กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – อธิบดีกรมชลประทานสั่งเฝ้าระวังน้ำหลากเนื่องจากมีฝนตกหนักจากพายุดีเปรสชั่นบริเวณอ่าวเบงกอล ด้าน กอนช. แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง 12 จังหวัดระหว่าง 21-24 มี.ค.นี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลากเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนพายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวเบงกอล คาดว่า จะเคลื่อนเข้าขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเมียนมาในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) ซึ่งจะทำให้มีฝนตกหนักในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ฝั่งตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ซึ่งประเมินว่า มีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 21 – 24 มี.ค. บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง กระบี่ พังงา ตรัง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ทั้งนี้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่คอยติดตามและตรวจสอบอาคารชลประทานให้มีสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม พร้อมทั้งปรับการระบายน้ำให้เหมาะสม รวมถึงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา อีกทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลาก ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำประจำจุดพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศก่อนหน้านี้ว่า ได้ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศ และปริมาณฝนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศแจ้งเตือนพายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวเบงกอลซึ่งกำลังจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเมียนมา แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่จะทำให้ลมที่พัดเข้าหาศูนย์กลางพายุมีกำลังแรงขึ้นและพัดปกคลุมทางด้านตะวันตกของประเทศไทยส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก
กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ บริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ตลอดจนประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้า โดยให้ประชาชนที่คาดว่า จะได้รับผลกระทบเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย