fbpx

JICA ชูไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาเซียน

กทม. 25 ก.ย.63 – องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ร่วมกับ JICA จับมือสานต่อยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้อาเซียน องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO โดยศูนย์วิชาการนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับ Japan International Cooperation Agency หรือ JICA แถลงผลความสำเร็จโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกลุ่มอาเซียน ระยะที่ 3  เตรียมมุ่งสู่การเป็น ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้อาเซียน หรือ Knowledge Hub ที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่รัฐ และเอกชนทั่วภูมิภาค พร้อมสร้างเครือข่ายวิชาการระหว่างประเทศผ่าน 6 หลักสูตรระดับสากลโดยมี 10 ชาติอาเซียน ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมแล้ว 562 ราย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) หรือ TGO กล่าวว่าโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกลุ่มอาเซียน  ได้รับการสนับสนุนจาก JICA  ในการพัฒนาหลักสูตร โดยมีเจ้าหน้าที่ JICA และผู้เชี่ยวชาญได้มาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรที่จะถ่ายทอดให้กับคนในกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้เราได้รับความรู้เข้าใจถึงหลักการเรื่องก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด รวมถึงวิธีการบริหารจัดการต่าง ๆ ในการลดภาวะก๊าซเรือนกระจก ซึ่งในในระยะที่ 3 TGO จะต่อยอดโครงการทำให้เป็นหลักสูตรด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้  รวมถึงยังต้องมีความร่วมมือจากหน่วยงานระหว่างประเทศเข้ามาบูรณาการร่วมด้วยทำให้เกิดความยั่งยืนในการบริหารจัดการของศูนย์CITC ต่อไปในอนาคต

ชวนเลือกสินค้ามีฉลากคาร์บอน ช่วยลดโลกร้อน

กทม. 22 ก.ย. 63 – อบก. รณรงค์ช่วยลดโลกร้อนผ่านการซื้อสินค้าที่มีฉลากคาร์บอน องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ฉลากคาร์บอนแก่ประชาชนผู้บริโภค โดยร่วมกับเทสโก้ โลตัส ซึ่งจะร่วมกันประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ฉลากคาร์บอน แก่ประชาชนผู้บริโภค ให้ประชาชนผู้บริโภครู้จักฉลากคาร์บอน และเห็นความสำคัญของการเลือกซื้อสินค้าที่ติดฉลากคาร์บอน โดย อบก. ได้พัฒนาฉลากคาร์บอน 2 รูปแบบ ได้แก่ ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ CFP และฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ CFR หรือ ฉลากลดโลกร้อน  ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียนที่มีระบบการรับรองสอดคล้องตามหลักสากล สำหรับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เป็นฉลากที่ระบุตัวเลขค่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรชีวิต และการติดฉลากบนตัวสินค้าถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ผลิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าที่ใส่ใจเรื่องโลกร้อน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองกับ  อบก. ทั้งสิ้น 4,237 ผลิตภัณฑ์ จาก 618 บริษัท รวมทั้งหากผู้บริโภคซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากลดโลกร้อน หรือฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ เท่ากับช่วยลดโลกร้อนไปด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองกับ อบก. 674 ผลิตภัณฑ์ จาก 90 บริษัท สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ […]

แก้เผ็ด! ส่งกลับขยะให้นักท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 16 ก.ย. 63 – วราวุธ แก้เผ็ดนักท่องเที่ยวมักง่าย ทิ้งขยะในอุทยานแห่งชาติ สั่งส่งคืนขยะผ่านไปรษณีย์ตรงถึงบ้านคนทิ้ง ย้ำทิ้งขยะในอุทยานแห่งชาติมีความผิดตามกฎหมาย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก TOP Varawut – ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ไม่พอใจการกระทำของนักท่องเที่ยว หลังมีการแจ้งจากพลเมืองดี พบพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีการทิ้งเศษขยะเศษอาหารไว้บริเวณเต็นท์ที่พัก ไม่เก็บไปทิ้งให้ถูกที่ในอุทยานแห่งชาติจัดเตรียมไว้ ส่งผลต่อภาพลักษณ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่และอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าหากกินขยะ เศษพลาสติกเข้าไปอาจถึงตายได้ โดยระบุว่า “…มาเที่ยวอุทยาน มีธรรมชาติให้ชม มีเต็นท์ให้เช่า เราอำนวยความสะดวก ให้ท่านมาแต่ตัว แต่เวลากลับ โปรดอย่ากลับแต่ตัว ขยะที่สร้างไว้ โปรดนำกลับไปทิ้งให้เรียบร้อยด้วย เพราะขยะที่ท่านทิ้งไว้ อาจคร่าชีวิตสัตว์ป่าที่ลงมาหากิน สำหรับกรณีนี้ ผมจะเก็บขยะทุกชิ้นของท่าน ใส่กล่องอย่างดี ส่งไปรษณีย์คืนถึงบ้าน ให้เป็นที่ระลึกครับ…” ขยะที่กองอยู่หน้าเต็นท์ที่พักทั้งหมด เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวบรวมเก็บใส่กล่องพัสดุส่งตรงกลับคืนไปยังนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ซึ่งมีฐานข้อมูลผ่านระบบการจองของสำนักอุทยานแห่งชาติ เป็นตัวอย่างให้กับนักท่องเที่ยวรายอื่นไม่ให้ปฏิบัติผิดกฎกติกาในการท่องเที่ยวพื้นที่อนุรักษ์ เจ้าหน้าที่ยังได้เดินทางลงบันทึกประจำวันกล่าวโทษนักท่องเที่ยวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้อีกด้วย ซึ่งการทิ้งขยะไว้ในเขตอุทยาน เป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. […]

ฟื้นฟูถ้ำนาคา ถูกมือบอนขูดขีดเขียน

บึงกาฬ 14 ก.ย. 63 – กรมทรัพยากรธรณี เริ่มฟื้นฟูถ้ำนาคา จ.บึงกาฬ หลังมีนักท่องเที่ยวมือบอนขีดเขียน ขูดทำลายหินธรรมชาติ จนถูกประกาศปิดรับนักท่องเที่ยว กรมทรัพยากรธรณี ร่วมกับอุทยานแห่งชาติภูลังกา และเครือข่ายภาคประชาชน เริ่มลงมือทำการฟื้นฟู ซ่อมแซมถ้ำนาคา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของไทย ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.บึงกาฬ ซึ่งมีหลายจุดที่โดนนักท่องเที่ยวมือบอนแอบลักลอบขีดเขียนด้วยสีและถ่านไม้ เป็นชื่อหรือตัวอักษรต่างๆ ร้ายแรงที่สุดใช้อุปกรณ์ขูดเซาะร่องหินเป็นคำและตัวอักษร สร้างความเสียหายให้กับหินธรรมชาติอย่างร้ายแรง ทำให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกประกาศปิดอุทยานแห่งชาติภูลังกาเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีมาตรการป้องกัน แก้ไขไม่ให้เกิดการทำลายทรัพยากรของชาติอีก นายทินกร ทาทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 (ขอนแก่น) กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบริเวณถ้ำนาคา จึงวางแผนเข้าแก้ไขฟื้นฟู โดยจุดที่มีการขีดเขียนพบว่าเป็นรอยจากสีและถ่านไม้ แก้ไขโดยใช้น้ำมันสนถูขัดทำความสะอาด สามารถลบร่องรอยของสีออกจนหมด ขณะจุดที่ยากที่สุดคือจุดที่มีการเซาะร่องหิน ต้องใช้เทคนิคเดียวกันกับการฟื้นฟูสภาพของฟอสซิลไดโนเสาร์ นำหินบริเวณถ้ำนาคาซึ่งเป็นหินชนิดเดียวกันบดเป็นผงผสมสารประสาน นำไปอุดร่องหินที่ถูกขูดขีดเซาะทำลาย จนไม่เหลือร่องรอยเดิม และมีสภาพใกล้เคียงกับพื้นผิวหินลักษณะเดิมมากที่สุด จากนั้นจะปล่อยให้กระบวนการทางธรรมชาติฟื้นฟูตัวเองต่อไป ทั้งนี้การทำงาน 2 วันที่ผ่านมา ค่อนข้างลำบากในการเดินทางขึ้นลงเขาไปกลับกว่า 3-4 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้สามารถแก้ไขได้แล้วบางส่วน […]

