อำลากระทรวงอุตฯ ฝากข้าราชการสานงานต่อ

“เอกนัฏ” อำลากระทรวงอุตสาหกรรม มั่นใจภารกิจ “สู้ เซฟ สร้าง ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย” เห็นผลเป็นรูปธรรม บอก 1 ปีที่ผ่านมาได้สร้างผลงาน สร้างค่านิยมที่ดีแก่กระทรวงฯ ชี้เป็นประสบการณ์ทำงานที่ดีที่สุดในชีวิต มั่นใจว่าจะได้กลับมา กระทรวงอุตสาหกรรม จัดพิธีอำลาตำแหน่งให้กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทีมงาน โดยนายเอกนัฏ ได้กล่าวขอบคุณข้าราชการที่ทำงานร่วมกันมา 1 ปีเต็ม หลังตนเองเข้ารับตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 มั่นใจภารกิจ “สู้ เซฟ สร้าง” ช่วยแก้ปัญหาให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นทุนเทา ทุนศูนย์เหรียญ อุตสาหกรรมเถื่อน ที่ทำลายชีวิต ทำลายสิ่งแวดล้อม และได้เห็นปัญหากติกาที่ไม่เป็นธรรม การลักลอบดัมพ์ของสินค้าไร้คุณภาพเข้าไทย สร้างผลกระทบเศรษฐกิจประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถแข่งขันได้ รวมถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ไม่ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นเป็นเวลากว่า 20-30 ปี ซึ่งเมื่อสถานการณ์โลกเปลี่ยนก็ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น 1 ปีที่ผ่านมา ภารกิจ สู้ เซฟ สร้าง ทำให้สังคม ประชาชน […]

กินข้าวกับสื่อ-พาชมห้องทำงาน อำลาตำแหน่ง มท.1

บรรยากาศการทำงานวันสุดท้ายที่กระทรวงมหาดไทยของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วงบ่ายได้ลงมาที่ห้องสื่อมวลชนประจำกระทรวงมหาดไทย เพื่อพูดคุยและร่วมรับประทานอาหารว่างกับสื่อมวลชน โดยพูดถึงสถานการณ์การเมืองทั่วไป พร้อมเปิดใจถึงการการทำงานทางการเมืองหลังจากที่พ้นจากตำแหน่ง จากนั้น นายภูมิธรรม ได้นำสื่อมวลชนเข้าชมห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมเปิดเผยว่า ไม่ได้มีของอะไรมากมาย เพราะตนเองเป็นรัฐมนตรีที่มีความเรียบง่าย อีกทั้งได้ทยอยเก็บของใช้ส่วนตัวออกจากกระทรวงไปบ้างแล้ว นายภูมิธรรม ได้พูดคุยและตอบคำถามสื่อมวลชน ว่า อยากกลับมานั่งเก้าอี้นี้อีกครั้ง เพราะอยากทำงาน กระทรวงนี้มีงานให้ทำเยอะ และไม่ได้รู้สึกใจหาย เพราะเรียนมาด้านนี้โดยตรง และเป็นงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน เป็นงานที่คุ้นเคยตั้งแต่สมัยเรียนรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก ทำให้เลือกเรียนปริญญาตรีและปริญญาโทด้านการปกครอง ไม่ได้หมายความว่าการทำงานกระทรวงอื่นจะไม่ดี แต่เป็นเพียงคนละรสชาติ เช่น การทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ ดูแลปัญหาพืชผลทางการเกษตร ส่วนการนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องนิ่ง และใช้ความคิดที่ละเอียดอ่อน แต่กระทรวงมหาดไทยเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ทำให้รับรู้ถึงปัญหา และความลำบากของประชาชน ทั้งเรื่องน้ำ ไฟและที่ดิน ทั้งนี้ รู้สึกเสียดายที่ความตั้งใจ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และการแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพล เนื่องจากเป็นจุดที่มีปัญหา และเพิ่งจะดำเนินการได้ไม่นาน พร้อมฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงแม้เป็นคนเดิมที่ไม่อยากย้ำ แต่ยังเสียดายเรื่องเขากระโดง ที่เราดูข้อเท็จจริงแล้วว่า เป็นที่ดินของพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ต้น และมีการออกพระราชกฤษฎีกาคุ้มครองให้เป็นที่ดินหลวง ซึ่งกระบวนการผิดพลาดตรงไหน […]

“อนุทิน” เปิดตัว ว่าที่ รมว.พาณิชย์

“อนุทิน” เปิดตัว “ศุภจี” ว่าที่ รมว.พาณิชย์ พากินเค้กส้ม เผยเบื้องหลังจีบให้ร่วม ครม. ยกประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง ขอประชาชนเชื่อมั่นประสบการณ์ ขับเคลื่อนนโยบายมีประสิทธิภาพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับหารือกับนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภายหลังการหารือแล้ว นายอนุทิน ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยมีนางศุภจี ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายเอกนิติ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนขนาบข้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรีโดยเฉพาะคนที่มาจากนอกวงการเมือง คนที่เป็นมืออาชีพเรียบร้อยแล้ว ได้มีการทำความเข้าใจกัน หารือเรื่องนโยบายที่จะต้องดำเนินการในระยะเวลาที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับประเทศและประชาชน ขอยืนยันว่าในรัฐบาลนี้ จะมีมืออาชีพอีกท่านหนึ่งเข้ามาช่วยงานในด้านพาณิชย์ การค้าขาย การสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งนางศุภจี จะมาปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกำกับดูแล นายเอกนิติ โดยนางเอกนิติจะควบในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เมื่อถามว่า ทาบทามนางศุภจี มาร่วมงานได้อย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ตนใช้ความคาดหวังและผลประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติเป็นจีบท่าน และขอให้เห็นแก่เรื่องพวกนี้ […]

ผลโหวตสภาฯ เลือก “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ คนที่ 32

ผลโหวตสภาฯ เลือก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของประเทศไทย วันนี้ (5 ก.ย. 2568) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียง 311 เสียง ขณะที่นายชัยเกษม ได้คะแนน 152 เสียง โดยงดออกเสียง 27 เสียง โดยภายหลังการโหวต นายอนุทินได้เดินขอบคุณและทักทายเพื่อน สส. รอบห้องประชุมท่ามกลางบรรดา สส.ร่วมยินดีอย่างชื่นมื่น ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ยิ้มทักทายเพื่อน สส. โหวตนายกฯ คนที่ 32

5 ก.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของพรรคภูมิใจไทย เดินเข้าห้องประชุม เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระเลือกบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยเมื่อนายอนุทินเข้าภายใน ห้องประชุมพระสุริยัน สภาผู้แทนราษฎร มีสีหน้ายิ้มแย้ม มีบรรดาสมาชิกต่างเดินเข้ามาทักทาย ซึ่งบรรยากาศตั้งแต่เปิดประชุมเวลา 09.00 น. เต็มไปด้วยการอภิปรายและการแสดงจุดยืนของแต่ละพรรคการเมือง จนถึงเวลานี้ ที่ประชุมยังคงอยู่ในขั้นตอนการแถลงท่าที และยังไม่เริ่มลงคะแนนเสียงใดๆ ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

“อนุทิน” นำ 146 สส. พร้อมรับ 5 เงื่อนไขพรรคประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงจัดตั้งรัฐบาล และลงนามรับ 5 เงื่อนไขของพรรคประชาชน ว่า ตนและบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 146 คนที่อยู่ในที่นี้ จะขอแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา ทุกท่านคงได้รับรับทราบข้อมูลจากการแถลงข่าวของหัวหน้าพรรคประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนได้รับเงื่อนไข และข้อสรุปออกมาเป็นข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ว่าด้วยกรณีการเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แจ้งให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 146 คนรับทราบ นายอนุทิน กล่าวว่า พวกเราทุกคนต้องขอขอบคุณพรรคประชาชน คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน และพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาชนทุกท่าน ที่ได้มีมติของที่ประชุมผู้บริหารพรรคประชาชน ในการให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 146 คน มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ได้มอบรายชื่อ และให้คำมั่นกับพรรคประชาชน ว่าจะให้การสนับสนุนตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี และจะได้จัดตั้งรัฐบาลตามข้อเสนอของพรรคประชาชน ซึ่งทุกท่านได้ลงลายมือชื่อในเอกสารแสดงคำมั่น และตนจะได้นำส่งให้ผู้บริหารพรรคประชาชนไว้เป็นข้อมูลต่อไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขณะที่ ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ […]

ขอบคุณ “ปชน.” มีมติโหวตหนุนนั่งนายกฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าสภาเมื่อเวลา 09.45 น. โดยผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกรณีพรรคประชาชน แถลงสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ฝั่งพรรคเพื่อไทย ได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา แต่นายอนุทิน ไม่ได้ตอบคำถาม บอกแค่ว่าขอไปประชุมก่อน ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ดีใจหรือไม่ที่พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ตอบว่า “ก็ดีใจสิ และรู้สึกขอบคุณมากๆด้วย” เมื่อถามว่าพร้อมเซ็นตามข้อตกลงของพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พร้อมสิครับ ยอมรับได้ทุกข้อ” ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

แถลงหนุน นายอนุทิน นั่งนายกฯ คนที่ 32

พรรคประชาชน แถลงหนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูร นั่งนายกฯ คนที่ 32 ภายใต้ 5 ข้อเสนอ ยุบสภาใน 4 เดือน แก้รัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมแกนนำแถลง ข้อสรุป สนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

“ณัฐพงษ์” ยันแกนนำพรรคประชาชน ไม่มีธงโหวตนายกฯ

1 ก.ย. 68 “ณัฐพงษ์” ยืนยันแกนนำพรรคประชาชน ไม่มีธงโหวตเลือกนายกฯ เปิดโอกาสถกเต็มที่ ย้ำได้ข้อยุติ ก่อนวันโหวตแน่นอน.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางมายังที่ทำการพรรค พร้อมเปิดเผยก่อนการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดทิศทางในการผ่าทางตันโหวตนายกรัฐมนตรี โดยแนวทางในวันนี้ จะเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง ส่วนจะมีการลงมติหรือไม่ อยู่ที่การหารือของที่ประชุม เพราะหากได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันได้ อาจไม่จำเป็น แต่ตอนนี้ยังมีความคิดเห็นแตกต่างกันอยู่.สำหรับเงื่อนไขที่จะทำให้ไม่สามารถเคาะทิศทางโหวตได้ในวันนี้นั้น มีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งความเสี่ยงของฉากทัศน์ต่างๆ ตนขอยังไม่ลงรายละเอียดในตอนนี้.เมื่อถามถึงกระแสผู้สนับสนุนพรรคที่อยากให้ยึดจุดยืน โดยไม่เลือกพรรคไหนเลยนั้น นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ทุกอย่างควรพิจารณาทั้งหมด.ส่วนคาดว่าจะมีการโหวตได้เมื่อไหร่ หรือจะมีการเซอร์ไพรส์ไม่โหวตเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคงไปตอบแทนเพื่อน สส. รวมถึงองคาพยพของพรรคไม่ได้ เพราะในตอนนี้เป็นโอกาสที่ต้องหารือภายในกันให้รอบด้าน อาจให้คำตอบได้แค่ว่าจะพยายามหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด รอเย็นวันนี้ก่อน น่าจะได้ความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนคงได้รับฟังเสียงสะท้อน ทั้งความคิดเห็นในออนไลน์และออฟไลน์.ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

