาถึงสำหรับกลไกการเติบโตใหม่ กว่า 164 ประเทศทั่วโลกได้เผยแพร่ยุทธศาสตร์ดิจิทัลระดับชาติสำหรับแผนงานระยะยาวของประเทศส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อเป็นรากฐานสำคัญและเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล การเชื่อมต่อและการประมวลผลเป็นรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล  5G, F5G และ Internet of Things (IoT) เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในขณะที่คลาวด์และปัญญาประดิษฐ์( AI )เป็นอนาคตของคอมพิวเตอร์ การบรรจบกันของการเชื่อมต่อและการประมวลผลจะเปลี่ยนอุตสาหกรรมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการขนส่งการเงินหรือพลังงานและสร้างมูลค่าใหม่ให้กับสังคม ระบบนิเวศของประเทศไทยถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลกต้องให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อและพลังในการขับเคลื่อนการเติบโตทางดิจิทัลในทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นการขนส่งการเงินหรือพลังงานและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งให้กับประเทศไทยด้วยความพยายามของรัฐบาลในการเร่งการนำ 5G มาใช้ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่เปิดใช้เครือข่าย 5G สำหรับผู้บริโภค  ส่งผลให้ประเทศไทยมีจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งสำหรับวิวัฒนาการด้านไอซีทีที่กำลังจะมาถึง ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เรามั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลได้มากกว่าร้อยละ 30 ของจีดีพีโดยรวมและกลายเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค เป้าหมายของเราคือการพยายามเพิ่มระดับของดิจิทัลและนำประเทศไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  เราเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่ดีในการก้าวไปข้างหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล นายเติ้ง กล่าวอีกว่า เพื่อให้บรรลุยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 เทคโนโลยีคลาวด์และ AI จะต้องเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญและนำไปใช้ในอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนนี้หัวเว่ยได้ขับเคลื่อนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวในระบบคลาวด์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 ในช่วงสองปีที่ผ่านมาหัวเว่ยเป็นผู้ให้บริการ Data Center Hub ที่มีลักษณะเฉพาะในประเทศไทยโดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อใช้ศูนย์ข้อมูลที่มีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางสองแห่งใน ประเทศไทยและจะเปิดตัวศูนย์ข้อมูลแห่งที่สามในประเทศไทยในปี 2564 ด้วยมูลค่าการลงทุน 700 ล้านบาท เพื่อรองรับการเร่งพัฒนานวัตกรรม 5G ผ่านความร่วมมือด้านระบบนิเวศที่หัวเว่ยและหน่วยงานภาครัฐของไทยร่วมมือกัน หัวเว่ยสนับสนุนคนไทยให้บรรลุศักยภาพสูงสุดและส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศด้วยการเป็นผู้ขับเคลื่อน Thailand 4.0 และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เป็นกลไกการเติบโตของประเทศไทย-สำนักข่าวไทย.

