ทำเนียบรัฐบาล 6 ก.ค. – “ชัยวุฒิ” ย้ำไม่มีนโยบายภาครัฐโทรข่มขู่ ขอข้อมูลประชาชน รับปราบยาก มิจฉาชีพย้ายฐานทำผิด หวั่นผู้สูงอายุรู้ไม่เท่าทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอบุตรหลานช่วยทำความเข้าใจ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ว่า ที่ประชุมวันนี้(6 ก.ค.) หารือประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์และคอลเซ็นเตอร์เป็นหัวข้อหนึ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 13 แผนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยยอมรับว่าการปราบปรามทำได้ยากลำบาก เพราะกระบวนการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้พื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์หรือเป็นฐานทำความผิด
“เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพบและสั่งปิดจะเปลี่ยนประเทศไปเรื่อย ๆ ซึ่งขณะนี้พยายามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ประชาชน หากมีเบอร์โทรศัพท์โทรเข้ามา และมีเครื่องหมายบวกนำหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นการโทรมาจากต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องรับสาย ขอย้ำว่าไม่มีนโยบายจากหน่วยงานใด ๆ ของรัฐ ที่จะโทรไปข่มขู่หรือเรียกให้ประชาชนโอนเงินหรือขอข้อมูล ดังนั้น หากมีการโทรในลักษณะนี้ให้ตัดสายหรือกดทิ้ง” นายชัยวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่าเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอย่างกสทช. จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เคยได้ยินมาเหมือนกัน ซึ่งนอกจากกสทช.แล้ว อ้างหมดทุกหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานรัฐ จึงขอย้ำว่าไม่มีหน่วยงานของรัฐที่จะโทรไป แล้วให้ประชาชนเปิดเผยข้อมูลหรือโอนเงิน ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการประชาสัมพันธ์และเตือนประชาชน กรณีที่โทรมาและมีเครื่องหมายบวกควรกดสายทิ้งทันที ยอมรับว่ากลุ่มผู้สูงอายุอาจรู้ไม่เท่าทัน ดังนั้น บุตรหลาน หรือบุคคลในครอบครัวจะเป็นตัวช่วยอีกทาง ที่จะทำความเข้าใจและป้องกันผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์.-สำนักข่าวไทย