ธพว. หนุน ‘เบตงหมื่นล้าน’ บูมเศรษฐกิจท้องถิ่น

เบตง 7 ส.ค. – ธพว. หนุน “เอสเอ็มอีท่องเที่ยวเบตง” พลิกฟื้นธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด-19 ช่วย “เติมทุน” 60,000 ล้านบาท กว่า 30,000 ราย เผยครึ่งปีแรก 2565 เติมทุนให้เอสเอ็มอีไทยกว่า 32,000 ล้านบาท เติบโต 51% เมื่อเทียบปี 2564 สร้างเงินหมุนเวียนกว่า 146,000 ล้านบาท


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องให้กลับมาเดินหน้าธุรกิจได้เต็มศักยภาพ ธพว. ขานรับนโยบายรัฐบาล มุ่งสนับสนุนเอสเอ็มอีท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องเข้าถึงมาตรการ “เติมทุนคู่พัฒนา” เพื่อช่วยพลิกฟื้นธุรกิจ กลับมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยออก “สินเชื่อ SMEs Re-Start” วงเงิน 2,000 ล้านบาท นับจากเริ่มโครงการเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 มียอดยื่นกู้แล้วมากกว่า 860 ราย วงเงินมากกว่า 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเต็มจำนวนวงเงินภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งธนาคารกำลังขยายวงเงินให้กู้เพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท สะท้อนแนวโน้มเอสเอ็มอีกลุ่มท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง กลับมาเดินหน้าธุรกิจได้ดีอีกครั้ง

สำหรับความช่วยเหลือด้านการเงิน “สินเชื่อ SMEs Re-Start” ดังกล่าว เป็นหนึ่งในการสนับสนุนเอสเอ็มอีกลุ่มท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ ธพว. พาเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาลมาแล้วด้วย “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน” (Local Economy Loan) และ “สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash” รวมแล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ธพว. สนับสนุนเอสเอ็มอีท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งทุนไปแล้ว วงเงินมากกว่า 60,000 ล้านบาท จำนวนมากกว่า 30,000 ราย


ขณะเดียวกัน ยังช่วยเหลือด้าน “การพัฒนา” ควบคู่เสมอ ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ช่วยเพิ่มศักยภาพ สามารถปรับตัวสู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ เช่น จัดสัมมนาแนวโน้มการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 และช่วยยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว เป็นต้น นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2565 พาเข้าสู่กิจกรรมด้านการพัฒนารวมกว่า 35,000 ราย

นางสาวนารถนารี ระบุด้วยว่า แนวทางการสนับสนุนเอสเอ็มอีท่องเที่ยวนั้น ธพว. ใช้กระบวนการทำงานร่วมกับหน่วยงานในท้องที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ซึ่งจะรู้จักและเข้าใจความต้องการผู้ประกอบการในพื้นที่เป็นอย่างดี ก่อประโยชน์ให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากท้องถิ่น สร้างการเติบโตอย่างเหมาะสมและยั่งยืน

หนึ่งในต้นแบบ คือ ความร่วมมือกับ “คณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา” ผลักดันโครงการ “เบตงหมื่นล้าน” ส่งเสริมเอสเอ็มอีท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ยกระดับเพิ่มศักยภาพธุรกิจ รองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตท้องถิ่น รวมถึง ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผ่านการพาเข้าถึงแหล่งทุน “สินเชื่อ SMEs Re-Start” รวมถึง ต่อยอดพาเอสเอ็มอีธุรกิจท่องเที่ยว และมัคคุเทศก์ในท้องถิ่น เข้าถึงกิจกรรมพัฒนาเติมความรู้ เพื่อยกระดับธุรกิจและอาชีพ เช่น การตลาด ลดต้นทุนธุรกิจ เป็นต้น ช่วยปรับตัวรองรับการท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่กำลังจะเติบโต อีกทั้ง จับมือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายสินค้าที่ระลึก จัดโปรโมชั่นกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่าน E-book “โปรดี๊ดี เอสเอ็มอีทั่วไทย” ที่สามารถดาวน์โหลดใช้บริการได้ฟรีที่หน้าเว็บไซต์ของ ธพว. (www.smebank.co.th)


“ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 เป็นต้นมา ธพว. ยืนหยัดเคียงข้างดูแลเอสเอ็มอีอย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่เป็นมากกว่าสถาบันการเงิน ทั้งพาเข้าถึงแหล่งเงินทุน ควบคู่กับมีกระบวนการด้านการพัฒนา ยกระดับ เพิ่มศักยภาพธุรกิจ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเดินหน้ากิจการได้ด้วยดีอีกครั้ง” นางสาวนารถนารี กล่าวเสริม

สำหรับผลการดำเนินงานของธนาคาร ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแล้ว จำนวนประมาณ 7,500 ราย วงเงินกว่า 32,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 51% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (2564) สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 146,000 ล้านบาท ควบคู่กับช่วยด้านการพัฒนายกระดับธุรกิจ ปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เช่น โครงการเติมความรู้ ขยายตลาด จับคู่ธุรกิจ และพาเข้าโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นต้น

ทั้งนี้ กำหนดเป้าหมายตลอดปีนี้ (2565) จะสนับสนุนเข้าถึงแหล่งทุนไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านบาท ควบคู่สนับสนุนด้าน “การพัฒนา” กว่า 21,000 ราย ผ่านการจัดกิจกรรมอบรมยกระดับ เพิ่มศักยภาพธุรกิจ รูปแบบทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น Focus Group “เติมทุนเอสเอ็มอีไทย ติดเครื่องธุรกิจ” และบริการ “SME D Coach” ให้คำปรึกษาเอสเอ็มอีครบวงจร ช่วยให้เอสเอ็มอีเดินหน้าธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวแม่อายกังวลพบสารหนูในร่างกาย สธ.ยันไม่เกินมาตรฐาน

เชียงใหม่ 8 ก.ค. – หลังชาวบ้านริมลำน้ำกก บริเวณชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เครียดและกังวลกับปัญหาสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกก ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการใช้น้ำมานานกว่า 3 เดือน ตอนนี้ชาวบ้านยิ่งตื่นกลัวมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวการสุ่มตรวจปัสสาวะเด็กในชุมชนอย่างน้อย 2 คน พบสารหนูในร่างกาย ขณะที่สาธารณสุขเชียงใหม่ ยอมรับการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง 10 ราย พบสารหนู 9 ราย แต่ไม่เกินมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]