ไทย-สวิส พร้อมสานต่อร่วมมือทุกมิติ

ทำเนียบรัฐบาล  6 ก.ค.-ออท.สวิสฯ พบนายกฯ ขอบคุณรัฐบาลดูแลชาวสวิสช่วงโควิด ชมมติ ครม.ให้คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงเข้ามาพำนักระยะยาว เชื่อดึงดูดผู้เกษียณอายุ-นักท่องเที่ยวชาวสวิสจำนวนมากมาไทย พร้อมสานต่อความร่วมมือทุกมิติ  


นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาเนื่องในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิสที่ดำเนินมาอย่างราบรื่นยาวนาน ร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนการเยือนทุกระดับ แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และขับเคลื่อนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการกงสุลผ่านกลไกการประชุมหารือด้านการกงสุลไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ครั้งที่ 1 ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี และความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการดำเนินงานภายใต้ความตกลงปารีสร่วมกัน ซึ่งเป็นการลงนามข้อตกลงถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตร่วมกันเป็นคู่แรกของโลก โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ขอบคุณเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ ที่มีบทบาทแข็งขันในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิสตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง


นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับสมาพันธรัฐสวิสที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) วาระปี ค.ศ. 2023-2024 โดยเชื่อมั่นว่า สมาพันธรัฐสวิสจะมีบทบาทที่แข็งขันในการส่งเสริมสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลก พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ความเป็นมิตรของไทยสู่สายตานานาประเทศด้วย

เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี ที่ดำรงตำแหน่ง ได้รับความสุขและประสบการณ์ที่ดี ประเทศไทยสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือทั้งนักท่องเที่ยวชาวสวิสและชุมชนชาวสวิสที่อยู่ในไทยเป็นอย่างดีในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และเชื่อมั่นว่าการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศของไทยจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวสวิสเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ขอบคุณนโยบายที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อการพำนักระยะยาว 10 ปี จะเป็นสัญญาณที่ดีและดึงดูดผู้เกษียณอายุชาวสวิสจำนวนมากให้มาพำนักยังประเทศไทยในระยะยาว ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้เชื่อมั่นว่า รัฐบาลและชาวไทยพร้อมดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวสวิสเป็นอย่างดี

ทั้งสองฝ่ายยินดีร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยสมาพันธรัฐสวิสฯ เป็นหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย มีมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันเป็นจำนวนมาก และทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก พร้อมเชิญชวนนักลงทุนจากสมาพันธรัฐสวิสเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย นายกรัฐมนตรีขอบคุณสมาพันธรัฐสวิสที่สนับสนุนการฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) มาโดยตลอด ด้านเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ พร้อมผลักดันและเร่งรัดให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรมโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนและฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศร้อน และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง 30%

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์