ดีป้าติดตามโครงการใช้ไฮเทคพัฒนาชุมชน

กรุงเทพฯ 10 พ.ย.ดีป้าติดความความก้าวหน้าโครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในชนบท นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของสำนักงานฯ คือการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชน รวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในทุกภูมิภาคทั่วประเทศสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการดิจิทัล (Digital Provider) ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานฯ เพื่อประยุกต์ใช้ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อชุมชนในชนบท(depa Digital Transformation Fund for Community) โครงการระบบบริหารจัดการไข่ไก่เพื่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชน (ไข่ไก่อารมณ์ดี) โดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลผลิตเกษตรกรบ้านนาหึก ในอำเภอแม่ริม ที่ประยุกต์ใช้ระบบ ERP ใช้ในการบริหารจัดการและตรวจสอบสถานะไข่ไก่แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนไข่ไก่ที่ลูกค้าต้องการ จำนวนไข่ไก่คงเหลือ ยอดสะสมไข่ไก่ที่ส่งให้กับชุมชน รวมถึงระบบการจัดการรับซื้อและจำหน่ายไข่ไก่ในวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลผลิตเกษตรแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาหึก นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามและเก็บข้อมูลปริมาณการรับซื้อและกระจายไข่ไก่ขนาดต่าง ๆ ในเชิงสถิติ เพื่อทำการประเมินผลและคาดการณ์ปริมาณและขนาดของไข่ให้สอดคล้องกับการรับซื้อ การเก็บรักษา และการกระจายให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด มาตรการดังกล่าวช่วยให้เกษตรกรในชุมชนสามารถเรียนรู้ เกิดความเข้าใจ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้วิสาหกิจชุมชนฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 180,000 บาทต่อปี ขณะเดียวกันยังสามารถลดต้นทุนด้านแรงงานได้มากกว่า 120,000 บาทต่อปี คณะทำงานได้ติดตามความก้าวหน้า โครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Predictive Machine Vision ในขั้นตอนการคัดคุณภาพลำไยอบแห้ง และประมวลผลด้วยวิธีการของ Machine Learning โดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลำพูนดีเอสฟู๊ด ในอำเภอเมืองลำพูน ที่นำเทคโนโลยี Predictive Machine Vision มาประยุกต์ใช้ในขั้นตอนการคัดคุณภาพลำไยอบแห้ง และประมวลผลด้วยวิธีการ Machine Learning ร่วมกับงานออกแบบเครื่องจักรในอุตสาหกรรมลำไยอบแห้ง เพื่อสร้างเครื่องคัดคุณภาพลำไยอบแห้งแบบอัตโนมัติที่สามารถจำแนกคุณภาพและความเสียหายของลำไยอบแห้ง รายงานและวิเคราะห์การคัดคุณภาพจากเครื่องคัดลำไยอบแห้ง รวมถึงติดตาม ตรวจสอบการผลิตของเครื่องคัดลำไยแบบออนไลน์ “ปี 2563 ดีป้า จะยังคงสานต่อแนวคิด ‘ชุมชนคิด ชุมชนเลือก ชุมชนทำ เพื่อชุมชนยั่งยืน’ ผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนชุมชนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจากเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ และผู้ให้บริการดิจิทัล มากกว่า 200 ชุมชนทั่วประเทศพร้อมยกระดับชุมชนท้องถิ่นสู่ชุมชนดิจิทัล พัฒนาคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้ และสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับคนในชุมชนอย่างยั่งยืน” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว-สำนักข่าวไทย.