“แพทองธาร” ส่งมินิฮาร์ท ก่อนออกจากทำเนียบฯ

เมื่อเวลา 17.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลภายหลังแถลงเปิดใจต่อสื่อมวลชนหลังถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คดีคลิปเสียง สนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ผิดจริยธรรมร้ายแรง โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รักษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐ และคณะทำงานยืนส่ง โดยก่อนขึ้นรถนางสาวแพทองธาร ได้พูดคุยกับนายพิชัย อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยได้ลดกระจกส่งมินิฮาร์ท ให้กับสื่อมวลชนที่รอบันทึกภาพพร้อมยิ้ม และโบกมือลาสื่อมวลชน ที่ทำเนียบรัฐบาล ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

แทนคำตอบ 29 ส.ค.นี้ เข้าทำเนียบฟังคำวินิจฉัยหรือไม่

27 ส.ค.2568 ภายหลังการแถลงข่าวประกาศรายชื่อศิลปินแห่งชาติประจำปี 2567 ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ว่า ในวันที่ 29 สิงหาคม มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย คดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน โดยนายกรัฐมนตรี ได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อ ว่า จนถึงวันนี้กำลังใจดีอยู่หรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรี ก็ยังคงไม่หันมาตอบ จากนั้นผู้สื่อข่าว จึงบอกกับนายกฯ ว่าให้หันมายิ้มก็ยังดี แต่นายกฯ ยังคงยิ้มโดยไม่หันมาหาสื่อมวลชน ก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานที่กระทรวงวัฒนธรรมทันที ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

เยือน ม.เกษตรฯ พบ FC เล่าการตัดสินใจที่ลำบากที่สุด

25 ส.ค.2568 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พบบุคลากรและนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมสนทนาพิเศษ “เรื่องจริงจากชายแดน” โดยมีผู้ร่วมงาน ทั้งนิสิตปัจจุบัน และนิสิตเก่า บุคลากร เต็มความจุล้นออกจากห้องประชุม จากนั้น พลโทบุญสิน ตอบคำถามนักศึกษาเรื่องความท้าทายภารกิจการดูแลชายแดนว่า ไทยและกัมพูชาต่างฝ่ายต่างคิดว่าแผ่นดินนี้เป็นของตัวเอง เป็นความยากที่สองประเทศคุยกันไม่รู้เรื่อง นำไปสู่ความขัดแย้ง ด้วยการใช้อาวุธ พลโทบุญสิน กล่าวต่อว่า ภารกิจที่สร้างแรงกดดัน ที่ต้องตัดสินใจเสี้ยววินาที ระหว่างการรบกับการรอ การเจรจากับการยืนหยัด ตนถูกด่าขนานหนัก ลูกน้องขาขาด ทำไมไม่บุก ไม่ยิง บางครั้งบริบทการรับผิดชอบมันไม่ได้มีอยู่แค่นั้น แต่บริบทอื่น เช่น เศรษฐกิจ สังคม การเปิดสงครามประเทศชาติจะเกิดอะไรขึ้น จะเหมาะสมหรือไม่ในช่วงเวลานั้น หากไปทะเลาะเวลานั้นเหมือนไปรังแก จะถูกทั่วโลกประณามใช่หรือไม่ ต้องคิดหลายอย่าง หากปะทะกันจะเกิดอะไรขึ้น 15 ชีวิตนี้เป็นหม้ายทันที มันคุ้มแล้วใช่หรือไม่ คุ้มกับแผ่นดินใช่ แต่อย่างอื่นคุ้มหรือไม่ “ใช้ความดุอย่างเดียว แต่ไร้ความคิด ไม่รอบคอบในการตัดสินใจอันตรายมาก จะกลายเป็นเผด็จการ และประเทศไทยจะถูกทั่วโลก ประณามทันที แต่กรณีที่ผ่านมาเหมาะสมแล้ว เพราะเขายิงเราก่อน […]

1 2 3 105
...