“ทิ้งแมสก์ให้ถูกถังกันเถอะ!”
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับวันก็ยิ่งขยายเป็นวงกว้าง เราอยู่กับเจ้าไวรัสตัวร้ายนี่มานานปีกว่าแล้ว หน้ากากอนามัยกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้ ยิ่งปัจจุบัน หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง หาซื้อได้ง่ายกว่าช่วงแรกของการแพร่ระบาดมากนัก ทำให้คนหันมาใช้หน้ากากแบบนี้มากขึ้น ทั้งด้วยประสิทธิภาพของการป้องกันไวรัส และความสะดวกสบายที่ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้ง ไม่ต้องซักตากเหมือนหน้ากากผ้าทั่วไป.แต่รู้หรือไม่ว่า เจ้าหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วนี่แหละ ที่เรานับกันว่าเป็นขยะติดเชื้อ ต่างจากขยะมูลฝอยทั่วๆไป เพราะมิอาจรู้ได้เลยว่า เจ้าของหน้ากากชิ้นใดที่ติดเชื้อมาแล้ว ดังนั้น ก่อนจะทิ้งหน้ากากลงถังขยะ ต้องพับเก็บให้ดี พับด้านที่สัมผัสปากและจมูกของเราไว้ด้านใน ใช้ห่วงที่เกี่ยวหูนำมามัดพันให้เรียบร้อย แล้วนำลงทิ้งในถังขยะอันตราย ถังขยะติดเชื้อ หรือที่เรียกกันว่า “ถังขยะสีส้ม” เท่านั้น เพราะกระบวนการกำจัดขยะติดเชื้อ ย่อมต่างจากขยะทั่วไปแน่นอน.แม้ว่าล่าสุด กทม.จะจัดวางถังขยะส้มสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้ว กว่า 1,000 จุด แต่ก็ยังมีเสียงจากประชาชนบางส่วนที่สะท้อนว่า ยังพบเห็นตามที่สาธารณะไม่มากนัก ทำให้ยังต้องทิ้งหน้ากากอนามัยลงถังขยะธรรมดา ส่วนใหญ่จะเห็นถังขยะสีส้มตามอาคารสำนักงานหรือหน่วยงานเสียเป็นส่วนใหญ่.เสียงบอกเล่า ยังสะท้อนอีกว่า นอกจากจะขอให้เพิ่มเจ้าถังขยะสีส้มๆให้กระจายตามจุดสาธารณะมากขึ้นแล้ว ก็ขอให้พวกเราทุกคนทิ้งขยะให้ถูกถัง เพราะยังพบว่า หลายคนยังนำขยะมูลฝอยทั่วไปทิ้งลงในถังขยะสีส้มอยู่ ซึ่งก็จะยิ่งทำให้การกำจัดขยะติดเชื้อเป็นไปได้ยากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่เก็บขยะอีกด้วย เพราะพวกเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่า หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วจะอยู่ในถังขยะใดบ้าง ดังนั้น หากพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกถัง ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ประเทศไทยลดความเสี่ยงของโรคได้อีกทาง.ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิชเรื่อง สุธิดา ปล้องพุดซา “ทิ้งแมสก์ให้ถูกถังกันเถอะ!” . การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 […]