กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – คลังยัน สกนช. ต้องเป็นผู้รับภาระการชำระหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเอง โดยใช้รายได้ของตนเอง และ ก.คลัง ไม่สามารถตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้กับ สกนช. ได้ ดังนั้น จึงไม่เป็นภาระต่องบประมาณ และไม่ได้เป็นการผลักภาระให้กับประชาชนแต่อย่างใด
ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. … (ร่าง พ.ร.ก.ฯ) วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ว่าคณะรัฐมนตรีออกกฎหมายโยกหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มาเป็นหนี้สาธารณะ และให้ประชาชนเป็นผู้แบกรับนั้น
นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล โฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ให้ข้อมูลว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่กู้เงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ ประเภทหน่วยงานในกำกับดูแลของรัฐ ตามบทนิยามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทำให้การกู้เงินของ สกนช. จะนับเป็นหนี้สาธารณะ
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน สกนช. ยังไม่ได้ดำเนินการกู้เงินแต่อย่างใด นอกจากนี้แม้ว่าร่าง พ.ร.ก.ฯ ดังกล่าวจะกำหนดให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้แก่ สกนช. แต่การชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว สกนช. จะต้องเป็นผู้รับภาระการชำระหนี้ โดยใช้รายได้ของตนเอง และกระทรวงการคลังไม่สามารถตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้กับ สกนช. ได้ ดังนั้น จึงไม่เป็นภาระต่องบประมาณ และไม่ได้เป็นการผลักภาระให้กับประชาชนแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย