ดีอีเอสเร่งพัฒนาดิจิทัลหนุนสังคม-เศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 29 ต.ค.ดีอีเอส ตอบรับแนวทางใช้ดิจิทัลช่วยสังคม เศรษฐกิจ เน้นช่วยคนแก่ คนพิการ เตรียมออกแอปฯรับเรื่องร้องเรียน เปิดไวไฟฟรีชุมชน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวภายหลังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาติดตามผลการดำเนินงานของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า รองนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเน้นด้านสังคม โดยขยายเป้าหมายไปช่วยผู้สูงอายุและผู้พิการได้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินชีวิตนอกจากนี้ให้แก้ไขปัญหาข่าวปลอมต่อไปด้วยการให้ความรู้กับประชาชน รองนายกฯ ยังได้กำชับให้เร่งตั้งสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติ เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม ส่วนการสนับสนุนทางเศรษฐกิจให้สนับสนุนการวางเครือข่ายการสื่อสารให้ครอบคลุมเพื่อใช้เทคโนโลยีช่วยประชาชนในการหารายได้เพิ่ม รวมถึงการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว สำหรับโครงการติดตั้งฟรีไวไฟในชุมชน นำร่อง พื้นที่สำเพ็ง หรือสำเพ็งโมเดล ได้ทำสำรวจพื้นที่แล้วไปดูจุดติดแล้วคิดส่าเดือนพฤศจิกายนจะคิดตั้งเสร็จจาดนั้นจะมีกิจกรรมช่วยพ่อค้าแม่ค้าในการขายของออนไลน์ นอกจากนี้ในกรุงเทพฯจะทำที่ตลาดวังหลัง ทั้งนี้การดำเนินการจะให้บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)  เป็นเจ้าภาพทำโครงการ โดยบริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด จะสนับสนุนด้วยมาตรการลดค่าส่งสินค้าออนไลน์ ซึ่งบริษัทไปรษณีย์ฯเตรียมงบประมาณในการสนับสนุนโครงการ  รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าวต่อว่า ส่วนการควบรวมบริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) และบริษัททีโอที จำกัด(มหาชน) อยู่ระหว่างการดำเนินการ จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเพราะประชาชนไม่สามารถเดินทางตามปกติกระทรวงจะเร่งขยายจุดกระจายสัญญาณไวไฟในท้องถิ่นโดนมอบบริษัททีโอทีจำกัด(มหาชน) เร่งทำการสำรวจเพื่อทำการติดตั้งอุปกรณ์  นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อรองรับการร้องเรียนความเดือดร้อนของประชาชน โดยแอปพลิเคชั่นจะถูกคัดแยกโดยปัญญาประดิษฐ์เพื่อส่งปัญห่ไปให้หน่วยงานต้นทางเพื่อแก้ไขปัญหาแอปพลิเคชั่นนี้จะรับเรื่องร้องเรียนและร้องทุกข์ในทุกเรื่องโดยกระทรวงฯได้หารือเบื้องต้นกับกระทรวงมหาเไทยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร โดยความคืบหน้าอยู่ระหว่างการพัฒนาและจะสามารถใช้ได้ภายใน 1-2 เดือน 

รับสมัครบอร์ดกสทช.วันสุดท้ายได้80ผู้ท้าชิง7อรหันต์

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. สมัครบอร์ด กสทช วันสุดท้าย ได้ 80 คนเข้าชิง 7 เก้าอี้ พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด มาตามคาด  สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สรุปผลการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กรรมการ กสทช.) จำนวน 7 ด้าน ระหว่างวันที่ 14-28 ตุลาคม 2563  มีผู้สมัครทั้งสิ้น 80 คน  โดยผู้มาสมัครในวันสุดท้าย 21 คน หนึ่งในนี้มีพลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เข้ารับการสรรหาด้านกิจการโทรทัศน์ ทั้งนี้มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าพลโทสรรเสริญถูกวางตัวเป็นประธานบอร์ดกสทชคนต่อไป  สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหากรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จะส่งรายชื่อผู้สมัครไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรา 7 ก. และมาตรา 14/2 และตรวจสอบลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 7 ข. และมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ. 2553 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 เมื่อได้รับผลการตรวจสอบดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และจะเชิญผู้สมัครมาแสดงวิสัยทัศน์ที่แสดงถึงการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของผู้สมัครเพื่อนำมากำหนดทิศทางหรือเป้าหมายในการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ต่อไป  -สำนักข่าวไทย.

คาดตลาดอีสปอร์ตยังโตต่อเนื่องเชื่อ5Gจะช่วยโมบายเกมได้รับความนิยมสูง

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. ชี้โควิด-19 ดันผุดจัดแข่งเกมออนไลน์เพิ่ม เชื่อเครือข่าย 5G จะทำให้ตลาดโมบายเกมโตต่อเนื่อง นางสาวอรนุช เลิศสุวรรณกิจ Co-Founder และ CEO ของ Techsauce Media  กล่าวว่า ตลาดเกมอีสปอร์ต เป็นตลาดที่กำลังเติบโตสูง ภาพรวมมูลค่าตลาดอีสปอร์ตในภูมิภาคอาเซียนมีรายได้ที่ 137,300 ล้านบาท ผู้เล่นส่วนใหญ่ เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ รายได้จึงอยู่ในกลุ่มนี้ร้อยละ 70  หรือ 96,720 ล้านบาท ตลาดอีสปอร์ต มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ10 ต่อปี แม้จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้รายได้ลดลง เดิมมีการคาดการรายได้ของตาดอีสอร์ตในปีนี้จะอยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเหลือ 0.95 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ตามปกติอย่างไรก็ดียังคงมีรายได้เข้ามาสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอีสอร์ตยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก  นอกจากนี้ยังพบว่าในอาเซียนมีผู้ชม 180 ล้านคนดูคอนเทนท์เกี่ยวกับเกมทั้งการดูสดและดูย้อนหลัง ดูการสตรีมเกมและคอนเทนขเกี่ยวกับเกม ในจำนวนนี้ดูการแข่งขันผ่านทางโทรศัพท์มือถือถึง 30 ล้านคน จุดนี้เองทำให้แบรนด์ต่างๆให้ความสนใจ ผู้เล่นร้อยละ 50 ในอาเซียน การใช้จ่ายเงินเพื่อการเล่นเกมร้อยละ 50 จากการทำวิจัยตลาดพบว่าแบรนด์ที่ใช้เม็ดเงินกับอีสปอร์ตถูกมองว่ามีภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีขึ้น  ทำให้โอกาสของการทำรายได้จากอีสปอร์ตเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจ โอกาสของประเทศไทย  นายศรุต วานิชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร sea Thailand  กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 อาจจะกระทบกับอีสปอร์ตแต่กลับทำให้การจัดการแข่งขันอีสปอร์ตออนไลน์เพิ่มมากขึ้น จากการถ่ายทอดการแข่งขันอีสปอร์ตมีผู้ชมการแข่งขันแต่ละเกมถึง 1 ล้านคน ตลาดในส่วนนี้มีทั้งแบรนด์ที่อยู่ในฝั่งไอทีและแบรนด์ในธุรกิจอื่นให้ความสนใจ  โดยอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีบทบาทที่สำคัญมากต่อการเล่นเกมเนื่องจากเกมในปัจจุบันมีความต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วมีความหน่วงต่ำ  นางรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ Head of Game Business Management Unit หัวหน้าแผนกธุรกิจเกม เอไอเอส กล่าวว่าตลาดเกมออนไลน์บนมือถือเติบโตร้อยละ 10 -20ต่อปี คาดว่าปีหน้าจะเดิบโตต่อเนื่องในอัตราเดียวกัน การเปิดบริการคลาวด์เกม ปี 2021 เน็ตเวิร์ค 5G จะพร้อม ในการเพิ่มคอนเทนท์เข้ามาสนับสนุนให้การเล่นเกมมีอรรถรสมากขึ้น การมีเน็ตเวิร์ค 5G ที่ครอบคลุม เอไอเอสสนับสนุนนักกีฬาอีสปอร์ตของไทยให้ไปไกลในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการสนับสนุนให้ตลาดเกมอีสปอร์ตของไทยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค ปัจจุบันประเทศไทยมีความพร้อม  โดยจะทำผ่านการส่งเสริมเยาวชน การร่วมมือกับนักพัฒนา การสร้างคอมมูนิตี้ การสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศน์ของอีสปอร์ต-สำนักข่าวไทย.