ดีป้าเผยมูลค่าอุตฯดิจิทัลคอนเทนท์ไทยปี62แตะ3.1หมื่นล้านบาท

กรุงเทพฯ 10 พ.ย. ดีป้าเผยมูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ปี 2562 พุ่งแตะ 31,000 ล้านบาท ตลาดเกมกินส่วนแบ่งกว่า25,000 ล้านบาท ด้านอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าโตด้วย นางสาวกษิติธร ภูภราดัย รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มยุทธศาสตร์และบริหาร สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และสถาบันไอเอ็มซี กล่าวถึงผลสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ และบิ๊กดาต้าปี 2561-2562 ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยปี 2562 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 11.51 คิดเป็นมูลค่าอุตสาหกรรม 31,080 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปี 2561 ที่ 27,873 ล้านบาท และ 25,040 ล้านบาทในปี 2560  ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยปีก่อนเติบโตมาจากตลาดเกมที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดที่ร้อยละ 15.96 คิดเป็นมูลค่า 25,440 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยหนุนมาจากการเปิดตัวเกมใหม่ของผู้ประกอบการไทย และคนไทยนิยมเล่นเกมไทยมากขึ้น ประกอบกับสมาร์ทโฟนรุ่นพื้นฐานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและจูงใจต่อการเล่นเกม  ขณะที่ตลาดแอนิเมชันหดตัวเฉลี่ยร้อยละ 6.53 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3,494 ล้านบาท เนื่องจากความนิยมของประชาชนที่เปลี่ยนจากการชมเพย์ทีวีและฟรีทีวีในประเทศไปเป็นสตรีมมิงต่างประเทศ ซึ่งสถิติรายได้จากบริการสตรีมมิงบางส่วนไม่ถูกรวมในการสำรวจ เช่นเดียวกับตลาดคาแรคเตอร์ที่หดตัวร้อยละ 2.32 มีมูลค่ารวม 2,146 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดคาแรคเตอร์มาจากความนิยมสติ๊กเกอร์ LINE ลดลง ขณะที่อัตราการจ้างงานจากต่างประเทศหดตัวลงเล็กน้อยต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ส่วนรายได้จากผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า และผู้ดูแลลิขสิทธิ์หดตัว เพราะผลพวงทางเศรษฐกิจและการบริโภคสินค้าที่มีแบรนด์คาแรคเตอร์ลดลง  ส่วนอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าไทยปี 2562 พบว่ามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 8.64 คิดเป็นมูลค่า 13,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก12,129 ล้านบาทในปี 2561 โดยตลาดที่มีเม็ดเงินสะพัดมากที่สุดคือ ส่วนบริการ และส่วนซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ บุคลากรในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ลดลง บุคลากรในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ลดลงร้อยละ 12.04 เหลือ 5,021 คน จาก 5,708 คนในปี 2561 บุคลากรในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ปี 2562 ลดลงร้อยละ 12.04 เหลือ 5,021 คน จาก 5,708 คน ในปี2561 เพราะรูปแบบการจ้างงานในปัจจุบันผู้ประกอบการนิยมเอาส์ซอร์สงานทดแทนการจ้างพนักงานประจำ เพื่อลดภาระต้นทุนคงที่  ด้านนายธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี คาดการณ์ว่า ปี 2563 การให้บริการบนคลื่นความถี่ 5G และการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยและบิ๊กดาต้าเติบโตต่อเนื่อง โดยประเมินว่า ปี 2563 อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์จะขยายตัวขึ้นอีกร้อยละ 10.1 คิดเป็นมูลค่าอุตสาหกรรมรวม 34,229 ล้านบาท เป็นผลมาจากตลาดเกมที่มีอัตราการเติบโตสอดคล้องกับตลาดโลกที่มีผู้คนเล่นเกมมากขึ้นช่วงกักตัว ในทางกลับกัน วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะส่งผลให้เกิดการชะลอการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชัน ทำให้ตลาดแอนิเมชันมีแนวโน้มจะหดตัวมาก เช่นเดียวกับความนิยมการบริโภคสติ๊กเกอร์ LINE ในตลาดคาแรคเตอร์เริ่มลดลง แต่ยังคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอีก 2 ปี โดยมูลค่าอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 45,094 ล้านบาทในปี 2565 ส่วนอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าปี 2563 จะขยายตัวจากการเข้าสู่ยุคแห่งการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งทุกภาคส่วนเล็งเห็นประโยชน์ในการใช้บิ๊กดาต้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกให้ใช้บริการแบบเช่าใช้ ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจลงทุน การสำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ และบิ๊กดาต้า เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็นผลงานที่ ดีป้า จัดทำต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 3 เพื่อเป็นข้อมูลบ่งชี้สถานภาพปัจจุบันของอุตสาหกรรม และข้อมูลคาดการณ์ที่บ่งชี้แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทยในแต่ละปีโดย ดีป้า จะขยายขอบเขตการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัลให้ครอบคลุมมิติอื่นเพื่อให้ผู้สนใจได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่ง ดีป้า กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา Digital Pulse ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทั้งดัชนีชี้วัดระดับสากล และฐานข้อมูลที่ ดีป้า สำรวจเองทั้งในฝั่งของผู้ประกอบการที่จะเป็นฐานข้อมูลและแนวโน้มอุตสาหกรรมดิจิทัลรวมถึงความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลที่สำรวจและนำเสนอผลรายไตรมาส ตลอดจนการสำรวจฝั่งผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมโดยในระยะแรกโฟกัสที่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการผลิตเป็นอันดับแรก และจะขยายผลไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นและบริการต่อไปในอนาคตอันใกล้-สำนักข่าวไทย.

กูเกิลเผยผลวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลไทยมูลค่า1.8หมื่นล้านเหรียญ

กรุงเทพฯ 10 พ.ย. กูเกิล รายงานผลการวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน เชื่อปี 2563 มูลค่าตลาดยังโตแตะ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แม้เจอโควิด-19 แต่อีคอมเมิร์ซ สื่อออนไลน์ยังโตต่อ นางแจ๊คกี้ หวาง ผู้อำนวยการ กูเกิล ประเทศไทย แถลงผลการวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 โดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายใหม่เพิ่มขึ้น 40 ล้านคนจากปี 2562 ทำให้ปัจจุบันทั่วทั้งภูมิภาคนี้มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งสิ้น 400 ล้านคน และจากรายงานฯ ได้สนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 สำหรับประเทศไทยยังคงเกาะกระแสการเติบโตที่คาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะแตะที่ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 25 ในปี 2568 แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปีนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย ผลการวิจัยระบุว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเติบโตขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยจะมีมูลค่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 นับเป็นตลาดที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ได้มีการวิจัยติดตามการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน  7 ภาคส่วน […]

ดันงานวิจัยดาราศาสตร์สู่นวัตกรรมชั้นนำของประเทศ

เชียงใหม่ 9 พ.ย.63 – สกสว. จับมือ สดร. หารือการยกระดับงานวิจัยดาราศาสตร์ ใช้พัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยี ระดับสูง ลดการนำเข้าทางเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้จำนวนมาก รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกสว. ร่วมกับ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. หารือยุทธศาสตร์การใช้งานวิจัยดาราศาสตร์ของประเทศไทย ณ หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ และอุทยานดาราศาสตร์สิรินธร จ.เชียงใหม่ พร้อมเยี่ยมชมหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ และการดำเนินกิจกรรมงานวิจัยดาราศาสตร์ ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เช่น โครงการวิจัยการพัฒนาด้านยีออเดซี่ ซึ่งเป็นโครงการวิจัยสำคัญ ที่มุ่งเน้นการศึกษารูปร่าง และลักษณะเฉพาะต่างๆ ของโลกด้วยศาสตร์การรังวัด ให้ข้อมูลตำแหน่ง หรือค่าพิกัด ที่ถูกนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หรือแอปพลิเคชัน จนปัจจุบันพัฒนาต่อเป็นแผนที่ดิจิทัลบนอุปกรณ์สื่อสาร ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผอ.สดร. กล่าวว่า สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ใช้โจทย์ท้าทายทางดาราศาสตร์เป็นเครื่องมือผลักดันให้เกิดนวัตกรรม และเทคโนโลยี เช่น การใช้สัญญาณ WiFi เครื่องมือทางการแพทย์ ฯลฯ […]

ไลน์แจงเซิร์ฟเวอร์ขัดข้องที่ญี่ปุ่นทำระบบล่ม

กรุงเทพฯ 9 พ.ย. ไลน์ ประเทศไทยแจงเหตุเซิร์ฟเวอร์ญี่ปุ่นขัดข้องทำให้ระบบล่มชั่วคราว บริษัทไลน์ ส่งคําชี้แจงกรณี ระบบ LINE หยุดชะงักชั่วคราว เมื่อประมาณเวลา 12.45 น. ที่ผ่านมา มีเหตุขัดข้องจากเซิร์ฟเวอร์ LINE ในประเทศญี่ปุ่นจึงทาให้เกิดการชะงกั ของระบบสื่อสารภายใต้แพลตฟอร์ม LINE เป็นเวลาประมาณ 15 นาที อย่างไรก็ตาม ขณะนีร้ ะบบได้รับการ แก้ไขเรียบร้อยแล้วผู้ใช้งานสามารถกลบั มาใช้งานLINEได้เป็นปกติเช่นเดิม LINE ประเทศไทย กราบขออภยั เป็นอย่างสงูในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้-สำนักข่าวไทย.

เปิดอินสตาแกรมชอปปิ้งในประเทศไทย

กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – อินสตาแกรมเปิด Instagram Shopping ให้ใช้งานสำหรับธุรกิจและครีเอเตอร์ในไทย รับเทศกาลช้อปส่งท้ายปี นางชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Facebook ประเทศไทย กว่าวว่า  ปัจจุบันอินสตาแกรมมีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคนต่อเดือน หรือร้อยละ 90 ของผู้ใช้งานเหล่านี้กดติดตามบัญชีธุรกิจบน Instagram อย่างน้อย 1 บัญชี และมีผู้ใช้งานราว 130 ล้านคน ที่กดดูแท็กรายละเอียดสินค้าในทุกๆ เดือน Instagram จึงเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจและช่วยให้ผู้คนสนุกกับประสบการณ์การชอปปิ้ง ข้อมูลจากการศึกษาหัวข้อ Mega Sales & Holiday 2020 ซึ่งจัดทำโดย Facebook IQ ระบุว่า นักช้อปช่วงเทศกาลสิ้นปีในประเทศไทยเลือกใช้แอปพลิเคชันในเครือ Facebook เป็นอันดับแรก เพื่อค้นหาไอเดียและแรงบันดาลใจสำหรับสินค้าแทบทุกประเภท อิทธิพลของอินสตาแกรมที่มีต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าช่วงสิ้นปียังเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 70 ในปี พ.ศ. 2560 เป็นร้อยละ 76    ในปี พ.ศ. 2562 โดยร้อยละ 51 ของนักช้อปค้นหาไอเดียเพื่อช่วยในการตัดสินใจผ่าน Instagram Stories ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 เทียบกับปี พ.ศ. 2561 ข้อมูลบนแพลตฟอร์มยังกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจกว่า 200 ล้านรายที่ดำเนินการบนแอปพลิเคชันต่างๆ ในเครือ Facebook ในแต่ละเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งกระตุ้นให้การซื้อขายบนช่องทางดิจิทัลเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลการสำรวจพบว่าผู้คนร้อยละ 85 จากทั่วโลกต่างหันมาเลือกซื้อของออนไลน์ในทุกวันนี้  การเปิดตัว Instagram Shopping ในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์ชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อบนแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้า ผู้บริโภคและครีเอเตอร์ โดยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี้รวมถึงการติดแท็กสินค้าโฆษณาที่มีแท็กสินค้า และแท็บ Instagram Shop ที่เป็นเสมือนแหล่งรวมการค้นหาและซื้อขายสินค้าไว้ในที่เดียว อินสตาแกรมได้แจ้งอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ในงานแถลงข่าวออนไลน์ผ่านทาง Facebook Live  “การซื้อขายถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญในด้านประสบการณ์ผู้ใช้งานบนแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Facebook มาโดยตลอด ซึ่งรวมถึงอินสตาแกรมด้วย เราได้เห็นว่าธุรกิจต่างๆ ในไทยมีการใช้งานแพลตฟอร์ม เช่น  อินสตาแกรมเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันยังสามารถค้นหาและเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศไทย เราเปิดตัว Instagram Shopping ในประเทศไทย เพื่อส่งมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ไร้รอยต่อให้กับธุรกิจร้านค้า ผู้บริโภค และเหล่าครีเอเตอร์ คุณสมบัติใหม่จะเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ในไทย ซึ่งเป็นกลุ่มคนสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้าของเหล่านักช้อป ข้อมูลจากรายงาน Mega Sales & Holiday 2020 Insight ระบุว่า ร้อยละ 47 ของผู้ที่ร่วมตอบแบบสอบถามในไทยได้รับไอเดียการซื้อของช่วงสิ้นปีมาจากกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ ดังนั้น เพื่อสร้างประสบการณ์ความร่วมมือระหว่างแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์อย่างสร้างสรรค์บน Instagram ครีเอเตอร์สามารถเลือกตั้งค่า การติดแท็กสินค้า (Shopping Tags) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานรับทราบถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น ”หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เฟซบุ๊ก กล่าว.-สำนักข่าวไทย.

พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน5Gรับการลงทุน

กรุงเทพฯ 9 พ.ย. ทีโอที ผนึก สกพอ.เดินหน้าให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมรองรับระบบ 5G เสริมความเข้มแข็งการลงทุนใน EEC  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม เพื่อรองรับ ระบบสื่อสารต่างๆ และเทคโนโลยี 5G ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)โดย นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดย นายมรกต เธียรมนตรี รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบโทรคมนาคมและดิจิทัล เพื่อรองรับการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี 5G ที่จะช่วยกลุ่มอุตสาหกรรมลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศเพื่อดึงดูดนักลงทุนผู้ประกอบการทั่วโลกให้สนใจเข้าร่วมลงทุนใน EEC โดย สกพอ. ร่วมกับ ทีโอที เตรียมความพร้อมให้บริการระบบ 5G เต็มรูปแบบแก่ภาคอุตสาหกรรมและร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนรายอื่นๆ ในลักษณะการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน (Infrastructure Sharing)เพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนระหว่างภาครัฐกับเอกชนใช้ทรัพย์สินของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่เป็นการผูกขาดทางธุรกิจ ภายใต้ความร่วมมือ สกพอ. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกการดำเนินงาน พร้อมจัดหาโครงการลงทุนที่เกี่ยวข้อง กับ ทีโอที รวมทั้งส่งเสริมด้านสิทธิประโยชน์หน่วยงานรัฐและเอกชนที่ร่วมโครงการดังกล่าว โดยการดำเนินงานในระยะแรก ด้านพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมบริเวณเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ด้านพัฒนาชุมชนโครงการ เมืองอัจฉริยะบ้านฉาง ในพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยทีโอที มีเป้าหมายดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และในระยะต่อไปการทำโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อรองรับระบบสื่อสารรวมถึงเทคโนโลยี 5G จะดำเนินการคู่ขนานไปกับโครงสร้างพื้นฐานอื่นในพื้นที่ EEC-สำนักข่าวไทย.

