ไทยออยล์พร้อมร่วมมือรัฐ เงื่อนไขตามกฎหมาย-การค้าเสรี

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.- ไทยออยล์ชี้แจงข้อเท็จจริงประเด็นค่าการกลั่นน้ำมัน พร้อมสนับสนุนการดำเนินการของรัฐที่เป็นไปตามหลักของกฎหมายและการค้าเสรี


นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยออยล์ยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยวิธีการดำเนินการที่เหมาะสมภายใต้หลักของกฎหมายและการค้าเสรี เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นทุกรายต่างเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีหน้าที่ต้องดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้นด้วย

ทั้งนี้ ขอชี้แจงถึงธุรกิจกลั่นน้ำมันที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่ระบุว่ามีกำไรสูงนั้นโดยน้ำมันดิบถือเป็นต้นทุนวัตถุดิบหลักของผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งราคาในปัจจุบันมีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก อันเป็นผลมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการที่เริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์โควิด – 19 ที่คลี่คลายลง ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยมีการปรับตัวสูงขึ้น 


ประเด็นที่ 1 “ค่าการกลั่น ไม่ใช่ กำไรสุทธิ” ของผู้ประกอบกิจการโรงกลั่น ค่าการกลั่น คำนวณจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเบนซิน น้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา เป็นต้น หักด้วยต้นทุนราคาน้ำมันดิบ โดยผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นแหล่งพลังงานในกระบวนการกลั่น ทำให้ผลรวมปริมาณผลิตภัณฑ์ที่กลั่นได้อยู่ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 97 ของปริมาณน้ำมันดิบเท่านั้น  

ถึงแม้ว่า ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์จะคำนวณโดยหลักการข้างต้นแต่จะอ้างอิงราคาน้ำมันดิบดูไบเป็นหลัก ซึ่งข้อเท็จจริงโรงกลั่นต่างๆ จะมีการนำเข้าน้ำมันดิบจากหลายแหล่ง เช่น น้ำมันดิบเมอร์บาน จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือน้ำมันดิบอาระเบียน ไลท์ จากซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น ซึ่งราคาจะสูงกว่าน้ำมันดิบดูไบ โดยผู้ขายจะบวกค่าพรีเมียมน้ำมันดิบ (Crude Premium) หรือส่วนต่างราคาน้ำมันดิบที่เราซื้อจริงกับราคาน้ำมันดิบดูไบเข้าไปในสูตรราคาด้วย ซึ่งในระยะนี้ เนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบอยู่ในภาวะตึงตัวจึงทำให้ค่าพรีเมียมน้ำมันดิบ ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับปกติค่อนข้างมาก 

ค่าการกลั่นจึงไม่ใช่กำไรสุทธิของผู้ประกอบการโรงกลั่น เนื่องจากยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายดำเนินการอื่นๆ อีก อาทิ ค่าพรีเมียมน้ำมันดิบ ค่าพลังงานอื่นๆ ค่าสาธารณูปโภค ค่าบำรุงรักษาโรงกลั่น ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น  


ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยลักษณะและสภาพธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมที่มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นจึงมีการเข้าทำสัญญาขายผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปล่วงหน้าเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง เมื่อเห็นว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปล่วงหน้ามีความเหมาะสม ดังนั้น เมื่อราคาปรับสูงขึ้นเกินกว่าราคาที่ทำสัญญาไว้ล่วงหน้า นอกจากผู้ประกอบการจะไม่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับเพิ่มขึ้นมากนักแล้ว ยังต้องบันทึกการขาดทุนจากการเข้าทำสัญญาดังกล่าวด้วย

ดังนั้น การสรุปว่าเมื่อส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มสูงขึ้นมากเทียบกับวัตถุดิบแล้ว จะทำให้ผู้ประกอบการโรงกลั่นมีกำไรเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนนั้น จึงเป็นสมมติฐานที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด

ประเด็นที่ 2 โรงกลั่นไม่ได้เป็นผู้กำหนดค่าการกลั่น ผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นไม่ได้เป็นผู้กำหนด “ค่าการกลั่น” และไม่สามารถกำหนดค่าการกลั่นได้ เนื่องจาก “ค่าการกลั่น” ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของตลาดน้ำมันดิบ และตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเป็นหลัก ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นระดับราคาน้ำมันแต่ละชนิดในแต่ละช่วงเวลา เห็นได้จากในอดีตที่โรงกลั่นต้องแบกรับภาระขาดทุนในบางช่วงเวลาหากไม่นับรวมกำไรจากธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่ม เนื่องจากค่าการกลั่นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เช่น ในช่วงปี 2563 – 2564 ที่เกิดวิกฤติการณ์โควิด – 19 และมีความต้องการใช้น้ำมันน้อยลงมากเป็นต้น

ประเด็นที่ 3 การพิจารณาค่าการกลั่นควรใช้ค่าเฉลี่ยระยะยาว เนื่องจากธุรกิจการกลั่นมีลักษณะเป็นวัฏจักรขึ้น – ลง โดยปกติค่าการกลั่นเฉลี่ยรายเดือน หรือ รายไตรมาสก็ตาม จะมีความผันผวนขึ้นลงได้มาก ดังนั้น การนำค่าการกลั่นเฉลี่ยระยะสั้นมาพิจารณาว่าโรงกลั่นมีกำไรมากเกินควร จึงไม่ถูกต้อง หากนำค่าการกลั่นเฉลี่ยตั้งแต่เดือนมกราคม2563 จนถึงเดือนธันวาคม 2564 ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โควิด – 19 และโรงกลั่นประสบภาวะขาดทุนซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.30 บาทต่อลิตรมาเฉลี่ยรวมกับช่วงต้นปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่วิกฤติการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย แต่กลับมีเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ค่าการกลั่นอยู่ที่ 2.80 บาทต่อลิตร จะพบว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยรวมตลอดช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 0.70 บาทต่อลิตร ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนวิกฤติการณ์โควิด-19 ทั้งที่โรงกลั่นมีภาระการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงกลั่นและเพิ่มคุณภาพน้ำมันให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 ตามกฎหมาย

ประเด็นที่ 4 ตลาดการค้าน้ำมันเป็นกลไกการค้าเสรี ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปถือเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทหนึ่งเช่นเดียวกับ ทองคำ น้ำตาล ข้าวโพด ฯลฯ จึงต้องมีการอ้างอิงตลาดที่มีความน่าเชื่อถือ มีผู้ซื้อ/ผู้ขายจำนวนมาก และปริมาณการซื้อขายในระดับสูง ซึ่งยากต่อการแทรกแซงราคาและเป็นราคาที่สะท้อนอุปสงค์และอุปทานน้ำมันที่แท้จริงซึ่งในภูมิภาคนี้ ได้แก่ “ตลาดสิงคโปร์” เนื่องจากโรงกลั่นของสิงคโปร์ เป็นการกลั่นเพื่อส่งออก ทำให้ราคาในตลาดสิงคโปร์จะสะท้อนราคาส่งออกที่แท้จริง

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เปลี่ยนแปลงสอดคล้องกับตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ทั้งในตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา ดังนั้น หากมีการกำหนดราคาในประเทศใดประเทศหนึ่งแตกต่างจากตลาดอื่นอย่างมาก ซึ่งเป็นการบิดเบือนกลไกของตลาดเสรี ก็จะทำให้เกิดการไหลเข้าหรือออกของผลิตภัณฑ์น้ำมันจากตลาดอื่นตามมา.-สำนัก​ข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]