เศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 11 พ.ค.-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมิน กรณีรัฐบาลเตรียมปลดล็อกธุรกิจภาคเอกชน ให้สามารถดำเนินกิจการได้เพิ่ม จะหนุนเศรษฐกิจฟื้น 2 แสนล้านต่อเดือน   นายธนวรรธน์  พลวิชัย  อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนเมษายน 2563  อยู่ในระดับ 32.1 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีปัจจัยหลัก มาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่หลังจากนี้ รัฐบาลจะต้องเร่งมาตรการผ่อนปรนการเปิดกิจการ และมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อให้ภาคธุรกิจกลับมามีกระแสเงินสด ให้มากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภคด้วยการเร่งโอนเงินเยียวประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกกลุ่มอย่างทั้วถึง ดูแลการเข้าถึงของเอสเอ็มอีให้มากขึ้น เพราะในช่วงการฟื้นธุรกิจเช่นนี้  ผู้ประกอบการจำเป็นที่ต้องเข้าถึงในด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกันมากขึ้น โดยทางหอการค้าประเมินช่วงเริ่มปลดล็อกมาตรการล็อกดาวน์  เฟสแรก คือ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา น่าจะมีเงินสะพัด 90,000 ล้านบาทต่อเดือน และหากปลดล็อกดาวน์เฟส 2 คือ กลางเดือนพฤษภาคม ใน 6 ธุรกิจ เงินสะพัดจะเพิ่มเป็น 130,000-150,000 ล้านบาทเดือน และหากรัฐบาลพิจารณาปลดล็อกดาวน์เฟส 3 ในกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า ครบทุกส่วน ในเดือนมิถุนายน […]

กรุงเทพฯ 11 พ.ค.- อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ยืนยันปีนี้คนไทยมีน้ำตาลเพื่อบริโภคอย่างเพียงพอ มุ่งช่วยเหลือชาวไร่อ้อยเต็มที่ แม้เผชิญปัญหาภัยแล้งรุนแรงมากที่สุดในรอบ 40 ปี    นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) เปิดเผยว่า ปีนี้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลเผชิญปัญหาภัยแล้งรุนแรงมากที่สุดในรอบ 40 ปี  แต่ยืนยันว่า คนไทยจะมีน้ำตาลที่เพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ จะไม่เกิดปัญหาคลาดแคลนอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้งโรงงาน ชาวไร่อ้อยและภาครัฐ ได้ร่วมมือกันเพื่อบริหารจัดการน้ำตาลภายในประเทศให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงมีส่วนเหลือที่สามารถส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า เพื่อรักษาสถานะประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก   นายสิริวุทธิ์ กล่าวว่า เพื่อรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่ต้องเผชิญต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  กลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ได้วางแผนบริหารจัดการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยเร่งจัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไร่เข้าไปช่วยเหลือชาวไร่คู่สัญญาเตรียมพื้นที่เพาะปลูกและสนับสนุนจัดหาแหล่งน้ำให้มีเพียงพอ เพื่อลดความเสียหายจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด และเตรียมความพร้อมด้านเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานในการหีบสกัดน้ำตาลต่อตันอ้อยในรอบการผลิตใหม่ให้ได้สูงสุดเพื่อให้ชาวไร่มีรายได้จากการเพาะปลูกอ้อยเพิ่มขึ้น รวมทั้งวางมาตรการส่งเสริมการตัดอ้อยสดและสะอาดส่งเข้าหีบ ซึ่งจะช่วยให้การหีบสกัดน้ำตาลต่อตันอ้อยให้ได้มากที่สุด และเกิดประโยชน์แก่ชาวไร่ที่จะมีรายได้จากการเพาะปลูกอ้อยสูงขึ้น    “ปีที่ผ่านมา หรือฤดูกาลผลิตอ้อยปี 2562/2563 ภัยทำให้ปริมาณอ้อยเข้าหีบลดลงเหลือ 74.89 ล้านตันอ้อยและผลิตน้ำตาลได้ 8.27 ล้านตั ปีนี้น่าเป็นห่วงว่าจะลดลงอีก […]

กรุงเทพฯ 11พ.ค..- กระทรวงพลังงาน พร้อมพิจารณาข้อเสนอลดสำรองน้ำมันเพิ่มหลังโรงกลั่นขาดทุนหลายหมื่นล้านบาท   นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากยอดใช้น้ำมันลดลงร้อยละ 30จากล็อกดาวน์ ร่วมมือหยุดเชื้ออยู่บ้าน เพื่อลดการระบาดของ โควิด-19 จากผลของเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มโรงกลั่นน้ำมันจะเสนอให้ลดสำรองน้ำมันเพิ่มเติมจากที่ปีนี้ลดเหลือร้อยละ4  ส่วนปั๊มน้ำมันต้องการให้ลดชนิดน้ำมัน ซึ่งผลกระทบยังหนักจากการขาดทุนสตอกน้ำมันหลายหมื่นล้านบาท ทางกระทรวงฯก็จะติดตามสถานการณ์​ว่าได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ซึ่งล่าสุด ทราบว่าหลังเริ่มคลายล็อกดาวน์​ยอดใช้น้ำมันได้เพิ่มกลับมาบ้าง   นายสนธิ​รัตน์​ยังกล่าวถึง​ข้อเสนอแนะของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ที่เป็นห่วงผลกระทบมาตรการเยียวยาค่าไฟฟ้าให้กับกลุ่มบ้านอยู่อาศัย 3 เดือน(มี.ค.-พ.ค.)ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 22 ล้านราย วงเงิน 23,668 ล้านบาท โดยขอให้พิจารณาเรื่องเงินที่ช่วยเหลือดังกล่าวต้องไม่ส่งผลกระทบค่า FT ในอนาคต พร้อมเสนอให้หักเงินช่วยเหลือส่วนนี้จากรายได้ของ 3 การไฟฟ้าแทนที่จะนำส่งกระทวงการคลังนั้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ที่จะพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม.- สำนักข่าวไทย

