เริ่มการขนย้ายแคดเมียม ภายใต้การควบคุม

เริ่มการขนย้ายกากแคดเมียม 150 ตัน ย่านบางซื่อ ก่อนไปสมทบกันที่ จ.สมุทรสาคร นำไปฝังกลบที่ จ.ตาก ในช่วง 3 ทุ่ม คืนนี้ (29 เม.ย.) ด้าน รมว.อุตสาหกรรม ย้ำทุกขั้นตอนมีความปลอดภัยสูงสุด

กรมชลฯ เฝ้าระวังพื้นที่เกษตร ปลายฤดูแล้ง

กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – รมว. เกษตรฯ กำชับกรมชลประทานช่วยเหลือพื้นที่เกษตรช่วงปลายฤดูแล้ง ย้ำผลผลิตต้องไม่เสียหาย น้ำอุปโภคบริโภคต้องเพียงพอ วอนอย่าทำนาปรังรอบ 2 ส่วนการปลูกข้าวนาปีใน 11 พื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มเจ้าพระยาจะเริ่มเพราะปลูกได้ 1 พ.ค. แต่พื้นที่ดอนขอให้รอน้ำฝนเป็นหลัก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำช่วงปลายฤดูแล้งตามแผนที่วางไว้ โดยพื้นที่เพาะปลูกต้องไม่เสียหาย พร้อมให้ระดมเครื่องจักรเครื่องมือเช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องกำจัดวัชพืช รถบรรทุกน้ำ เป็นต้น ประจำทุกพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้พร้อมแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและเกษตรกร ที่สำคัญคือ น้ำอุปโภคบริโภคต้องจัดสรรให้อย่างเพียงพอ ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการทำฝนควบคู่ไปด้วย มั่นใจว่า ผลผลิตทางการเกษตรในฤดูแล้งไม่ลดลง ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทานระบุว่า ฤดูแล้งตามแผนบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายนนี้ จากนั้นจะเป็นการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝน ยืนยันว่า น้ำต้นทุนทั่วประเทศมีเพียงพอ รวมถึงในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาและอีอีซีด้วย โดยขณะนี้ได้สำรองน้ำไว้ หากเกิดฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ทั้งนี้สำนักงานชลประทานทุกพื้นที่ โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยาได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรไม่ทำนาปรังรอบ 2 เนื่องจากพบว่า เกษตรกรต้องการปลูกข้าวหลายรอบเพราะข้าวราคาดี แต่กรมชลประทานได้ลดปริมาณการส่งน้ำลงในพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังหมดแล้ว ดังนั้นนาปรังรอบที่ 2 จึงเสี่ยงที่จะเสียหายจากภัยแล้ง นอกจากนี้เกษตรกรที่ทำนาปรังรอบ […]

คพ.ติดตามการขนย้าย​กากแคดเมียม​ใกล้​ชิด​ เฝ้า​ระวัง​สิ่งแวดล้อม​

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุ​จัดชุดติดตามการขนย้ายกากแคดเมียมตลอดเส้นทาง​ ทั้งยังจะตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อม​หลังการขนย้าย​ พร้อมร่วมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดสแกนโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายทั่วประเทศ

สทนช. เผยภัยแล้งไม่ขยายวงกว้าง ประกาศเขตภัยพิบัติ 4 จังหวัด

เลขาธิการ สทนช. ระบุภัยแล้งปี 67 ถือว่าไม่ขยายวงกว้าง โดยมีพื้นที่ที่ประกาศเขตภัยพิบัติแล้งเพียง 4 จังหวัด ส่วนสถานการณ์น้ำภาคตะวันออก ได้ประสานงานในการระบายน้ำให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น

คพ. ชี้ไอระเหยสารเคมี “วินโพรเสส” ลดลงต่อเนื่อง

ระยอง 29 เม.ย. – คพ. เผยผลตรวจสอบไอระเหยของสารเคมีโรงงานวินโพรเสส พบชนิดและปริมาณที่ตรวจลดลงต่อเนื่อง แต่บางจุดยังอยู่ในระดับก่อการระคายเคือง ที่อาคาร 3 พบค่าแอมโมเนียอยู่ในระดับอันตราย ตำรวจ พฐ. ต้องรออีก 2 สัปดาห์จึงจะเข้าเก็บหลักฐานได้ พร้อมปรับแผนลดการปะทุของกากอลูมิเนียม กรมควบคุมมลพิษเข้าตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยคุณภาพอากาศในพื้นที่เพลิงไหม้โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายของบริษัท วินโพรเสส จำกัด จังหวัดระยองให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยองก่อนเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่า ค่าแอมโมเนียอยู่ที่ 1 – 7 ppm ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ยกเว้นอาคาร 3 ยังอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยองจึงมีแผนจะเข้าตรวจสอบที่อาคาร 3 ในอีก 2 สัปดาห์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงตรวจพบไอระเหยสารเคมีบริเวณกองกากของเสียที่ถูกไฟไหม้เดิมจึงปรับแผนการควบคุมสถานการณ์ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองนำโซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) มาปิดทับกองกากเพื่อดูดซับความชื้นจากกองกากอลูมิเนียมและลดปฏิกิริยาเคมีและป้องกันการปะทุของกองกากอลูมิเนียม ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ บริเวณรอบโรงงานในพื้นที่ชุมชน 13 จุด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางบุตร ตำบลหนองบัว บริเวณด้านท้ายลม 3 รอบได้แก่ เวลา 6.30 – 9.00 […]