กสทช.กำชับโอเปอเรเตอร์ดูแลสัญญาณสื่อสารพื้นที่รับผลกระทบใต้ฝุ่นโมลาเบ

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. กสทช. กำชับโอเปอเรเตอร์ดูแลคุณภาพสัญญาณและโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่รับผลกระทบจากพายุใต้ฝุ่นโมลาเบ  นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้กำชับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 5 ราย ได้แก่เอไอเอส ทรู ดีแทค แคท และทีโอที ให้ดูแลคุณภาพสัญญาณและโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนในพื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะได้รับผลกระทบจากพายุใต้ฝุ่น โมลาเบ ที่จะเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 28 – 30 ต.ค. 2563 ให้พร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเตรียมทีมซ่อมบำรุงเพื่อเข้าแก้ไขกรณีเกิดเหตุขัดข้อง และเตรียมความพร้อมเครื่องสำรองไฟกรณีไฟฟ้าขัดข้องเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมสั่งการให้สำนักงาน กสทช. ภาค เขต ทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมือช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับมือกับพายุโมลาเบ และให้ศูนย์สายลม สำนักงาน กสทช. เตรียมพร้อม 24 ชั่วโมงในการสนับสนุนการทำงานของทุกหน่วยงาน รวมถึงอาสาสมัคร ในการประสานงานข้อมูลข่าวสารกับนักวิทยุสมัครเล่นในการให้ความร่วมมือช่วยเหลือต่าง นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. เข้าใจถึงความจำเป็นในการสื่อสาร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีประชาชนมีความต้องการใช้งานเป็นจำนวนมากอย่างกรณีเกิดภัยพิบัติ ดังนั้น หากเกิดปัญหาโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ได้สามารถใช้งานได้ประชาชนสามารถโทรแจ้งเข้ามาได้ที่ กสทช. คอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1200 (ไม่มีค่าใช้จ่าย)-สำนักข่าวไทย