นวัตกรรมใหม่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อผู้ป่วย

ตรัง 7 พ.ย.63 – กทปส. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โชว์การทดสอบประสิทธิภาพ นวัตกรรมฟื้นฟูกล้ามเนื้อช่วยผู้ป่วยสูงอายุกายภาพได้ด้วยตัวเอง ปัจจุบันไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะโรคกลุ่มกระดูกและข้อ และโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง ซึ่งลักษณะของอาการดังกล่าว จำเป็นต้องพึ่งพาการรักษาแบบเฉพาะทาง จากข้อมูลพบว่า นักกายภาพบำบัด 1 คน ต้องรักษาผู้ป่วย 23,614 คน ซึ่งประชากรไทยทั้งหมด 72 ล้านคน จะต้องมีนักกายภาพบำบัดถึง 32,180 คน ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอ จึงต้องนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเป็นตัวช่วยให้ผู้ป่วยและแพทย์ รศ.ดร.ธนิต เฉลิมยานนนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า กองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ได้สนับสนุนงานวิจัยพัฒนาระบบติดตามและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ป่วยในการทำกายภาพบำบัด ผ่านเครือข่ายสื่อสารสำหรับประโยชน์สาธารณะ โดยคณะวิจัย ได้ดำเนินการพัฒนาระบบและอุปกรณ์กายภาพบำบัดทั้งหมด 4 ชนิด  1. นวัตกรรมบริหารหัวไหล่ เป็นระบบประมวลผลภาพ วัดองศาของการเคลื่อนไหวข้อไหล่ เพื่อใช้ในผู้ที่มีปัญหาข้อไหล่ติดหัวไหล่  2. นวัตกรรมฝึกการขยายปอด ระบบประมวลผลภาพ สำหรับติดตามการทำกายภาพบำบัดเพื่อการฟื้นฟูปริมาตรปอด  3. นวัตกรรมบริหารกล้ามเนื้อหายใจ ระบบติดตาม ช่วยบริหาร พร้อมทั้งวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจ  และ 4. นวัตกรรมบริหารข้อเข่า ระบบติดตามและอุปกรณ์ช่วยบริหารข้อเข่า การออกกำลังกายแบบไอโซโทนิก ที่เน้นการยืดเหยียดเข่าโดยมีตุ้มน้ำหนักรัดบริเวณข้อเท้า เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์ และคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์ ผ่านเครือข่ายสื่อสาร ซึ่งเป็นการพัฒนาการบริหารจัดการข้อมูล ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ผลการทำกายภาพบำบัดจากอุปรณ์ทำกายภาพบำบัดที่พัฒนาขึ้น โดยจะนำไปติดตั้งใช้งานจริงตามโรงพยาบาลและศูนย์ส่งเสริมสุขภาพในรอบพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยเหลือผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยกายภาพบำบัด ผ่านเครือข่ายสื่อสารสำหรับประโยชน์สาธารณะ โดยใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์มาวิเคราะห์และวินิจฉัย เชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายสื่อสาร ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักกายภาพบำบัดสามารถนำข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์เพื่อมาวิเคราะห์และวินิจฉัยต่อไปได้ นอกจากนี้ศูนย์ข้อมูลของโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัย ยังสามารถดึงตรวจสอบข้อมูลของผู้ป่วยจากศูนย์ข้อมูลส่วนกลางได้อีกด้วย ดังนั้นข้อมูลการทำกายถาพบำบัดของผู้ป่วยและผู้สูงอายุ หรือการส่งเสริมสุขภาพของผุ้สูงอายุ ก็จะเป็นประโยชน์ที่สำคัญให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักกายภาพบำบัดในการออกแบบการรักษาต่อไปได้  ซึ่งผู้ป่วยทำกายภาพบำบัดยังได้เห็นพัฒนาการการฟื้นตัวที่ชัดเจน ทำให้มีขวัญกำลังใจและมีความพยายามในการทำกายภาพบำบัดให้ได้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการได้ นายนิพนธ์ จงวิชิต ผู้อำนวยการกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) กล่าวว่า กทปส. เห็นถึงโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมด้านการแพทย์ ที่เอื้อต่อการรักษาและการดูแลผู้ป่วยได้โดยสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่ต้องทำกายภาพบำบัด หรือผู้สูงอายุ ที่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลหรือไม่สะดวกที่จะเดินทางมายังโรงพยาบาลสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยการใช้เทคโนโลยีผ่านระบบสื่อสารได้ เพื่อลดภาระงานของนักกายภาพบำบัด อีกทั้งยังสามารถติดตามช่วยเหลือผู้ทำกายภาพบำบัด และผู้สูงอายุ โดยที่ผู้สูงอายุสามารถทำกายภาพบำบัดที่ถูกต้องด้วยตนเอง หรือศูนย์ส่งเสริมสุขภาพใกล้บ้าน รวมทั้งยังเห็นถึงความก้าวหน้า นำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารทางไกลมาใช้ประโยชน์ในการรักษา ด้วยระบบ Telemedicine ให้ผู้ป่วยและแพทย์ติดตามอาการ ปนะนำการรักษาผ่านอุปกรณ์การสื่อสาร ลดการเดินทาง ลดโอกาสปะปนคนหมู่มาก ลดโอกาสการระบาดของโรค ที่พร้อมขยายผลการใช้งานสู่พื้นที่ห่างไกลต่อไป ซึ่งทั้งหมดผ่านการจัดสรรงบประมาณแก่นักวิจัย โดย กทปส. พร้อมพิจารณาให้ทุนสนับสนุนกับโครงการ นวัตกรร และงานวิจัยอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อทุกภาคส่วนของไทยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

1 13 14 15 16 17 51
...