วราวุธย้ำเสริมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ช่วงหยุดยาว

นครนายก 5 ก.ย.63 – วราวุธ ตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ย้ำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนช่วงเทศกาลวันหยุดยาวชดเชยวันสงกรานต์  ในพื้นที่จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี นครราชสีมา และสระบุรี พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก เพื่อสนับสนุนโครงการพระราชดำริสวนผลไม้ภาคใต้ ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งมีความก้าวหน้า และสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาให้เกษตรพัฒนาการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ยังได้เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 จังหวัดนครนายก ติดตามการดำเนินงานช่วยเหลือสัตว์ป่าและมอบนโยบายเรื่องการป้องกันโรคติดต่อของสัตว์ป่า และการจัดทำระบบลงทะเบียนเข้าเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวการแก้ไขปัญหาช้างป่าพลัดตกน้ำตกเหวนรก โดยยังได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ให้บริการประชาชน ที่น้ำตกสาริกา น้ำตกเหวนรก และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่เรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องไม่สร้างผลกระทบต่อสัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ โดยช่วงวันหยุดยาวนี้อาจมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากกว่าปกติ ให้คำนึงถึงความสะดวกด้านการใช้บริการ ความสะอาดของสถานที่ และความปลอดภัย ซึ่งเจเาหน้าที่ทุกนายมีความพร้อมดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ อีกทั้งได้เตรียมกำลังช่วยเหลือชีวิตนักท่องเที่ยวหากกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินตลอดเวลา อย่างไรก็ตามแนะนำประชาชนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้ทำตามกติกาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องผ่านการคัดกรองวัดไข้นักท่องเที่ยวทุกคน โดยได้เตรียมจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือโดยรอบให้เพียงพอกับความต้องการ ซึ่ฃจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาดได้ นอกจากนี้หากต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทุกแห่งสามารถใช้ระบบการจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ซึ่งจะช่วยกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้เกินปริมาณที่รองรับได้ และไม่เกิดปัญหานักท่องเที่ยวแออัดที่อาจเสี่ยงต่อการติดโรคระบาดได้ สำหรับในวันที่ 6 กันยายน จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค) และอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี เพื่อรับฟังการดำเนินงาน และแนวทางพัฒนาพื้นที่เชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน เป็นการรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ความปลอดภัยจากการมาท่องเที่ยว และได้รับการบริการที่ดีจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว.-สำนักข่าวไทย

ประกวดคลิป Save River คืนน้ำใสให้แม่น้ำ คู คลอง

กรมทรัพยากรน้ำ 3 ก.ย. 63 – กรมทรัพยากรน้ำ จัดประกวดคลิป “Save River คืนน้ำใสให้แม่น้ำ คู คลอง” เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ 2563 หวังช่วยกระตุ้นฟื้นฟูแหล่งน้ำทั่วประเทศ กรมทรัพยากรน้ำ เปิดโครงการประกวดภาพถ่ายวิดีโอ คลิปไวรัล “Save River คืนน้ำใสให้แม่น้ำ คู คลอง” เนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ฟื้นคลองสวย น้ำใส อย่างยั่งยืน” ตรงกับวันที่ 20 กันยายนของทุกปี เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนร่วมมือไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำ คู คลอง ลดละเลิกการใช้พลาสติก ให้แหล่งน้ำกลับมาใส่สะอาดและมีชีวิตอย่างยั่งยืน นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า โครงการประกวดคลิปไวรัล Save River คืนน้ำใสให้แม่น้ำ คู คลอง เปิดโอกาสให้เยาวชนไทย นักเรียนนักศึกษาจากสถาบันการศึกษา […]

กรมอุทยานฯ รำลึกวันสืบ นาคะเสถียร

อุทัยธานี 1 ก.ย.63 – กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร จัดพิธีรำลึก 30 ปี สืบ นาคะเสถียร พร้อมมอบทุนแก่บุตร-ธิดา เจ้าหน้าที่และเครือข่ายอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และเครือข่ายอนุรักษ์ จัดงานรำลึก 30 ปี สืบนาคะเสถียร ในวาระครบรอบ 30 ปี การจากไปของสืบ นาคะเสถียร อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยหาแข้ง ณอนุสรณ์สถานสืบนาคะเสถียร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดนมีนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธาน ทำพิธีวางหรีดรำลึก พร้อมมอบทุน “สืบเจตนารักษ์ป่าห้วยขาแข้ง” แก่ บุตร-ธิดา เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ 1.ทุนบุตรธิดาเจ้าหน้าที่พิกษ์ป่า 2.ทุนเครือข่ายป่าชุมชน 3.ทุนเครือข่ายเฝ้าระวังติดตามแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ จำนวน 70 ทุนทุนละ 3,000 บาท ทั้งนี้การจากไปของสืบ นาคะเสถียร ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคมเป็นอย่างมาก และกลายเป็นการผลักดันให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจผืนป่าและสัตว์ป่า โดยมูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้ถูกก่อตั้งขึ้น โดยนักอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อสานต่อเจตนาอันมุ่งมั่นในการดูแลรักษาผืนป่าและความหลากหลายทางชีวภาพให้ยังคงอยู่ โดยในวันที่ 1 กันยายน ‘วันสืบ นาคะเสถียร’ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ยังได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมรำลึกถึงคุณงามความดี อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นักอนุรักษ์ต้นแบบในความทรงจำ ผ่านกิจกรรมการถ่ายทอดสดงานรำลึก 30 ปี สืบ นาคะเสถียร การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทางเฟซบุ๊กมูลนิธิสืบนาคะเสถียร www.facebook.com/SeubNakhasathienFD/ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.30 น. และกิจกรรมวางดองไม้และจุดเทียนรำลึกในเวลา 18.00 – 21.00 น. ณ ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงเจตรมณ์ร่วมรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ผืนป่า และสัตว์ป่าของไทย.-703

ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์ 360 ตัว

รมว.ทส. เปิดโครงการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ “ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์” ที่ทุ่งกระมัง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ

วช. จับมือ คพ. สู้ปัญหาฝุ่น PM2.5

กทม. 27 ส.ค.63 – สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จับมือ กรมควบคุมมลพิษ ร่วมมือศึกษาวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และเครือข่ายความร่วมมือ ลงนามความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการศึกษาวิจัยด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งงานวิจัยด้านป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และแสดงความมุ่งมั่นที่สนับสนุนแผนงานวิจัย ในชุดโครงการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของประเทศไทย นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมากรุงเทพมหานครและปริมณฑลประสบปัญหาค่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนเกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในชั้นบรรยากาศ ซึ่งประเทศไทยช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี จะประสบปัญหาฝุ่นละอองส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และสุขภาพของประชาชน อีกทั้งยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการวิจัยนวัตกรรมจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะยกระดับมาตรการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบเพื่อให้ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจในการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน สำหรับชุดโครงการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ของประเทศไทยอย่างบูรณาการเชื่อมโยงผลผลิตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล แบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ 1.การประเมินมาตรการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง 2.การประเมินมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ผลกระทบเชิงสุขภาพ คุณภาพชีวิต และเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และ3.การศึกษาเพื่อนำมาตรการไปสู่การปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 นายประลอง ดํารงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะจะทำให้เกิดการรับฟังความเห็นของทั้ง 2 หน่วยงาน มีการประเมินมาตรการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติและอื่นๆ นำมาตรการสู่การปฏิบัติในการป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในระยะต่อไป สิ่งสำคัญเป็นการ เชื่อมโยงข้อมูลทางวิชาการใช้แก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5  บนความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วนงานภาครัฐกับสถาบันการศึกษา 5 แห่ง รวม 4 แผนงาน 8 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เบื้องต้นจะนำร่องศึกษาการพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการแหล่งกำเนิด PM 2.5 ภาคการขนส่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คาดว่า จะเห็นผลภายใน 6 เดือน .-สำนักข่าวไทย

BEDO มอบรางวัลชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว

BEDO 27 ส.ค. 63 – BEDO มอบรางวัลเชิดชูเกียรติชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ให้กับประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO มอบรางวัลเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติชุมชน ในการร่วมดำเนินโครงการชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว เพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ให้กับประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติฯ ณ โรงแรมเดอะมาเจสติกสกลนคร (M.J.) จังหวัดสกลนคร นางจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ กล่าวว่า โครงการชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ทำให้พื้นที่สีเขียวนอกเขตป่าอนุรักษ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชุมชนเครือข่ายยังสามารถใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน สร้างผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าผลผลิตให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยไม่กระทบกับป่าอนุรักษ์ ชุมชนเกิดความมีส่วนร่วมเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติ และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โครงการไม้มีค่า-ป่าครอบครัว มีชุมชนท้องถิ่นร่วมดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 จำนวน 457 ราย มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 4,772 ไร่ ในพื้นที่นำร่อง 2 จังหวัด จังหวัดสกลนคร และ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า BEDO […]

ทส. เตรียมพร้อมรับน้ำหน้าฝน 2563

ราชบุรี 27 ส.ค. 63 – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมรับน้ำในฤดูฝนนี้ หวังบรรเทาน้ำท่วมฤดูน้ำหลาก และได้น้ำเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้ง กรมทรัพยากรน้ำ  ลงพื้นที่ติดตามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำในพื้นที่ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี โครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเขตภัยแล้งและอุทกภัย โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ดำเนินการในพื้นที่ตำบลยางหัก 14 โครงการ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำ การระบายน้ำ และใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตร โดยโครงการทั้งหมดจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ 554 ครัวเรือน นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำ มีแผนดำเนินโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำสาธารณะ ในพื้นที่เกษตรน้ำฝน วางเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ในปีงบประมาณ 2563 อีก 160 ล้านลูกบาศก์เมตร  ประชาชนจะได้ประโยชน์กว่า 75,389 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 186,743 ไร่ ซึ่งได้ขอการสนับสนุนโครงการฯ  ด้วยงบกลาง นำมาพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มอีกจำนวน 35 โครงการ และขอสนับสนุนงบประมาณจากงบเงินกู้ จำนวนกว่า 700 […]

สผ.ส่งเสริมชีวิตวิถีใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม

กทม. 21  ส.ค. 63 – สผ. พร้อมขับเคลื่อน ส่งเสริมการปรับตัวชีวิตวิถีใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยยกระดับการรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดการประชุมวิชาการประจำปี 2563 ในหัวข้อ  ชีวิตวิถีใหม่ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ณ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนผลงานทางวิชาการและ สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมของไทย พร้อมกิจกรรมนิทรรศการด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ที่สร้างประโยชน์ เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลในด้านสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน จากมาตรการต่างๆ ที่ออกมา ทำให้ด้านทรัพยากรธรรมชาติหลายส่วนดีขึ้น แต่ในมุมกลับการอยู่บ้านของประชาชนช่วงกักตัวก็เกิดขยะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่หน่วยงานจะต้องนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้พัฒนารูปแบบแนวทางที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีชีวิตวิถีใหม่ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ต้องมีความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ และการพัฒนา เพื่อไม่ให้วิกฤติต่างๆ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชนในระยะยาวอีก โดยจะสนับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านนางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า 1 ปี ที่ผ่านมา สผ. สามารถผลักดัน […]

1 86 87 88 89 90
...