นักวิชาการชี้การขยายเครือข่าย5Gยังเดินหน้าแม้มีสถานการณ์รุมเร้า

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. นักวิชาการชี้การขยายเครือข่าย 5G ยังเดินหน้า 2 โอเปอเรเตอร์ขยายเกือบครอบคลุมทั่วประเทศรับสถานการณ์การเมืองอาจกระทบความเชื่อมั่นบ้าง นายสืบศักดิ์ สืบภักดี นักวิชาการ และเลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการขยายเครือข่าย 5G ในปัจจุบันว่า แม้หลังจากจบการประมูลคลื่น 5G ในช่วงต้นปี สถานการณ์ในประเทศได้พลิกผันจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางการตลาด หรือกำลังซื้อของประชาชนหดหายเอกชนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าประมูลคลื่นโดยเฉพาะคลื่นย่าน 2600 เมกกะเฮิรตซ์ ที่หวังจะเปิดตัว 5G เครือข่ายของตนในช่วงกลางปีพร้อมกิจกรรมแนะนำและการตลาดเครืองลูกข่ายใหม่ที่รองรับ ต้องทบทวนและปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจตามสถานการณ์แต่ในส่วนของการขยายเครือข่ายและติดตั้งสถานีฐาน มีผู้ให้บริการอย่างน้อย2 รายคือ ทั้ง เอไอเอส และทรูมูฟเอช ยังคงดำเนินการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง นายสืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งสองรายสามารถประกาศพื้นที่ครอบคลุมและพร้อมให้บริการ 5G แล้วครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยที่ในช่วงแรก ราวเดือนพฤษภาคมอาจเป็นไปในลักษณะเป็นจุดๆ ในตัวเมือง แต่ ณ ขณะนี้จากข้อมูลของผู้ประกอบการเองและข้อมูลจากผู้ใช้ที่มีการใช้งานและรายงานการทดสอบขึ้นไปยัง แอปพลิเคชั่น NPerf  ที่มีการเก็บข้อมูลพื้นที่ครอบคลุมเครือข่ายมือถือระบุว่า 5G ในประเทศไทยขยายครอบคลุมทั้งในตัวเมืองของจังหวัดต่าง ๆ ต่อเนื่องกับทางหลวงสายสำคัญ และพื้นที่เศรษฐกิจไปมากแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ผู้ให้บริการและ กสทช. กำหนดไว้ “เราอาจจะไม่ค่อยได้ทราบข่าวสารด้านการตลาดหรือโหมประชาสัมพันธ์ถึงการขยายพื้นที่ให้บริการ 5G ที่รุดหน้าไปมากจากเอกชนในตลาด เหมือนตอน 4G หรือช่วงที่สถานการณ์ปรกติ แต่ ณ ขณะนี้เอกชนทั้งสองรายเดินหน้าขยายพื้นที่ครอบคลุม 5G แล้วอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนตัวยังคิดว่าขยายพื้นที่ได้เร็วกว่าที่คาดหวังไว้ด้วยซ้ำแม้มีปัญหาอุปสรรคทั้งด้านการลงทุน และกำลังซื้อหรือการตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องใหม่มารองรับ 5G ของลูกค้าอาจจะชลอตัว ซึ่งอาจมองได้ว่าผู้ให้บริการยังมองตลาดและการขยายตัวของการใช้ 5G ในอนาคตจะกลับมาและเป็นที่ต้องการเมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย ซึ่งเมื่อนั้นเชื่อว่า 5G จะครอบคลุมเกือบๆ 4G ในปัจจุบันพอดี อีกทั้งนับแต่ปลายไตรมาสสามต่อเนื่องไตรมาส 4 เริ่มเห็นสัญญาณของการเปิดตัวมือถือ 5G รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นหลายแบรนด์ที่มีราคาถูกลง จับต้องได้ รวมถึงแบรนด์หลักๆ อย่างไอโฟน ที่รองรับ 5G ต้นปีหน้าเราคงจะเห็นทั้งความพร้อมด้านเน็ตเวริ์ค 5G และเครื่องลูกข่าย 5G และผู้ใช้บริการจะให้ความสนใจอยากสัมผัสเทคโนโลยี 5G กันเพิ่มมากขึ้น” สืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า การใช้ประโยชน์จากโครงข่าย 5G จะไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจมือถือหรือการขายเครืองมือถือรุ่นใหม่ๆ เท่านั้น 5G คือโครงสร้างพื้นฐานที่จะสร้างการพัฒนาใหม่ๆ ทั้งการพัฒนาเมือง เศรษฐกิจ การเกษตร สังคมการศึกษา ความมั่นคงปลอดภัย สิ่งสำคัญคือต้องหาวิธีและเทคโนโลยีรวมถึงสร้างบริการที่จะใช้ประโยชน์จาก 5G ที่เกิดขึ้นแล้วให้ได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อว่าในปีหน้า 2564 หลังเครือข่าย 5G ครอบคลุมและมีความพร้อมเกือบเต็มที่ จะเห็นภาพผนวกรวมและการใช้งาน 5G ในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างชัดเจน สำหรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม เลขาธิการสมาคมโทรคมนาคมฯ กล่าวว่า เรื่องผลกระทบกับผู้ประกอบการมีผลกระทบบ้าง แต่ผู้ให้บริการยังคงลงทุนโครงข่ายใหม่ 5G ในอีกมุมผลกระทบทางเศรษฐกิจกระทบกับฝั่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่คาดหวังให้ลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ บน 5G เพื่อใช้งานชัดเจน อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต อย่างโรงงานต่างๆ ที่เดิมสนใจปรับสายการผลิตใหม่ ลงเทคโนโลยีใหม่ ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตต่างชลอการปรับสายการผลิตแทบทั้งหมด หรือภาคขนส่ง ภาคท่องเที่ยว ที่เดิมถูกกำหนดเป็นเป้าหมายของลูกค้า 5G เช่นกัน อาทิ จากนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาใช้หรือบริการออนไลน์ที่เกี่ยวเนื่องก็ชลอตัวไป ส่วนเรื่องการเมือง แม้ปัจจุบันอาจจะกล่าวได้ว่ายังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขยาย 5G หรือแต่กระแสของผู้ใช้ในตลาดแต่หากสถานการณ์การเมืองไม่สู้ดีหรือขยายไปสู่ความรุนแรง กระทบธุรกิจ หรือต้องมีการปิดบริการหรือกิจการแบบระยะยาวก็อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อแผนการตลาดหรือกิจกรรมโปรโมท หรือสร้างการรับรู้ 5G ที่ก็อาจขยับเพื่อรอสถานการณ์พร้อมเช่นกัน-สำนักข่าวไทย.

TikTokขยายธุรกิจเจาะเอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. Tik Tok ชี้ปัจจัยการเมือง-โรคโควิด-19 กระทบสื่อออนไลน์ระยะสั้น พร้อมเดินหน้าส่ง“ TikTok For Business” ชูจุดเด่นเข้ากลุ่มเป้าหมายการตลาดครบ นางสาวสิรินธิ์ วิรยศิริ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจการตลาด TikTok กล่าวว่า จากการเติบโตของมูลค่าการโฆษณาในสื่อออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2563 นี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาในสื่อออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นถึง 2.03 หมื่นล้านหรือเติบโตร้อยละ 12 จากปีก่อนหน้า ข้อมูลจากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทยคาดว่ามูลค่าการโฆษณาในสื่อออนไลน์จะเป็นกลุ่มธุรกิจเดียวที่มีการเติบโตท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ทุกธุรกิจต้องรัดเข็มขัดและรัดกุมกับการใช้งบประมาณการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจึงทำให้ความคาดหวังของทุกธุรกิจในการทำตลาดดิจิทัลทุกวันนี้จึงไม่เป็นเพียงแค่การสร้างการรับรู้ แต่มองไปถึงการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจด้วยความคาดหวังจากแบรนด์และผู้ประกอบการธุรกิจ TikTok For Business เป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการตลาดแบบครบวงจรสำหรับแบรนด์และธุรกิจในทุกขนาด นางสาวสิรินธิ์ กล่าวอีกว่า TikTok For Business ต้องการสร้างวิธีเล่าเรื่องของแบรนด์ภายใต้แนวคิด Don’t Make Ads. Make TikToks ในการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ ทำให้ผู้ชมหรือผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจสนุกและอยากเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกิจกรรมของแบรนด์ควบคู่ไปกับการนำเสนอรูปแบบการโฆษณาที่ถูกจัดไว้ตามวัตถุประสงค์ คือ Brand Takeover รูปแบบโฆษณาในตำแหน่งแรกก่อนเข้าหน้าFeed ที่สามารถสร้างการเข้าถึงได้สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์ Top View โฆษณาในตำแหน่งแรกในหน้า Feed ที่สามารถสร้างได้ตั้งแต่การเข้าถึงจำนวนคนที่เข้ามาบนแพลตฟอร์ม การพิจารณาเลือกซื้อไปสู่การตัดสินใจซื้อที่จะสามารถสร้างการแสดงผลทั้งการมองเห็น และจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาเป็นจำนวนมากหลายล้านครั้งต่อวัน  In-Feed Adsโฆษณาที่จะปรากฏขึ้นระหว่างการแสดงคอนเทนต์ในหน้า Feed ซึ่งโฆษณารูปแบบนี้ยังสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มTikTok Hashtag Challenge รูปแบบโฆษณาในลักษณะของการจัดแคมเปญเพื่อชักชวนให้คนเข้ามาร่วมกิจกรรมสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ในรูปแบบ User Generated Content หรือคอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้ใช้ รูปแบบโฆษณาที่แบรนด์สามารถเข้ามาสร้างสรรค์ทั้งภาพและเสียงเพื่อให้คนสามารถเลือกใช้ประกอบวิดีโอซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจดจำและปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ได้อย่างลึกซึ่งมีประสิทธิภาพ  “ ด้วยความหลากหลายของรูปแบบโฆษณาบน TikTok และความพร้อมของแพลตฟอร์มที่มีการขยายฐานไปสู่กลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น เราพบว่ากลุ่มผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทยเป็นกลุ่มอายุ 16-34 ปีคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 และมากกว่าร้อยละ  80 เป็นกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและกำลังเป็นที่จับตาของแบรนด์และนักการตลาดในปัจจุบันจึงส่งผลให้ TIkTok กลายเป็นแพลตฟอร์มการตลาดแห่งยุคที่ตอบโจทย์ เทรนด์การตลาดรูปแบบใหม่ Video Marketing, Challenge Marketing, Hashtag Marketing und Influencer Marketing “ สำหรับสถานการณ์การเมืองและโรคโควิด-19 นางสาวสิรินธิ์ วิริยศิริ กล่าวว่า เป็นปกติสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการเมือง และการแพร่ระบาดของโรคภัยจะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจในการใช้งบประมาณเพื่อการทำการตลาดอย่างไรก็ดี TikTok ได้มุ่งเน้นไปที่ปัญหาลูกค้าว่าขณะนี้ปัญหาของลูกค้าคืออะไร และTikTok ควรทำอย่างไรให้ลูกค้าผ่านช่วงวิกฤตไปให้ได้  ด้านนายจตุธน พิทักษ์พงศ์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจการตลาดเอสเอ็มอี  กล่าวว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีผลกระทบบ้าง แต่เป็นระยะสั้นอาจจะเป็นการกังวลไปเอง 3-4 วันผ่านไปการใช้เม็ดเงินกลับมาเป็นปกติเพราะการการจับจ่ายซื้อของยังคงเกิดขึ้น และอาจจะมากขึ้นด้วย-สำนักข่าวไทย.

พุทพงษ์แจงสภาดำเนินคดีกับคนใช้ออนไลน์ผิดกฎหมายเพราะจำเป็น

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. พุทธิพงษ์ แจงสภาฯ จำเป็นบังคับใช้กฎหมายกับผู้ใช้โซเชียลที่กระทำผิด ระบุ พบผู้ชุมนุมบางส่วนแสดงออก และใช้ถ้อยคำหยาบคาย ทำร้ายทำลายสถาบันหลักของประเทศ ไม่ได้น่ารักย้ำ รัฐบาลขอให้ใช้โซเชียลเป็นพื้นที่ปลอดภัย แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อภิปรายต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาชี้แจงประเด็นการใช้กฎหมายเกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดียว่า  รัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เนื่องจากในโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่ดี รวดเร็ว ทันสมัย แต่เนื้อหาในโซเชียลมีเดียในวันนี้มีความหลากหลาย  ซึ่งมุมหนึ่งของผู้ชุมนุม ก็พบว่ามีการใช้โซเชียลมีเดีย ที่มีเนื้อหากับสิ่งที่แสดงออกรุนแรง มีการใช้คำพูด ยุยง ปลุกปั่นทำร้ายทำลายสถาบันหลักของประเทศทั้งใช้ถ้อยคำหยาบคาย  ไม่ได้น่ารัก แม้ว่าแพลตฟอร์มโซเชียลจะตั้งอยู่ในต่างประเทศ แต่ประเทศไทยก็มีกฎหมายไทยที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย “”รัฐไม่ได้ไปล่วงเกินสิทธิของใครเลย ทุกคนจึงยังใช้สื่อโซเชียลได้อย่างอิสระ ทั้ง 300,000 URLs นั้น ดำเนินคดีจำนวน 2,000 กว่าราย เพราะดูคนที่มีความตั้งใจและละเมิดข้อกฎหมายจริง ๆ  วันนี้ทั้งเกือบ 3,000 คดีอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เราไม่ได้นิ่งเฉย และดำเนินการทางกฏหมายอย่างเคร่งครัด “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าว  นายพุทธิพงษ์  กล่าวอีกว่า เรื่องการปิดกั้นสื่อ  ขอชี้แจงว่าหลายสื่อมีเจตนาที่เผยแพร่ภาพข่าวที่ทำร้ายจิตใจประชาชนคนทั้งประเทศ มีความตั้งใจที่จะจาบจ้วง ใช้คำพูด ใช้การอภิปราย ใช้การปราศรัย ถ่ายทอดออกไป ที่ไม่ได้ เป็นประโยชน์หรือ เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้คนใดคนหนึ่งเลย เราเป็นคนไทยด้วยกัน เคารพกฎหมายเดียวกัน เมื่อทำผิดต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ตนเองยังถูกต่อว่าด้วยซ้ำว่า ทำน้อยไป ทั้งหมดที่ดำเนินคดี หรือสื่อที่ส่งให้ศาล อาศัยกระบวนการยุติธรรม ขออำนาจศาล ไม่ได้ใช้ความรู้สึกของรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้ความรู้สึกของรัฐบาลเลย แต่อาศัยคำสั่งศาล  ร้อยละ 80 ประชาชนส่งมาให้ และเจ้าหน้าที่รวบรวมส่งศาลใน 48 ชั่วโมง เมื่อมีคำสั่งศาลจึงส่งให้แพลตฟอร์ทราบ รัฐจำเป็นต้องดำเนินการโดยไม่ได้เลือกปฏิบัติ สื่อทุกแขนงยังนำเสนอข่าวได้เต็มที่ เพียงแต่ขอให้อยู่ในข้อกฎหมาย หากมีเนื้อหาที่ละเมิดกฎหมาย  ถ้าไม่ตั้งใจก็ขอให้ดำเนินการลบออก หากไม่ลบออกก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างไรก็ตาม รัฐมีจุดประสงค์ อยากให้การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นที่ที่ปลอดภัย สะอาด เป็นที่ที่ทุกคนสามารถ แสดงความ คิดเห็นของตนเองได้  เพียงแต่ต้องไม่หยาบคาย ไม่กระทำผิดกฎหมาย และต้องยืนอยู่บนหลักที่เรายึดมั่น ยึดถือบนมาตรฐานเดียวกัน   ยืนยันว่ารัฐบาลทำตามกฎหมาย -สำนักข่าวไทย.

“พุทธิพงษ์” เผยพบมีความพยายามป่วนเว็บ กสทช.ดีอีเอส แต่ตั้งรับได้

กรุงเทพฯ 26 ต.ค. – รมว.ดีอีเอส สั่งเฝ้าระบบเครือข่ายสารสนเทศภาครัฐเข้ม เผยพบความพยายามป่วนเว็บกสทช. – กระทรวงดีอี ด้วยการเข้าถึงเพิ่มขึ้นจำนวนมากแต่ยังรับมือได้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มผู้เรียกตัวเองว่ากลุ่มไซเบอร์ทรีฟิงเกอร์ประกาศจะโจมตีเว็บไซต์สารสนเทศภาครัฐว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าซึ่งกระทรวงไม่ได้มีความห่วงกังวลกับประกาศดังกล่าว แต่ไม่ได้ประมาทหรือนิ่งนอนใจจึงได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่ถูกระบุว่าจะมีการโจมตี และให้ตรวจสอบประกาศดังกล่าวว่าเป็นความจริงหรือไม่ โดยกระทรวงได้มอบหมายให้ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จากการเฝ้าระวังเว็บไซต์สารสนเทศของหน่วยรัฐ ทำการเฝ้าระวังซึ่งผลการเฝ้าระวังพบว่ามีความผิดปกติบางจุดในบางช่วงเวลาในเว็บไซต์ของบางหน่วยงาน เช่น พบว่าเว็บไซต์ของสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการสะดุดในระยะเวลาสั้นๆ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ส่วนเว็บไซต์ของกระทรวงมีเครื่องมือที่ใช้เฝ้าระวังตรวจสอบพบว่ามีความพยายามเข้าสู่เว็บไซต์ของกระทรวงอย่างผิดปกติในช่วง12.00-13.00 น.โดยมีความพยายามเข้าสู่เว็บไซต์เข้ามาจำนวนมากผิดปกติหลายเท่า เพื่อทำให้เว็บไซต์เข้าถึงได้ใช้และอาจจะทำให้เกิดการล่มได้แต่อย่างไรก็ดีด้วยการเฝ้าระวังและการเตรียมการจึงไม่ทำให้เว็บไซต์ของกระทรวงเกิดความเสียหายและยังให้บริการได้ตามปกติ สำหรับการเฝ้าระวังในช่วงนี้คงจะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษต่อเนื่องต่อไป ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องปกติที่มีสถานการณ์ทางการเมือง จะมีการดำเนินการในลักษณะที่เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นการทำจริงและการขู่  “มันสะท้อนกว่าโลกเราเปลี่ยนไป เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ระบบสารสนเทศจะมีไว้เฉพาะการใช้งานเทคโนโลยีอย่างเดียวคงไม่ได้ระบบเฝ้าระวังก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ การเตรียมการเตรียมบุคลากรเพื่อรองรับการเตรียมการรับมือตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาทำให้สามารถผ่อนหนักเป็นเบาและทำให้สถานการณ์ไม่รุนแรงมาก”-สำนักข่าวไทย.

กสทช.คุมเข้มความปลอดภัยเว็บสารสนเทศหลังถูกขู่โจมตี

กรุงเทพฯ 26 ต.ค. กสทช. กำชับดูแลระบบสารสนเทศหลังมีกลุ่มประกาศโจมตีเว็บระบบสารสนเทศหน่วยงานรัฐ พร้อมเร่งตรวจสอบข่าวลือกันแพร่เฟคนิวส์ ผู้สื่อข่าวรายงานตามที่มีผู้เรียกตัวเองว่าเครือข่ายนักรบไซเบอร์เพื่อประชาธิปไตยหรือ Cyber 3 Fingers ประกาศที่จะทำการโจมตีเว็บไซต์ระบบสารสนเทศของรัฐเพื่อเป็นการตอบโต้การใช้กำลังกับเยาวชนและนิสิตนักศึกษาและกดดันให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาออกจากตำแหน่ง โดย โดยในประกาศได้มีสัญลักษณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรีสำนักงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติกระทรวงดีเท่าเพื่อนเศรษฐกิจและสังคมกองทัพบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกสทช. ได้รับทราบประกาศดังกล่าวแล้วและไม่มีสั่งการกำชับให้ดูแลระบบสาระสนเทศรวมถึงการตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏว่าเป็นความจริงหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการเผยแพร่ข่าวลวงที่กำลังมีความพยายามสร้างข่าวลือในด้านต่างๆมากมายในสื่อโซเชียลในขณะนี้ ทั้งนี้ยังไม่พบว่ามีความผิดปกติใดใดเกิดขึ้น-สำนักข่าวไทย.

กระทรวงดีอีเอสประสานตำรวจทลายเว็บพนันออนไลน์

กรุงเทพฯ 23 ต.ค. ศปอส.ตร. ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลฯ เดินหน้ารวบ2 เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์พื้นที่สงขลา เงินหมุนเวียน 250 ล้าน จากนโยบายในการปราบปรามและติดตามผู้กระทำความผิดทางออนไลน์ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เปิดตัว “เพจ อาสาจับตาออนไลน์” เป็นช่องทางสร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสสื่อสังคมออนไลน์-เว็บผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหา การปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายโดยใช้วิธีออนไลน์ มีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนโดยตรง  พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปอส.ตร.) มีความห่วงใยประชาชนผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมเหล่านี้  จึงมีนโยบายกำชับทุกหน่วย ทำการสืบสวน จับกุม ปราบปรามการกระทำผิดในลักษณะนี้อย่างจริงจัง เพราะถือได้ว่าได้สร้างความเสียหาย ทั้งด้านความมั่นคง สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ หรือ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง  โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ   นุชนารถ  ผบก.สส.สตม. เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร่วมกับ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิเลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 /หน.ชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. ชุด 3เพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม(Anti-Fake News Center)  กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิดฯ และดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์                   ตาม พ.ร.บ.การพนันพ.ศ.2478 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550และที่แก้ไขเพิ่มเติม     เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ทำการสืบสวน ตรวจค้น 2 จุดจุด 1 กำลังเข้าค้นตามหมายศาลจังหวัดสงขลาที่ 100/2563 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2563 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 386/91 ม.6 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  ซึ่งเป็นเครือข่ายเว็ปไซต์พนันออนไลน์urobet99.net  เปิดทำการนับแต่ พ.ค.63 มีเงินทุนหมุนเวียน 50 ล้าน ผลการตรวจค้น ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน, ชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด พร้อมของกลาง ซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง  คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง สมุดบัญชีจำนวน 8 เล่ม  เงินสด จำนวน 514,600 บาท จากนั้นได้ทำการประสานยื่นขอปิดกั้น เว็บไซต์เครือข่าย urobet99  จุด2 นำกำลังเข้าค้นตามหมายศาลจังหวัดสงขลา ที่ 98/2563 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2563 เข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 297 ถ.นิพันธ์สงเคราะห์ 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาซึ่งเป็นเครือข่ายเว็ปไซต์พนันออนไลน์ imi6g เปิดทำการนับแต่มิ.ย.63 มีเงินทุนหมุนเวียน 200 ล้านบท ผลการตรวจค้น ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน, ชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด พร้อมด้วยของกลาง คือ ซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 7 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 40 เครื่อง  ซิมการ์ด โทรศัพท์ ประมาณ 200 ชิ้น  อุปกรณ์เร้าเตอร์ 7 เครื่อง กระดานไวท์บอร์ดจดชื่อพนักงาน 1 แผ่น ระบุพนักงาน 22 คน และสมุดจดตารางเวรพนักงาน 1 เล่ม ปัจจุบันพบประชาชนและเยาวชนตกเป็นผู้เสียหายจากการเล่นพนันออนไลน์จำนวนมาก จึงขอเตือนประชาชนหรือผู้โพสต์สนับสนุนเชิญชวนเล่นพันนออนไลน์ อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.การพนัน มาตรา 12 ชักชวน หรือโฆษณาให้มีการเล่นการพนัน โดยผิดกฎหมาย – จำคุก 3 เดือน ถึง 3 ปี ปรับ 500- 5,000 บาท

1 11 12 13 14 15 2,829
...