อาเซียนเดินหน้าฟื้นเอฟทีเออียู

นนทบุรี  2 ส.ค. – อาเซียนหารือคู่เจรจาผ่านการประชุมทางไกล เคาะแผนงานด้านการค้าการลงทุนอาเซียน-อียู เตรียมชงรัฐมนตรี 2 ฝ่ายรับรอง 29 ส.ค.นี้ ฟื้นเจรจาเอฟทีเอระหว่างกัน เดินหน้าอัพเกรดเอฟทีเอกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ถกเปิดเสรีสินค้าอ่อนไหวกับจีน เกาหลีใต้เพิ่มเติม เดินหน้าปูทางทำเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา ส่วนรัสเซียเห็นพ้องเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาผ่านระบบทางไกล ระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยในการหารือกับสหภาพยุโรป (อียู) ได้เห็นชอบแผนงานด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-สหภาพยุโรป ปี 2563-2564 โดยจะเสนอให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ครั้งที่ 17 รับรอง วันที่ 29 สิงหาคม 2563 ซึ่งจะช่วยยกระดับความสัมพันธ์การค้าและการลงทุน และเป็นการเตรียมพร้อมในการกลับมาเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-อียู

“การประชุมวันที่ 29 สิงหาคม 2563 นอกจากจะให้การรับรองแผนงานดังกล่าวแล้ว ยังจะถือโอกาสหารือประเด็นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกและภูมิภาค เช่น การรับมือและฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 การปฏิรูปองค์การการค้าโลก และหาแนวทางการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี รวมทั้งจะมีการหารือถึงการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอระหว่างอาเซียน-อียู ที่หยุดชะงัก โดยปัจจุบันอียูมีความตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศในอาเซียน 2 ประเทศ คือ สิงคโปร์และเวียดนาม อยู่ระหว่างการเจรจากับอินโดนีเซีย และอยู่ระหว่างการพิจารณาฟื้นการเจรจากับมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย” นางอรมน กล่าว


นางอรมน กล่าวว่า สำหรับการหารือกับออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ได้มีการติดตามการดำเนินงานภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) และความคืบหน้าการเตรียมการเจรจาเพื่อปรับปรุงความตกลง AANZFTA ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2552 ให้ทันสมัย ตอบสนองสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในยุคการค้าดิจิทัล ซึ่งเบื้องต้นได้อนุโลมให้ใช้สำเนาใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าฉบับอิเล็กทรอนิกส์แทนเอกสารฉบับจริง เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ส่งออกมากขึ้นในช่วงโควิด-19

ส่วนผลการหารือกับจีน ได้ติดตามความคืบหน้าการใช้บังคับพิธีสารเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับจีน (ACFTA Upgrading Protocol) และการเจรจาเปิดเสรีสินค้าอ่อนไหวเพิ่มเติม โดยจะเริ่มหารือภายหลังการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งอาเซียนได้ย้ำต่อจีนว่าการลดภาษีต้องเป็นประโยชน์กับการค้า 2 ฝ่าย และต้องไม่มีมาตรการกีดกัน เช่น SPS รวมทั้งการเพิ่มความร่วมมือในสาขาอื่น ๆ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (NTMs) เพื่อพัฒนาเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่อไป

ทางด้านการหารือกับเกาหลี ได้ติดตามการดำเนินงานภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี (AKFTA) และการเจรจาเปิดเสรีสินค้าอ่อนไหวเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการเจรจาหลังจากการลงนาม RCEP เสร็จสิ้นแล้ว โดยเกาหลียังได้แสดงความพร้อมในการสนับสนุนอาเซียนผ่านโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ Technology Advice and Solutions from Korea (TASK) ที่มีเป้าหมายจะจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมและศูนย์ความร่วมมือด้านมาตรฐานในอาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาประเทศที่จะจัดตั้งโดยคาดว่าจะสามารถจัดตั้งได้ในปี 2564


 ขณะที่การหารือกับแคนาดา ได้มีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาจัดทำเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา โดยได้รับทราบความคืบหน้าการหารือด้านนโยบายการค้าของผู้เชี่ยวชาญอาเซียนและแคนาดา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนยน 2563 ที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องแรงงาน สิ่งแวดล้อม การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งพบว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นและระดับความคาดหวังที่ต่างกัน ที่ประชุมจึงเห็นควรจัดทำเอกสารอ้างอิง (Reference Paper) เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องขอบเขต ความคาดหวัง และหัวข้อที่เห็นควรมีในการจัดทำเอฟทีเอระหว่างกัน เพื่อเป็นข้อมูลนำเสนอต่อรัฐมนตรีเศรษฐกิจของทั้ง 2 ฝ่าย ในการพิจารณาตัดสินใจเรื่องนี้ โดยในส่วนการเตรียมการของไทย กรมฯ จะจัดหารือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้อมูลความคืบหน้าเรื่องนี้ และรับฟังความเห็นต่อการจัดทำเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา ต่อไป

สำหรับรัสเซีย ได้ร่วมกันพิจารณาผลการดำเนินงานตามแผนความร่วมมือการค้าและการลงทุนนับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา (Post-2017 ASEAN-Russia Trade and Investment Work Programme) ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมกันผลักดันความร่วมมือในสาขาเกษตร พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน การเงิน และเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนี้ ล่าสุด คณะกรรมการร่วมอาเซียนและรัสเซียได้อนุมัติโครงการด้านการเกษตรและประมง อาทิ การบริหารจัดการน้ำเสีย และระบบเครือข่ายการสื่อสารเพื่อการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืนให้กับประเทศในอาเซียนอีกด้วย และยังได้หารือกับผู้แทนของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Commission : EEC) ซึ่งเป็นฝ่ายเลขาของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ที่มีสมาชิก 5 ประเทศ ประกอบด้วย รัสเซีย คาซัคสถาน เบลารุส อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน เพื่อหารือด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ซึ่งที่ประชุมได้ให้ไฟเขียวกับข้อเสนอของ EEC ให้ขยายอายุแผนงานความร่วมมือระดับภูมิภาค (Programme of Cooperation : PoC) ระหว่างอาเซียนและสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียออกไปจนถึงปี 2568 เพื่อให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในเดือน ส.ค. 2563 พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้หารือกับญี่ปุ่น ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามพันธกรณีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอาเซียน–ญี่ปุ่น (AJCEP) ที่มีผลใช้บังคับกับไทยตั้งแต่ปี 2552 และการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน–ญี่ปุ่น สมัยพิเศษว่าด้วยการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 และรับทราบเรื่องความคืบหน้าการให้สัตยาบันพิธีสารฉบับที่หนึ่งเพื่อแก้ไขความตกลง AJCEP ของญี่ปุ่นและเวียดนาม ส่งผลให้พิธีสารดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 2563 ระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศสมาชิกอาเซียนที่ให้สัตยาบันแล้ว ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ เมียนมา สปป.ลาว และเวียดนาม โดยพิธีสารฉบับใหม่นี้ จะเป็นการยกระดับความตกลง AJCEP ให้ครอบคลุมไปถึงเรื่องการค้าบริการ การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และการลงทุนด้วย จากเดิมที่ครอบคลุมเฉพาะเรื่องการเปิดตลาดการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย