กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – รมว.เกษตรฯ เตรียมเสนอประกาศกระทรวงเกษตรฯ ยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมเลี้ยงหอยทะเลและสัตว์น้ำในกระชังทั่วประเทศเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พร้อมย้ำชาวประมงเร่งตรวจสอบสิทธิ์รับเงินเยียวยาตามสถานะของทะเบียนเกษตรกรทั้งทางออนไลน์และสำนักงานประมง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มอบหมายให้กรมประมงหาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเลและสัตว์น้ำในกระชังทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเกษตรกรกว่า 40 จังหวัดแจ้งความเดือดร้อนว่ารายได้ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะนี้ถึงรอบต่อใบอนุญาตเพาะเลี้ยงปี 2563 – 2565 ทั้งนี้ อธิบดีกรมประมงได้เสนอแนวทางแก้กฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทุกชนิด ทั้งการเพาะเลี้ยงหอยทะเล การเลี้ยงปลาในกระชัง และสัตว์น้ำอื่น ๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกร เมื่อกรมประมงจัดทำ (ร่าง) กฎกระทรวงฯ เสร็จจะนำเสนอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และส่งร่างให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและประกาศใช้ต่อไป
นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งที่ประชุมมีมติเสนอให้ออกกฎกระทรวงฯ ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทุกชนิด โดยให้สิทธิ์ 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ ใน 1 รอบใบอนุญาตเพาะเลี้ยง ทั้งนี้ จังหวัดไหนที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมไปแล้วจะยกเว้นให้ในรอบใบอนุญาตเพาะเลี้ยงถัดไป ส่วนระหว่างการเสนอแก้กฎกระทรวงฯ ให้ดำเนินการขอใบอนุญาตฯ ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เพื่อรักษาสิทธิ์ของเกษตรกร ซึ่งกรณีดังกล่าวกรมประมงจะเร่งดำเนินการเสนอ (ร่าง) กฎกระทรวงฯ ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
นายมีศักดิ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของกรมประมงระยะที่ 1 ว่า มีเกษตรกร 530,710 ราย ได้รับสิทธิ์ ได้แก่ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลา กบ และสัตว์น้ำชนิดอื่น (ทบ.1) เกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณะของแผ่นดินเช่น เลี้ยงปลาในกระชัง เลี้ยงหอยในทะเล เกษตรกรผู้จดแจ้งการเลี้ยงกุ้งทะเล และ เกษตรกรผู้ขึ้นทะเบียนชาวประมง (ทบ.3) ได้แก่ เจ้าของเรือประมงพื้นบ้าน ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมง ทะเบียนชาวประมง (ภาคสมัครใจ) ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบให้กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ในกรณีเกษตรกรมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส.สามารถใช้บัญชีเงินฝากตามเดิมได้ โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่ ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งบัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารใดก็ได้ผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com
ส่วนการช่วยเหลือระยะที่ 2 จะเป็นการช่วยเหลือในส่วนของผู้ทำการประมงพื้นบ้านและแรงงานไทยในเรือประมงพื้นบ้าน ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่อยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนกรมประมงแต่ทะเบียนหมดอายุ ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่อยู่ระหว่างการยื่นต่ออายุและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์ รวมถึงเกษตรกรรายใหม่ที่จะขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จึงฝากเน้นย้ำให้ผู้ที่มีความประสงค์จะขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมประมง โดยเฉพาะผู้ทำการประมงพื้นบ้านและแรงงานไทยในเรือประมงพื้นบ้าน รีบตรวจสอบสิทธิ์ ในเว็บไซต์ https://smartfarmer.fisheries.go.th/fisherman/index.php และติดต่อขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประมงจังหวัด หรือ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 0-2104-9444 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Line : @dofhelpdesk.-สำนักข่าวไทย