ย้าย “สีดอโหนก” หนักกว่า 7 ตันออกจากชุมชนเขาไม้แก้วกลับป่า

ปราจีนบุรี 23 มี.ค.- กรมอุทยานฯ เคลื่อนย้าย “สีดอโหนก” ออกจากชุมชนเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ปล่อยคืนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา โดยระหว่างปฏิบัติต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากช้างมีขนาดใหญ่ หนักกว่า 7 ตัน ท่ามกลางความสบายใจของชาวบ้านเนื่องจากช้างป่าตัวนี้เคยทำร้ายคนจนเสียชีวิตมาแล้ว


นายวีระ ขุนไชยรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สบอ.1) กล่าวว่า ได้ร่วมกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ.2) สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้วเคลื่อนย้ายช้างป่า “สีดอโหนก” จากชุมชนเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยประชุมวางแผนช่วงเช้า ต่อมายิงยาซึมช่วงเย็น แล้วเคลื่อนย้ายเสร็จสิ้นตอนดึก ทั้งนี้ได้การสนับสนุนรถบรรทุกจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดเนื่องจากช้างตัวใหญ่ รวมเวลาปฏิบัติงาน 11 ชั่วโมงซึ่งภารกิจแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี

นายอำนาจ ม่วงปรางค์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ. กล่าวว่า “สีดอโหนก” สูงถึง 3 เมตร 20 เซนติเมตร หนักถึง 7,200 กิโลกรัม โดยขนาดตัวที่ใหญ่ทำให้มีอีกชื่อหนึ่งว่า “เจ้าสิบล้อ” สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ยิงยาซึมเพื่อควบคุมช้างป่า จากนั้นติด GPS collar พร้อมฝังไมโครชิพและเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมและตรวจโรคทางไวรัสที่สำคัญในช้าง แล้วให้ vitamin e + selenium 100 CC เพื่อป้องกันภาวะช็อคและกล้ามเนื้อถูกทำลาย


ต่อมาเคลื่อนย้ายขึ้นรถบรรทุกเพื่อไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน แล้วปล่อยที่บริเวณทุ่งกระทิงห่างจากตัวที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเข้าไปในป่าลึกประมาณ 16 กิโลเมตร เมื่อถึงที่หมายสัตว์แพทย์ให้ยาแก้ฤทธิ์ยาซึมและสังเกตุอาการ จากนั้นให้ท “สีดอโหนก” ลงจากรถบรรทุก โดยตลอดเวลาเคลื่อนย้าย ช้างป่าอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาและไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด

สำหรับการเคลื่อนย้าย “สีดอโหนก” ออกจากชุมชนเขาไม้แก้วนี้ สร้างความสบายใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมากเนื่องจาก “สีดอโหนก” เคยทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตและวนเวียนหากินในชุมชน จนนายกอบต. เขาไม้แก้วทำหนังสือถึงกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเพื่อขอให้เคลื่อนย้ายคืนสู่ป่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและช้าง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่