รัฐสภา 16 มิ.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุผลการประชุม กกร.ให้ต่ออายุสินค้าและบริการควบคุม 51 รายการออกไปอีก 1 ปี รวมถึงกลุ่มสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย ขณะที่ราคา ATK ทั่วประเทศลดลง 30-42% และมติการขนย้ายข้าวโพดจะต้องขออนุญาตเพิ่มเติมขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดกับ 7 อำเภอ พร้อมขอบคุณภาคเอกชนที่ช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนตามแนวทาง จะพยายามตรึงสินค้าทุกรายการให้นานที่สุดแม้ต้นทุนจะสูงขึ้นไปบ้าง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พร้อมด้วยผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่อาคารรัฐสภา ว่าที่ประชุม กกร. มีประเด็นสำคัญ 3 เรื่อง คือ ประเด็นที่ 1 ให้ต่ออายุสินค้าและบริการควบคุมออกไปอีกเป็นเวลา 1 ปี โดยสินค้าควบคุมมีทั้งหมด 46 รายการ และบริการมี 5 รายการ รวมเป็น 51 รายการ โดยให้ต่ออายุตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566
ประเด็นที่ 2 เรื่อง ATK ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้จำหน่ายได้ใน 4 ช่องทางคือ 1.สถานพยาบาล 2.หน่วยงานของรัฐ 3.ร้านขายยา 4.อื่นๆ ที่เลขาธิการ อย. กำหนด ปรับปรุงแก้ไขให้สามารถจำหน่ายได้ในทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีประกาศกำหนดแล้วคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จะปรับปรุงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกัน ประชาชนสามารถหาซื้อ ATK ได้ในทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และในส่วนของราคามีการสำรวจพบว่าราคาในปัจจุบันถูกลงมาก เช่น ราคาที่จำหน่ายในระบบออฟไลน์ตามร้านขายยา สถานพยาบาล เป็นต้น ปรับลดลงมาถึง 30% และราคาที่จำหน่ายในระบบออนไลน์ปรับลดลงมาถึง 42% ถูกลงมามากในปัจจุบัน
และประเด็นที่ 3 เรื่องข้าวโพด วันนี้ที่ประชุมมีมติให้ผู้ที่จะขนย้ายข้าวโพดจะต้องขออนุญาตเพิ่มเติมขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัด กับ 7 อำเภอ ซึ่งเดิมต้องขออนุญาตการขนย้ายข้าวโพดใน 12 จังหวัด 45 อำเภอ 1 เขต คือท่าเรือคลองเตย เพิ่มอีก 3 จังหวัด 7 อำเภอ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีการนำเข้า ประกอบด้วย 1.จังหวัดตรัง อ.กันตัง 2.จังหวัดระนอง อ.เมือง 3.จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 อำเภอ คือ 1.อ.เมือง 2.อ.สังขละบุรี 3.อ.ไทรโยค 4.อ.ทองผาภูมิ และ 5.อ.ด่านมะขามเตี้ย เป็นต้น
นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ต้องขอขอบคุณภาคเอกชนต่างๆ ที่ช่วยกันตรึงสินค้าอุปโภคและบริโภคไว้ได้นานพอสมควร แม้ว่าจะได้รับผลกระทบต่อต้นทุนในด้านต่างๆ มากพอสมควร แต่ทุกฝ่ายได้เห็นใจภาคประชาชนที่จะไม่ซ้ำเติมด้วยการปรับขึ้นสินค้า แต่ได้ช่วยกันตรึงสินค้าต่างๆ เอาไว้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าก็มีหลายรายการสินค้าที่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนก็เสนอขอปรับเพิ่มสินค้ามาให้กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาอยู่หลายรายการ ซึ่งรวมถึงกลุ่มสินค้าบะหมื่กึ่งสำเร็จรูปด้วย แม้ว่าจะมีกระแสข่าวผู้ผลิตบางรายแบกรับภาระต้นทุนผลิตบะหมื่กึ่งสำเร็จรูปไม่ไหว โดยจะขอปรับเพิ่มจากซองละ 6 บาท เป็น 7 บาท โดยอ้างว่าไม่ได้ปรับขึ้นมาเป็นเวลา 14 ปีแล้วนั้น ซึ่งตนได้ตอบเรื่องนี้มาหลายรอบ และยังไม่มีการให้ปรับขึ้นสินค้ากลุ่มนี้ ซึ่งเห็นใจที่แบกรับต้นทุนไว้ แต่การปรับเพิ่มขึ้นของสินค้าจะมีคณะทำงานโดยกรมการค้าภายในจะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม ไม่ใช่จะขอขึ้นเท่าไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น โดยกรมการค้าภายในจะมีสูตรการคำนวณของต้นทุนสินค้าในแต่ละชนิดอยู่แล้ว เช่น สินค้า 1 รายการ ไม่ใช่ต้นทุนจะเพิ่มทุกรายการ ดังนั้น หากการปรับขึ้นจะเน้นวิเคราะห์ถึงต้นทุนที่แท้จริง แต่เวลานี้กระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือจากภาคเอกชนที่จะช่วยกันตรึงสินค้าอุปโภคและบริโภคไปก่อน เพื่อช่วยเหลืดลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน และหากประชาชนพบเห็นสินค้าที่ขายเกินความเป็นจริง สามารถร้องเรียนสายด่วน 1569 ได้ทันที ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ต่อไป
ทั้งนี้ เท่าที่ติดตามยังไม่มีสินค้าขาดตลาด ส่วนน้ำมันพืช โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ขณะนี้ตั้งอนุกรรมการ 5 ฝ่ายแล้ว ประกอบด้วย ตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนโรงสกัด ตัวแทนโรงกลั่นน้ำมันขวดบริโภค ตัวแทนผู้ส่งออกและตัวแทนส่วนราชการ มีอำนาจหน้าที่ติดตามกำกับดูแลว่าควรกำหนดสตอกน้ำมันปาล์มสำหรับการบริโภคไว้เท่าไร และเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ ส่วนที่เหลือจะดำเนินการอย่างไร อนุกรรมการจะพิจารณาให้เกิดความสมดุลทั้งปริมาณการผลิตผลปาล์ม การสกัด การผลิตน้ำมันบริโภคสำหรับประชาชนทั่วทั้งประเทศ ซึ่งมีสินค้าขอขึ้นราคาในบางรายการกระทรวงต้องดูในรายละเอียดไม่ใช่ยื่นแล้วจะอนุญาต ต้องดูลึกในแต่ละตัวว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นในปริมาณเท่าใด ถ้าต้องขึ้นราคาต้องเป็นอย่างไร ตนมอบเป็นนโยบายไปแล้ว ให้ดูลึกละเอียดส่วนการพิจารณาเป็นอำนาจหน้าที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมาย โดยมีการขอปรับขึ้นมาในสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการ
“ส่วนใหญ่พยายามตรึงราคาไว้ ที่ผ่านมาตรึงมาหลายเดือนแล้ว ทุกคนเห็นว่าประสบความสำเร็จ เพราะถ้าปล่อยให้ตามปกติ เช่น แทนที่ราคาจะไปที่ 20 บาท อาจไปถึง 25-30 บาท เราพยายามตรึงไว้ถ้ าปรับลดลงได้ก็จะปรับลด ถ้าใช้โครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนได้ จะร่วมมือกันกับภาคเอกชนดำเนินการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและสินค้าหลายรายการราคาลดลงมาในช่วงที่ผ่านมา และเรื่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตนได้ตอบไปแล้วว่าได้มีการขอปรับราคาหลายครั้ง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการอนุญาต และยังขอความร่วมมือโดยจะพยายามตรึงราคาให้นานที่สุด ต้องขอความร่วมมือ ซึ่งผู้ประกอบการให้ความร่วมมืออย่างดี เพราะท่านทราบว่าจะกระทบประชาชนจำนวนมาก เพราะจะกระทบผู้มีรายได้น้อยจำนวนมากที่ต้องพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต้องขอบคุณผู้ประกอบการที่ช่วยตรึงราคาด้วย” นายจุรินทร์กล่าว.-สำนักข่าวไทย