“พิมพ์ภัทรา” เดือด! สารเคมีโรงงานอยุธยารั่ว 3 ครั้งติด

“พิมพ์ภัทรา” เดือด หลังสารเคมีโรงงานที่อยุธยารั่ว 3 ครั้งติดต่อกัน จี้อธิบดีกรมโรงงานฯ เร่งแก้ปัญหา อย่าให้เกิดขึ้นอีก หวั่นประชาชนหวาดผวา กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวทั้งประเทศ

จับลิงเขาวังรอบสอง 205 ตัว แก้ปัญหาลิงล้นเมือง

เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการรอบ 2 จับลิงแสม บริเวณเขาวัง อ.เมืองเพชรบุรี ไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ เพื่อแก้ไขปัญหาลิงล้นเมือง

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่

ประกาศปิดขสป. เชียงดาว เหตุแห้งแล้ง-ถูกบุกรุก-ไฟป่ารุนแรง

เชียงใหม่ 26 เม.ย. – อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ออกประกาศปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่เนื่องจากประสบปัญหาสภาพอากาศแห้งแล้งต่อเนื่อง ถูกบุกรุกพื้นที่ และมีการลักลอบบุกรุกเผาป่า ทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงเป็นวงกว้าง จึงต้องปิดป่าอย่างไม่กำหนดเพื่อแก้ปัญหา รวมถึงสามารถจัดระเบียบที่พักและโฮมสเตย์ได้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้ลงนามในประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเรื่อง ปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่เนื่องจากประสบปัญหาสภาพอากาศแห้งแล้งต่อเนื่องและมีการลักลอบบุกรุกเผาป่า ทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงเป็นวงกว้าง พื้นที่ป่าและสัตว์ป่าถูกทำลาย ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า รวมถึงพรรณไม้มีค่าหายากของพื้นที่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและหยุดยั้งปัญหาที่เกิดขึ้น มิให้เกิดความเสียหายต่อความสมบูรณ์และความหลากหลายด้านทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่สงวนชีวมณฑลดอยเชียงดาวต่อไป จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โดยห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โดยมิได้รับอนุญาต ยกเว้นผู้ที่อยู่อาศัยหรือทำกินที่ได้มีการสำรวจการถือครองที่ดินไว้ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 การปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวตามประกาศนี้ เป็นการปิดอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะแก้ไขปัญหาลักลอบเผาป่า บุกรุกป่า และล่าสัตว์ ตลอดจนจัดระเบียบที่พักและโฮมสเตย์ได้ ให้มีการควบคุมการเข้าออกอย่างเหมาะสมเพื่อให้สภาพทางธรรมชาติได้ฟื้นฟูระบบนิเวศและพักฟื้นตัวจากความเสียหายต่อไป นอกจากนี้ยังแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหา 3 ด้านได้แก่

เริ่มขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมกลับ จ.ตาก 29 เม.ย.นี้

ก.อุตสาหกรรม จะขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมกลับโรงงานต้นทาง จ.ตาก วันที่ 29 เม.ย.นี้ ขณะนี้ตรวจนับปริมาณกากตะกอนแร่ที่อายัดไว้ จ.สมุทรสาคร ได้แล้ว 95% คาดแล้วเสร็จพรุ่งนี้ จากนั้นจะจำลองการขนย้ายก่อนดำเนินการจริง

คพ. ย้ำโรงน้ำแข็งหมั่นตรวจสอบแอมโมเนียรั่วไหล

กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – กรมควบคุมมลพิษเตือนโรงน้ำแข็งทุกแห่งระวังแอมโมเนียซึ่งใช้เป็นสารทำความเย็นรั่วไหล พร้อมแนะวิธีการจัดการเมื่อแอมโมเนียรั่วไหลเพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัส กรณีได้รับในความเข้มข้นสูง อาจเกิดความเป็นพิษเฉียบพลัน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) แจ้งเตือนโรงงานน้ำแข็งทุกแห่งให้เฝ้าระวังและป้องกันการรั่วไหลของแอมโมเนียที่ใช้เป็นสารทำความเย็น ในช่วงฤดูร้อน ความต้องการใช้น้ำแข็งเพิ่มขึ้น อาจเกิดการชำรุดของอุปกรณ์ทำความเย็นและเกิดการรั่วไหลของแอมโมเนีย แอมโมเนีย (Ammonia) เป็นก๊าซไม่มีสี มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว สามารถละลายน้ำและระเหยได้ ติดไฟได้ มีฤทธิ์เป็นด่าง แอมโมเนียถูกใช้เป็นสารทำความเย็นในโรงงานน้ำแข็งและห้องเย็น เนื่องจากราคาถูก ขนส่งและใช้งานง่าย ค่าใช้จ่ายในการจัดการถูกกว่าสารทำความเย็นชนิดอื่น ไม่ทำลายโอโซนในชั้นบบรรยากาศ ไม่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน การรั่วไหลของแอมโมเนียเกิดจากความบกพร่อง ชำรุดของอุปกรณ์เช่น รอยรั่วของท่อส่งก๊าซ วาล์ว หรือเกิดระหว่างการบำรุงรักษาระบบเนื่องจากแอมโมเนียสามารถรวมตัวกับน้ำและความชื้น เกิดเป็นแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ (Ammonium hydroxide) ซึ่งมีความเป็นด่างสูง สามารถกัดกร่อนระบบ ทำให้เกิดรอยรั่ว หรือจากการจัดเก็บภาชนะบรรจุแอมโมเนียไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการรั่วไหล เมื่อเกิดการรั่วไหล ต้องป้องกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากการสัมผัสแอมโมเนีย ใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำเป็นฝอยเพื่อจับไอของแอมโมเนีย มีการตรวจวัดความเข้มข้นของแอมโมเนียทั้งบริเวณที่มีการรั่วไหลและบริเวณรอบข้าง ป้องกันไม่ให้แอมโมเนียในรูปของเหลวหรือน้ำเสียที่เกิดจากการระงับเหตุลงสู่แหล่งน้ำ และมีระบบในการจัดการน้ำเสียที่ปนเปื้อนแอมโมเนีย หลังจากนั้น ให้ตรวจสอบระบบที่มีการรั่วไหลของแอมโมเนียเช่น สภาพของท่อส่งก๊าซและวาล์ว พร้อมทั้งดำเนินการแก้ไข และต้องมีการจัดทำแผนการใช้งานและซ่อมบำรุงเครื่องจักร แผนระงับเหตุฉุกเฉิน ระบบการควบคุมและการบำบัดมลพิษ ผลกระทบต่อสุขภาพของแอมโมเนีย […]

กรมโรงงานฯ เตรียมแผนกำจัดและบำบัดกากของเสีย “วินโพรเสส”

ระยอง 26 เม.ย. – กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับตำรวจตรวจสอบสาเหตุไฟไหม้โกดังโรงงานวินโพรเสส จ. ระยอง หากพบเป็นการวางเพลิงจะแจ้งความดำเนินคดี ชี้เหตุคล้ายการลอบเผากากอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายที่โกดังภาชี จ. พระนครศรีอยุธยา อีกทั้งจะส่งหนังสือให้เจ้าของทรัพย์ร่วมกันรับผิดชอบขนย้ายของเสียจากเหตุเพลิงไหม้ไปกำจัดและบำบัด นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมกล่าวว่า จากการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายอำเภอบ้านค่าย เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโกดังของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองที่เหตุเพลิงไหม้ซึ่งวานนี้ยังพบจุดที่ยังมีเปลวไฟและกลุ่มควันลอยออกมาจากภายในบริเวณอาคาร กรมโรงงานอุตสาหกรรมพร้อมให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลกับผู้อำนวยการควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินในการควบคุมสถานการณ์ นอกจากนี้จะร่วมกับกรมควบคุมมลพิษตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ โดยได้จัดส่งรถ Mobile ตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบโรงงานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้และในบริเวณชุมชน ตลอดจนมอบหมายให้กองวิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานและศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออกลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำและดินภายในโรงงานเพื่อตรวจวัดค่าการปนเปื้อน รวมถึงกากของเสียจากเหตุไฟไหม้ ขณะนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมตรวจสอบและสนับสนุนข้อมูลให้แก่สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ หากพบเป็นการวางเพลิงจะร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาวางเพลิงเพื่อทำลายของกลางในคดี พร้อมกับหาความเชื่อมโยงกับเหตุการลักลอบเผากากอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายที่โกดังในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน พร้อมกันนี้จะเร่งสำรวจปริมาณของเสียจากเหตุเพลิงไหม้ รวมถึงปริมาณของเสียที่คงค้างที่ยังไม่ถูกไฟไหม้เพื่อประเมินแนวทางการกำจัดและงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินการ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะแถลงต่อศาลจังหวัดระยองเพื่อขอเบิกเงินส่วนที่เหลือจากที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด เคยวางศาลไว้ซึ่งเหลืออยู่ประมาณ 5 ล้านบาทซึ่งนำมาใช้จัดการของเสียเป็นกรณีเร่งด่วน นอกจากนี้จะมีหนังสือให้ บริษัท วินโพรเสส จำกัดและบริษัท […]

1 31 32 33 34 35 122
...