กรุงเทพฯ 23 มี.ค. – รมว.ทส. หารือมูลนิธิอมตะ และ ICCF จับมือร่วมพัฒนา “เขาใหญ่” เพื่อยกระดับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สู่ระดับสากล ตามโครงการ “อุทยานพี่อุทยานน้องร่วมแบ่งปันทรัพยากรและองค์ความรู้” และให้ “เขาใหญ่” เป็นต้นแบบในการพัฒนาอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ต่อไป
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) หารือร่วมกับนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะ และผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิ ICCF (International Conservation Caucus Foundation) ถึงการพัฒนาโครงการอุทยานพี่อุทยานน้องร่วมแบ่งปันทรัพยากรและองค์ความรู้ หรือ SPARK (Sister Parks Arrangement for Resources and Knowledge Sharing) เพื่อยกระดับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สู่ระดับสากล (World Class) และเป็นต้นแบบให้กับอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ในประเทศไทยและภูมิภาคต่อไป โดยมีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมหารือและรับฟังข้อเสนอแนะด้วย
นายวราวุธ กล่าวว่า การถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ตามโครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย พร้อมทั้งย้ำถึงเจตนารมณ์ของประเทศไทย ที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวถ้อยแถลงไว้ในที่ประชุม COP26 ว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งการจะบรรลุสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านการเงิน การถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนให้ประเทศไทยไปสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน
โครงการอุทยานพี่อุทยานน้องร่วมแบ่งปันทรัพยากรและองค์ความรู้ (Sister Parks Arrangement for Resources and Knowledge Sharing : SPARK) ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ Great Smoky Mountains National Park ที่ผ่านมา มีคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติจากสหรัฐอเมริกา มาช่วยศึกษาระบบการบริหารจัดการอุทยานฯ และกำหนดแนวทางปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกับ Great Smoky Mountains โดยได้ดำเนินการที่สำคัญคือ การจัดฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ การพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระบบจัดการน้ำเสีย ระบบการจองที่พัก ขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว การดูแลสัตว์ป่า การท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อพัฒนาชุมชน อาสาสมัคร การพัฒนาเว็บไซต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งไทย-สหรัฐอเมริกา ไทย-สวิตเซอร์แลนด์ และไทย-เยอรมนี.-สำนักข่าวไทย