บีทีเอสเฮ ศาลปกครอง พิพากษายกเลิกประกวดราคาสายสีส้มรอบแรก ไม่ชอบด้วย กม.

กรุงเทพฯ 7 ก.ค.- ศาลปกครองกลาง พิพากษาในคดีบีทีเอส ฟ้องร้องคณะกรรมการฯ ม. 36 และ รฟม. กรณียกเลิกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวิทวงศ์) ในครั้งแรก โดยพิพากษา ชี้ว่าการยกเลิกไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ชะลอการประกวดราคารอบใหม่ที่เริ่มไปแล้ว ขณะที่ รฟม. ยืนยันเตรียมอุทธรณ์ภายใน 30 วันทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ ศาลปกครองกลางได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีล้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวิทวงศ์) ในครั้งแรก ซึ่งบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการยกเลิกการประกวดราคารอบแรกตามมติของคณะกรรมการ ม.36 ครั้ง 1/2564 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนถึงการออกประกาศยกเลิกโดยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.

เมื่อเริ่มอ่านคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ได้อ่านถึงคำฟ้องและคำโต้แย้งของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งแต่ในประเด็นว่า คณะกรรมการ ม.36 มีอำนาจ มีมติยกเลิกประกาศเชิญชวน และผู้ว่าฯ รฟม. มีอำนาจในการออกประกาศหรือไม่ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเป็นไปตาม พ.ร.บ. ร่วมทุน พ.ศ. 2562 มาตรา 6 หรือไม่ 


รวมทั้งคำโต้แย้งของฝ่ายผู้ถูกฟ้องที่ระบุว่า จำเป็นต้องมีการยกเลิก และออกประกาศยกเลิกการเชิญชวน ประกวดราคา รถไฟฟ้าสายสีส้มในครั้งแรก เนื่องจากหากไม่มีประกาศยกเลิกออกมา และศาลปกครองยังไม่มีคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการปรับเกณฑ์การประมูลในครั้งแรกในขณะนั้น 

เมื่อยังไม่มีการยกเลิกก็จะทำให้การเดินหน้าประกวดราคารอบใหม่ ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่งผลให้โครงการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ล่าช้า กระทบกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย–มีนบุรี) ที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเกิดความล่าช้า โดยภาพรวมสองปีกระทบกับการเปิดให้บริการต้องเลื่อนจากปี 2567 ไปปี 2569 ซึ่งระหว่างความล่าช้านี้เมื่อโครงการสายสีส้มฝั่งตะวันออกก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีต้นทุนในการดูแลรักษาระบบทั้งที่ยังไม่ได้เปิดให้บริการประมาณเดือนละ 41 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองไม่ได้ให้น้ำหนักกับประเด็นนี้โดยเห็นว่า การดำเนินการสามารถไปเร่งรัดได้ แต่ให้น้ำหนักกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 6 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องเรื่องของความโปร่งใส การเป็นหุ้นส่วนที่ดีในโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงประโยชน์ของสาธารณะว่า ได้รับผลกระทบหรือไม่


ดังนั้น ศาลจึงมีคำพิพากษาว่าการมีมติยกเลิกประกาศเชิญชวนรอบแรกและการออกประกาศไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้มีการชะลอการเดินหน้าประกวดราคารอบใหม่ ศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งให้ชะลอ รวมทั้งได้มีการหยิบยกประเด็นที่มีการยกเลิกในรอบแรก บริษัทที่ร่วมลงทุนกับบีทีเอสเป็นกิจการร่วมค้า ได้รับคืนเงินค่าซองไปแล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า กระบวนการประกวดราคาครั้งใหม่นี้จะยังมีความสมบูรณ์ เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ซึ่งได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาในวันนี้ ระบุว่าพอใจกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ให้ความยุติธรรม  และจะนำผลคำพิพากษาในวันนี้ไปหารือร่วมกับฝ่ายกฎหมาย โดยเห็นว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาว่าการยกเลิกการประกวดราคาในรอบแรก ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น ในปัจจุบันนี้ยังต้องถือว่ากระบวนการประกวดราคาในรอบแรก และประกาศเชิญชวนยังมีผลอยู่

ส่วนคำถามว่า ศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ชะลอการประกวดราคารอบใหม่นี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ ก็จะเป็นประเด็นที่ต้องนำไปหารือกับฝ่ายกฎหมายต่อไป รวมทั้งบริษัทก็มีความพร้อมที่จะเดินหน้าการประกวดราคาในรอบแรกอยู่แล้ว

ส่วนประเด็นว่า รฟม. จะมีการอุทธรณ์คำพิพากษานี้หรือไม่นั้น คงต้องรอดู ฝ่าย รฟม. อีกครั้ง โดยคดีที่เกี่ยวกับการยกเลิกการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ยังมีเหลืออีกหนึ่งคดี คือคดีที่มีการฟ้องดำเนินคดีอาญากับคณะกรรมการมาตราฯ 36 ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 27 กันยายนที่จะถึงนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกระบวนการประกวดราคารอบใหม่ ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวิทวงศ์) รฟม. ได้ประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมคัดเลือกเป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และเปิดขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Documents: RFP) ระหว่างวันที่ 27 พ.ค.-10 มิ.ย. 2565 ผลปรากฏว่า มีผู้ที่สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคา ทั้งสิ้น 14 ราย มีการจัดประชุมชี้แจงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา และมีกำหนดรับซองข้อเสนอในวันที่ 27 กรกฎาคม และเปิดซองข้อเสนอ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2565

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. ยืนยันว่า รฟม. จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลปกครองภายใน 30 วัน แน่นอน หรือถ้ามีประเด็นกฎหมายเพิ่มเติม ก็สามารถขยายและเวลาในการอุทธรณ์ตามกฎหมายได้

ส่วนการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกรอบใหม่ ยืนยันว่า กระบวนการจะเดินหน้าต่อไป เพราะที่ผ่านมา คดีนี้มีการฟ้องมาแล้ว 2 ครั้งในศาลปกครอง ซึ่งในครั้งแรกศาลปกครองก็ได้มีคำสั่งยกในประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้ชะลอการประกวดราคารอบใหม่ รวมทั้งศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษายืนไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะมีการชะลอการประกวดราคาครั้งใหม่ ที่ได้เริ่มต้นกระบวนการไปแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย