fbpx

สมศักดิ์ยันพปชร.ไม่มีใครน้อยใจเรื่องปรับครม.

“สมศักดิ์ เทพสุทิน” ยันในพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีใครน้อยใจ- เสียใจ เรื่องการปรับครม. ทุกคนเชื่อมั่นในตัวนายกฯ

“ชวน” เผย กมธ.ที่ตามคดี “บอส” ตกลงกันได้เหลือ 2 คณะ

วอนติดตามการทำงานของ กก.ตรวจสอบ อย่าด่วนวิจารณ์ เชื่อ ทุกองค์กรรู้ บ้านเมืองอยู่ได้ด้วยหลักความถูกต้อง

กมธ.ตำรวจ ชี้ช่องรื้อคดีบอส กระทิงแดง

กมธ.ตำรวจฯ ชี้ กระบวนการสอบสวนคดี “บอส” ไม่น่าจะถูกต้องชอบธรรม เตรียมสรุปส่งประธานสภา สัปดาห์นี้ ชี้ช่องญาติฟ้องตำรวจ อัยการ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องฟื้นคดี

ศบค.ยอมรับ กังวลความเสี่ยงจากแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ยืนยัน หากเปิดให้แรงงานต่างด้าวเข้าไทย ต้องมีมาตรการเข้มงวด ผ่านการคัดกรองโรคตั้งแต่หน้าด่าน

ศบค. เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย

ศบค. เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย มาจากต่างประเทศ ขณะที่หลายประเทศติดเชื้อระลอกที่ 2 และ 3 เพราะผ่อนคลายวินัย ไม่ระมัดระวังการป้องกันโรค ทหารสหรัฐฯ เข้าไทยอีก 120 นาย เตรียมร่วมฝึกกับกองทัพบก

นายกฯ จี้ จนท.ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านประสพภัย “ชินลากู”

ทำเนียบฯ 3 ส.ค.- พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สถานการณ์ฝนตกหนักจากพายุซินลากู เป็นบริเวณกว้าง ในภาคเหนือตอนบน และทั่วพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะหลายอำเภอใน จ.เลย เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ว่า ได้กำชับไปตั้งแต่ตอนที่ท่วมแรกๆ แล้ว ว่าให้ทุกหน่วยไปดูแล โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารและกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ ตอนนี้เป็นช่วงที่พายุเข้ามาหลายลูก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รายงานว่า เนื่องจากฝนตกเกิน 100 มิลลิเมตร ระบบระบายน้ำจึงรับไม่ได้ ทำให้ท่วมเอ่อเป็นธรรมดา ส่วนความเสียหายต้องมีแผนจัดการ ขณะนี้มี 3 จังหวัด คือ น่าน พิษณุโลก และเลย ได้รับผลกระทบ และรายงานมาเพิ่มอีก 1 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ก็พยายามเร่งรัดดำเนินการให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด “ขอเตือนว่า ช่วงนี้มี 4 จังหวัดมีความเสี่ยงเนื่องจากมีมรสุมเข้ามาและมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำไหลหลาก แต่ฝนที่ตกหนัก ถ้าเก็บน้ำได้ตรงไหน […]

“เชาว์” แนะนายกฯ โอนคดี “จารุชาติ” ให้ดีเอสไอ

กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-“เชาว์” แนะนายกฯ สั่งโอนสำนวนคดี “จารุชาติ” พยานปากเอกคดี “บอส อยู่วิทยา” ให้ดีเอสไอ ทำแทนตำรวจ เหตุมีส่วนได้เสีย หวั่นความน่าเชื่อถือติดลบ นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง คดีการตายของนายจารุชาติ มาดทอง ต้องโอนคดีให้ดีเอสไอดูแล มีเนื้อหาระบุว่า เรื่องนี้เต็มไปด้วยข้อสงสัยหลังนายจารุชาติ มาดทอง พยานคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สังคมเชื่อว่าน่าจะเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าอาจมีการฆ่าตัดตอนในทางคดี เพราะเกรงว่าหากถูกเค้นหนัก พยานอาจเปลี่ยนแปลงคำให้การได้ ซึ่งในขณะนี้ นายกรัฐมนตรีมีการสั่งอายัดศพเพื่อให้มีการชันสูตรพลิกศพสืบหาการเสียชีวิตอย่างละเอียดรอบคอบ แต่ทำแค่นี้ ยังไม่พอ ควรมีการส่งต่อให้ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบแทนตำรวจ เนื่องจากขณะนี้ถือว่าตำรวจกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะผู้เสียชีวิตเป็นพยานปากเอกที่ทำให้เกิดการพลิกคดีบอส อยู่วิทยา เปลี่ยนจากฟ้องเป็นไม่ฟ้อง ไม่ว่าผลสรุปของคดีจะทำอย่างเที่ยงตรงเพียงใด แต่ความน่าเชื่อถือที่ติดลบจะทำให้เกิดปัญหาคลางแคลงใจอย่างแน่นอน “ทางที่ดีที่สุดควรโอนคดีนี้ไปให้ดีเอสไอสอบสวนต่อ เพราะถือว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี แตกต่างจากตำรวจที่กำลังตกเป็นจำเลยของสังคมอยู่ในเวลานี้ การสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุการตายของนายจารุชาติ อยู่ในสายตาของประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิด ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเป็นอีกหนทางหนึ่งในการช่วยรักษาระบบยุติธรรมตั้งต้นให้ดำรงอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ผมจึงขอฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่าเมื่อท่านก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายจารุชาติ เอื้อมมือเข้ามาสั่งการให้มีการอายัดศพเพื่อชันสูตรกันใหม่แล้ว […]

1 2,525 2,526 2,527 2,528 2,529 4,532
...