กรุงเทพฯ 11 พ.ค.-กลุ่ม ปตท.คาดผลดำเนินการจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง  หลังไตรมาส1/63 พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท บอร์ด สั่งทบทวนลงทุนเน้นขายในประเทศ หลังเจอบทเรียนโควิด-19   นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส1และ2ปีนี้ ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 กระทบหนักต่อการขาดทุนสตอกของธุรกิจโรงกลั่น ปิโตรเคมีและน้ำมันของกลุ่ม ปตท.เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควบคุมไม้ได้เพราะเป็นไปในรูปแบบเดียวกันทั่วโลก แต่คาดว่าไตรมาส3และ4จะดีขึ้น ตามทิศทางราคาผลิตภัณฑ์​ที่ดีขึ้นโดยราคาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าในไตรมาส3/63 ได้เริ่มขยับขึ้นเป็นถึง 30เหรียญสหรัฐ​/บาร์เรล และคาดว่าราคาน้ำมันดิบปีนี้จะ เฉลี่ยราว40-50 ดอลลาร์สหรัฐ​/บาร์เรล   ทั้งนี้ นโยบายของกลุ่ม ปตท.ที่ทำมาตลอดคือประเมินความเสี่ยงทุกระยะ ลดต้นทุนค่าดำเนินการ โครงการใหม่ๆก็เลื่อนไปก่อน ล่าสุด ได้มีการเสนอตัดงบดำเนินงานหลายพันบาทต่อบอร์ด ปตท.30เม.ย. แต่บอร์ด​ยังไม่อนุมัติให้ทบทวนอีกรอบ โดยให้นโยบายทบทวนการลงทุนที่ไม่เน้นการส่งออก เพราะช่วงโควิด-19นี้ เห็นชัดเจนว่า ไม่สามารถส่งออกได้ เพราะความต้องการตลาดโลกหดตัว ต้องลดกำลังกลั่น น้ำมันเครื่องบินขายไม่ได้ต้องปรับไปเป็นดีเซลหรือ ปิโตรเคมี โดย ซีอีโอ คนใหม่ คือนายอรรถพล […]

นนทบุรี 11 พ.ค.-ปลัดพาณิชย์แนะเจ้าทุกข์อย่าปล่อยวางควรแจ้งความ  กรณีมิจฉาชีพหลอกขายทุเรียน โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมประสานงานหากได้รับการร้องเรียนมา   นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่ากรณีมีข่าวกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกขายทุเรียนราคาถูกแต่ไม่มีสินค้าส่งจริง โดยใช้ชื่อบัญชีและบัตรประชาชนและสมุดบัญชีคนอื่นๆนั้น ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวถ้าเป็นการกระทำโดยหลอกล่วงก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญาฉ่อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษค่อนข้างรุนแรงอยู่แล้ว และหากเป็นการกระทำผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก็เข้าข่ายกระทำผิดทางกฎหมายด้านคอมพิวเตอร์อีก ซึ่งถือว่ามีโทษกระผิดต่างกรรมต่างวาระทั้งสิ้น ดังนั้น การกระทำผิดใดที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญอยู่ที่ทางผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือถูกหลอกจะต้องมาดำเนินการแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลจะได้รวบรวมข้อมูลการกระทำผิดดังกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างจริงจัง   อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมาผู้ที่ถูกกระทำมักจะไม่ค่อยแจ้งความดำเนินคดี เพราะเห็นว่าใช้เวลานานและเสียเวลาฟ้องร้อง ทำให้ส่วนราชการไม่มีข้อมูลและหลักฐานที่จะเอาผิดต่อผู้กระทำความผิด ดังนั้น สิ่งที่จะจัดการต่อผู้กระทำผิดได้อยู่ที่ผู้ถูกกระทำจะต้องมาแจ้งความดำเนินคดีเพื่อให้เจ้าพนักงานมีข้อมูลและหลักฐานที่จะดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งการกระทำหลอกล่วงมีโทษทางกฎหมายอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อได้รับการร้องเรียนเข้ามาจะส่งเรื่องต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามกฎหมายทันที ซึ่งในปัจจุบันช่องทางการร้องเรียนของแต่ละหน่วยงานเปิดให้บริการเต็มที จึงอยากให้ผู้ที่ถูกหลอกลวงแจ้งความดำเนินคดีมากกว่าจะปล่อยให้เรื่องเงียบไป.-สำนักข่าวไทย